บทที่ 5
เสิ่นอวี้เจียวไม่รู้ว่าลูกในท้องไม่ใช่ของลู่ซวี่
แต่จะอย่างไร นั่นกลับยิ่งทำให้นางเกลียดนางมากขึ้น ผู้หญิงคนไหนหลังออกเรือนย่อมไม่อยากเห็นผู้หญิงอื่นมีลูกกับสามีของตน
ยิ่งกว่านั้น หญิงคนนั้นยังเติบโตมาตั้งแต่เด็กกับสามีของตนด้วย
เสิ่นอวี้เจียวใช้ทุกวิถีทางกลั่นแกล้งหลินซือซือ ช่วงแรกนางยังเกรงใจอวี๋เยว่ฝูผู้เป็นแม่สามีอยู่บ้าง แต่ต่อมาเมื่อเห็นอวี๋เยว่ฝูเพิกเฉย ดูเหมือนว่าถ้าไม่ทำหลินซือซือถึงตายก็จะไม่ยุ่งเกี่ยวด้วย นางก็ยิ่งทำตัวไม่เกรงกลัวใครอย่างโจ่งแจ้ง
หลังจากคลอดบุตรแล้ว ลู่ซวี่ก็มาพักที่เรือนของนางบ่อยครั้ง
นางอยากมีลูกกับลู่ซวี่ แต่อวี๋ซื่อไม่ยอม
บอกว่านางได้ให้กำเนิดลูกชายคนโตแล้ว และภรรยาหลวงก็ยังไม่มีลูกเลย ไม่สามารถมีลูกได้อีก
ดังนั้นทุกครั้งหลังจากมีอะไรกัน นางจะดื่มซุปคุมกำเนิดที่เหริ่นตงนำมาให้
แม้ว่าลู่ซวี่จะขยันมาร่วมเรือนกับนางอยู่บ่อยครั้ง แต่ตอนที่เสิ่นอวี้เจียวทรมานนาง เขาก็เพียงทำเป็นไม่เห็น
พอได้ยินมาเยอะก็บอกไปว่าเขายุ่งกับงานราชการ ก็เลยอย่าให้เขากังวลเรื่องเรือนหลังอีก หากเกิดอะไรขึ้นสามารถไปหาอวี๋ซื่อได้
พ่อของเสิ่นอวี้เจียวเป็นเสนาบดีกรมการทหาร เป็นกำลังสนับสนุนสำคัญของลู่ซวี่ เขาพยายามเอาใจเสิ่นอวี้เจียวยังแทบไม่ทันเลย
เขาไม่ชอบเด็กคนนั้นเลย ไม่ให้เข้าใกล้ และตั้งชื่อเด็กว่าลู่จิ้ง
ซึ่งชื่อจิ้งนั้นไม่เป็นมงคลเลย
ความจริงที่เขามาที่นี่ ก็เพียงเพื่อต้องการร่างกายของนางเท่านั้น
ในยามค่ำคืน เมื่อมองหน้าเด็กที่หลับอยู่ หลินซือซือก็คิดในใจว่า ถ้าในตอนนั้นนางเลือกแต่งงานกับคุณชายใหญ่ไปล่ะ
แม้เขาจะเย็นชา แต่ก็ไม่น่าจะเกลียดลูกของตนเองหรอกนะ
ตอนนี้ ได้แต่ร้องไห้อย่างเงียบ ๆ
เมื่อลู่จิ้งอายุได้สามขวบกว่า เกิดเจ็บป่วยอย่างรุนแรง นอนทรมานบนเตียงมาเดือนกว่าก็ไม่ดีขึ้น สุดท้ายจึงเชิญหมอหลวงมา
หมอหลวงบอกว่า เป็นโรคที่ถ่ายทอดมาตั้งแต่ในท้อง หากจะรักษาให้หาย ต้องใช้เลือดจากพ่อแท้ ๆ เป็นส่วนผสมยา
ปกติอวี๋ซื่อก็ไม่ค่อยสนใจเด็กคนนี้ แต่คราวนี้กลับเข้ามาพูดกับหลินซือซือว่า
“เพื่อเด็กคนนี้ เจ้าเขียนจดหมายไปหาคนนั้นที่อยู่ซีเป่ยเถอะ ให้เขากลับมาอย่างลับ ๆ หน่อย”
หลินซือซือลังเล แต่เพราะโรคของเด็กไม่ดีขึ้น หากไม่คิดหาทางแก้ เด็กอาจเสียชีวิตได้
สุดท้ายหลินซือซือจึงได้เขียนจดหมาย ถึงแม้ไม่แน่ใจว่าเขาจะกลับมาเพื่อลูกจริงหรือไม่
เพราะเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตนมีลูกอยู่
ผ่านไปครึ่งเดือน เขาก็ได้กลับมา
ยืนอยู่หน้าประตูเรือนของนางท่ามกลางแสงจันทร์ เสื้อผ้าเปื้อนฝุ่นจากการเดินทาง
เหตุการณ์หลังจากนั้นเกินคาดของทุกคน
หลังจากเก็บเลือดให้เด็กเสร็จ ในเช้าวันรุ่งขึ้น ขณะที่ลู่ฉ่างกำลังออกจากเมือง ก็ถูกจับที่หน้าประตูเมือง
ฝั่งซีเป่ยเกิดสงครามทันที ชนเผ่าทูโบบุกเข้ามา ขณะที่ลู่ฉ่าง ผู้บัญชาการทหารของราชวงศ์ต้าเสิ่น กลับออกจากกองทัพโดยไม่ได้รับอนุญาต
กองทัพซีเป่ยพ่ายแพ้อย่างยับเยิน มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บถึงเจ็ดแปดหมื่นคน
ราชสำนักตกใจ คำร้องต่อว่าลู่ฉ่างมากมายมหาศาล สุดท้ายแม้ฮ่องเต้ก็ปกป้องเขาไม่ไหว สั่งถูกประหารในปลายเดือน
หลินซือซือซึ่งอยู่ในเรือนหลัง ไม่รู้เรื่องอะไรเลย นางยังไม่รู้ด้วยว่าในเวลาไม่กี่ปี เขากลับกลายเป็นผู้บัญชาการของกองทัพซีเป่ย
นางรู้เพียงว่า หลังจากดื่มเลือดของพ่อแท้ ๆ ลู่จิ้งก็หายป่วยจริง ๆ
ช่วงแรกหลินซือซือยังไม่เชื่อถือหมอหลวงคนนั้น
แต่พอนึกย้อนกลับไป ก็รู้สึกว่าหมอหลวงก็คงมีการสมคบคิดกันกับคนเหล่านั้น
วันหนึ่ง เสิ่นอวี้เจียวชวนนางออกไปดูความคึกคักข้างนอกกะทันหัน บอกว่าวันนี้มีขุนนางคนสำคัญของราชสำนักจะถูกประหารเพราะทำให้แผนการทางทหารเสียหาย
นางไม่อยากไป แต่เสิ่นอวี้เจียวบอกว่าคน ๆ นี้มีส่วนเกี่ยวข้องกับนางด้วย ถ้าไม่ไปจะเสียใจภายหลัง นางเลยติดตามออกไปด้วยความสงสัย
ผู้ที่ยืนอยู่บนแท่นประหาร ก็คือลู่ฉ่าง
“หลินซือซือ เกี่ยวข้องกับเจ้าใช่ไหมล่ะ ข้าไม่ได้โกหกเจ้า”
เสิ่นอวี้เจียวชี้ไปที่คนบนแท่นประหาร และหัวเราะเยาะ
เลือดในกายของหลินซือซือเย็นเฉียบราวกับน้ำแข็งทันที ไม่ว่าอย่างไร เขาก็เป็นพ่อแท้ ๆ ของลูก นางไม่หวังให้เขาเป็นอันตราย
ยิ่งกว่านั้น การที่เขาถูกประหาร อาจเกี่ยวข้องกับการที่ให้เขากลับมาแบบลับ ๆ ครั้งนี้หรือไม่?
นางไม่คิดอะไรมาก วิ่งฝ่าทุกสิ่งไป แต่ถูกทหารขวางเอาไว้
“ลู่ฉ่าง…”
นางเอาแรงทั้งหมดตะโกนเรียก
ลู่ฉ่างหันมาตามเสียง พลันได้เห็นนาง
เขาดูงุนงงเล็กน้อย แต่ไม่นานก็ปรากฏรอยยิ้มจาง ๆ ที่มุมปาก
ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความห่วงใย คล้ายกำลังถามว่า
“เด็กหายดีแล้วใช่ไหม?”
ไม่รู้ทำไม หลินซือซือกลับร้องไห้ออกมา
จนกระทั่งใกล้เสียชีวิต นางจึงรู้ว่า ทั้งหมดนี้เป็นแผนร้ายทั้งสิ้น
ตั้งแต่ตอนที่นางตั้งครรภ์ และอวี๋ซื่อให้นางคลอดลูก ตั้งแต่ตอนนั้นเอง นางก็หลงลึกเข้าไปในเกมนี้แล้ว
“ไม่คิดเลยว่าพวกเจ้าที่เป็นสามีภรรยาเพียงคืนเดียวแท้ ๆ แต่เขากลับยอมกลับมาสละชีวิตเพื่อเด็ก ช่างดีเหลือเกิน แค่กระทำการง่าย ๆ ก็ช่วยท่านอ๋องแปดตัดอุปสรรคใหญ่ที่สุดออกไปแล้ว ฮ่องเต้ก็เสียแขนไปหนึ่งข้าง ช่างเยี่ยมจริง ๆ”
ตอนนี้ซือซืออ่อนแรงจนเงยหน้าขึ้นไม่ได้ เพราะถูกเสิ่นอวี้เจียวบังคับให้ดื่มยาเย็นจัดสองวันติดต่อกันแล้ว
“พวกเจ้า พวกเจ้ากล้าก่อกบฏหรือ?” หลินซือซือเบิกตากว้าง
“ทำไมจะไม่กล้าเล่า ทุกอย่างพร้อมหมดแล้ว แค่รอเวลาที่เหมาะสม แต่เจ้าจะไม่ได้เห็นวันนั้นหรอก ข้าต้องขอบใจเจ้าสุด ๆ ทรัพย์สินเดิมของเจ้าทั้งหลาย แม่สามียกให้ข้าทั้งหมด ก็เพราะข้าสามารถช่วยคุณชายรองขึ้นสู่ตำแหน่งสูงได้ คุณชายรองอายุเพียงยี่สิบสองปี ตอนนี้ก็เป็นถึงรองเสนาบดีกรมขุนนางในราชสำนักแล้ว รอท่านอ๋องแปดขึ้นครองราชย์ ก็จะเป็นเสนาบดีกรมขุนนางที่อายุน้อยที่สุดของราชวงศ์ต้าเสิ่น ฮ่า ฮ่า ฮ่า”
เสิ่นอวี้เจียวลูบท้องที่เริ่มมีครรภ์แล้ว หัวเราะอย่างท้าทาย
“เสิ่นอวี้เจียว ถ้าเจ้ากล้าฆ่าข้า ท่านน้าและพี่ขายซวี่จะไม่ยอมเด็ดขาด” หลินซือซือพูดด้วยความไม่เต็มใจ
“หลินซือซือ เจ้าคิดหรือว่าแม่สามีหวังดีต่อเจ้าจริง ๆ น่ะ? นางให้เจ้าคลอดลูก ก็เพียงเพราะต้องการใช้เด็กคนนั้นเป็นหมากตัวหนึ่ง เพื่อคอยควบคุมลู่ฉ่างต่างหาก สุดท้ายลู่ฉ่างไม่ใช่คนธรรมดา ตอนอายุสิบหก เขาก็สามารถตัดหัวแม่ทัพของชนเผ่าทูโบได้แล้ว พ่อข้าบอกว่า เขาเป็นแม่ทัพที่หายากยิ่งนัก”
“ส่วนเจ้า ตอนนี้ไม่มีค่าอะไรเหลืออีกแล้ว ตั้งแต่วันที่เจ้าย้ายทรัพย์สมบัติจากไห่หนิงเข้ามาในเมืองหลวง เจ้าก็หมดความหมายแล้ว ยิ่งตอนนี้ลู่ฉ่างตายไปแล้ว เจ้าก็ไม่มีค่าแม้แต่น้อย”
เมื่อครั้งที่ลูกชายลู่จิ้งอายุได้สองขวบ อวี๋ซื่อก็ให้หลินซือซือขายที่นา บ้านเรือน และร้านค้าทั้งหมดที่เมืองไห่หนิง โดยบอกว่า เวลาผ่านไปนาน หากญาติทางตระกูลหลินที่ไห่หนิงคิดจะฮุบสมบัติไปเสีย ก็จะลำบากน่าดู
หลินซือซือเชื่อฟังโดยไม่สงสัย นางเดินทางไปไห่หนิงด้วยตนเอง ทางฝั่งปู่และลุงเมื่อทราบว่านางแต่งให้กับลูกพี่ลูกน้องแท้ ๆ ของตนเอง แถมยังมีลูกชายแล้ว ต่างก็ยินดีเป็นอย่างยิ่ง ไม่มีใครทำให้นางลำบากเลย เพียงแค่บอกให้นางมีเวลาพาลูกกลับมาเยี่ยมบ้านบ้างก็พอ
ทรัพย์สินเงินทองทั้งหมดสุดท้ายก็ตกถึงมือของอวี๋ซื่อ
หลินซือซือไม่อาจเชื่อได้เลย อวี๋ซื่อใจดำอำมหิตถึงเพียงนี้ นางไม่ใช่น้าของตนหรอกหรือ?
“เจ้าช่างโง่จริง ๆ แม่และยายของเจ้าก็โง่ เรื่องสำคัญขนาดนั้นกลับไม่เคยบอกเจ้าเลย สมน้ำหน้าแท้ ๆ ที่แม่สามีจัดการเจ้าได้ง่ายดาย ก็เพราะเจ้าโง่ตายกันไปเองนั่นแหละ รีบดื่มยานี่ซะ บางทีบนเส้นทางสู่ยมโลก เจ้าอาจตามลูกชายของเจ้าทันก็ได้”
“พวกเจ้าฆ่าลู่จิ้งอย่างนั้นเหรอ? เขาแค่สามขวบกว่า ๆ เองนะ พวกปีศาจ...”
“อ้าว พวกเจ้าตายไปหมดแล้ว จะให้เขาอยู่ลำพังได้ยังไงล่ะ? ข้าก็แค่หวังดี ให้พวกเจ้าได้รวมตัวกันในนรกเท่านั้นเอง”
