บทที่ 5 รู้ได้ยังไง
ความเงียบที่ได้จากฉันทำให้มือแกร่งที่จับข้อมือของฉันอยู่แน่นค่อยๆ บีบโดยการทุ่มแรงไปยังข้อมือของฉันหมดจนความเจ็บปวดเข้ามาเล่นงานมากขึ้นแรงขึ้นเป็นหลายเท่าตัว
“ตอบ” ไม่สนแล้วว่าคนอย่างเธอจะเจ็บปวดเจียนตายมากแค่ไหนยังไม่ผมก็ไม่ได้เข้าไปเจ็บอะไรด้วยซ้ำไป “จะว่าเสือกก็ได้ยอมรับวะ!”
“ฉันจะมาทำอะไรแล้วมันเกี่ยวกับนายตรงไหน?” ใบหน้าหล่อยังมองหน้าฉันอยู่แบบนั้นโดยไม่เบี่ยงมองตรงไหนเลยด้วยซ้ำไป “ไม่เห็นนายจะเกี่ยว!”
ฉันตั้งใจสะบัดข้อมือที่ถูกบีบจนเป็นรอยซ้ำปนกับรอยแดงๆ เพียงเพราะสีผิวที่ขาวเด่นมากเลยพลอยทำให้มันเกิดรอยง่ายไป
โอ้ย..!
คราวนี้ตัวของเมญ่าเข้าอยู่ในอ้อมกอดของผมอย่างง่ายดาย กลิ่นน้ำหอมเดิมๆ ที่เธอใช้เป็นประจำก็ยังไม่เปลี่ยนไปสักนิด
“นะ นายมันบ้า! ปล่อยฉัน”
พอรู้สึกตัวฉันก็พยายามใช้มืออีกข้างดันหน้าอกของคนตัวใหญ่กว่าให้ออกไปห่างๆ จนแล้วจนรอดทุกอย่างมันก็ไม่ขยับเขยื้อนเลยสักนิดเดียวอีกทั้งโจเนสยังใช้มือใหญ่อีกข้างของเขาเข้ามากดศีรษะของฉันเข้าไปสบหน้าอกตัวเองอย่างหน้าด้านๆ
“อย่ามาป่วนไอ้ซัน” ผมพูดออกมาอย่างช้าๆ “ถอนหมั้นกับมันซะ!”
“ทำไมรักฉันหรอไงหรือว่านึกเสียดายขึ้นมาล่ะ?”
รู้ไหมว่าลึกๆ ฉันใจเต้นอย่างบ้าระห่ำรุนแรงมากเพียงไหนที่ได้ยินประโยคนี้จากคนที่ตัวเองรักมาตลอดแม้ร่างกายของเราจะห่างไกลกันคนละซีกโลกเพียงไหนก็ตามความต้องการของก้อนเนื้อข้างซ้ายมันก็ยังดันทุลังสั่งให้ฉันมาเหยียบและหยัดยืนตรงหน้าโจเนสจนได้ในขณะเดียวกันการที่โจเนสใช้ฉันถอนหมั้นกับซันถึงมันจะดูแปลกไปก็เถอะแต่ว่ามันก็เหมือนว่าฉันอาจทำให้หัวใจโจเนสสั่นคลอนได้แล้วก็เป็นได้ถึงแม้ว่าฉันจะคิดไปเองก็ตามในตอนนี้
ความอวดดีที่ไม่มีวันสิ้นสุดของเมญ่าที่เธอใช้คำพูดฉุดกระชากอารมณ์ที่คุกกรุ่นขึ้นตั้งแต่แรกสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยในนาทีนี้บอกเลยว่าเอาอะไรมาฉุดรั้งเอาไว้มันก็ไม่มีวันหยุดอย่างแน่นอน ผมตั้งใจบีบข้อมือของเธอแรงขึ้นๆ อย่างกับเกมที่มีการเพิ่มเลเวลขึ้นโดยไม่มีสิ้นสุด
“ชั้นไม่เคยรักเธอด้วยซ้ำไป มีแต่เธอเองไม่ใช่ที่รัก ระ..”
“พอ!”
“รักชั้นข้างเดียวมาตลอดแล้ว...”
“ฉันบอกให้พอไงโจเนส!!”
เสียงฉันตะคอกใส่ใบหน้าหล่อเข้มของโจเนสอย่างไม่มีที่สิ้นสุดส่วนมืออีกข้างก็จัดการทุบรัวๆ ไปที่หน้าอกใหญ่อย่างบ้าคลั่ง
“ตอนนี้ก็ยังรัก”
“โจเนส!”
“แค่นี้ก็รับไม่ได้หรือไงวะ!”
ผมมองเมญ่าที่ระดมรัวกำปั้นเล็กๆ ทุบตีร่างกายของผมอย่างบ้าคลั่งตามความเอาแต่ใจของเธอที่ติดนิสัยมาตั้งแต่เด็ก
“ใช่ รับไม่ได้ที่คนอย่างนายมาสั่งให้คนอื่นอย่างฉันถอนหมั้นซันไง ไอ้คนโง่!”
“…”
“คราวนี้อย่ามาพูดแบบนี้กับคนอย่างฉันอีก!” การรวบรวมแรงครั้งสุดท้ายสะบัดแขนออกจากการจับกุมได้สำเร็จ “ถ้านายไม่มีธุระอะไร ขอตัว!”
“…”
ที่เธอผละออกจากการจับของผมอย่างง่ายดายเพราะว่าไม่อยากจับรั้งแม่ตัวดีเอาไว้ตางหากเพราะมันมีวิธีที่ดีกว่านี้เป็นหลายเท่า
มัวแต่มองหน้าแล้วทำตัวนิ่งใครจะไปรู้ละว่าคิดหรือจะพูดอะไรขึ้นมา จะมาให้คนอย่างเมญ่าคิดหรอ? บอกเลยว่ามันเสียประโยชน์เปล่าในขณะที่ฉันกำลังคว้ากระเป๋าใบเดิมลากออกมาก็ชะงักเมื่อมีมือใหญ่กระชากข้อมือด้วยความแรง
“เอ๊ะ! โจเนส”
สายตาสีน้ำตาลแดงลุวาวด้วยความไม่พอใจเสียงแว๊ดแหลมเมื่อกี้เข้าไปในโสตประสาทของผมจนมันจี๊ดเข้าสมอง ผมไม่ชอบเสียงตะคอกของเมญ่าเลย
“…”
“นายกำลังทำให้ฉันโกรธนะ!”
“แล้วทำไม?”
“จะ จะ พาฉันไปไหน?”
“หึ..”
โจเนสฉุดกระชากร่างกายฉันอีกครั้งด้วยความรุนแรงมากกว่าเดิมหลายเท่าตัวแต่ละการก้าวเดินของเขานั้นมันทำให้ฉันต้องวิ่งอย่างช้าๆ เพื่อที่จะได้ก้าวทันไม่อย่างงั้นโจเนสลากฉันทะลุหญ้าเล็กๆ พวกนี้ไปแน่นอน
ถึงแม้เมญ่าจะใช้สองมือยื้อโดยการรั้งร่างกายที่ผอมแห้งของตัวเองถ่วงเอาไว้เป็นบางครั้งแล้วมันก็ช่วยอะไรไม่ได้พวกมาถึงห้องพักผมก็จัดการเหวี่ยงเมญ่าเข้าไปทันที
แกร๊ก!
นี่มัน...
นี่มันห้องฉันเองไม่ใช่เหรอเมื่อกี้สายตาฉันก็เห็นว่าเลขที่ห้องมันเหมือนกับเลขที่สลักเอาไว้บนกุญแจห้องของฉันเลย
