บท
ตั้งค่า

บทที่ 4

หลินซือซือรู้เพียงว่าอวี๋เยว่ฝูแต่งเข้าจวนแม่ทัพเจิ้งกั๋วหลังจากที่ภรรยาคนแรกเสียชีวิตไป แต่ไม่รู้ว่านางเคยเป็นอนุภรรยามาก่อน แล้วจึงถูกยกฐานะขึ้นเป็นภรรยาหลวง

หลินซือซือมองอวี๋เยว่ฝูด้วยความตกตะลึง

อวี๋เยว่ฝูรู้ตัวว่าพูดพลั้งไป แต่ก็ไม่ได้ใส่ใจนัก พูดเพียงว่าเรื่องนี้ต้องวางแผนค่อยเป็นค่อยไป เพราะลู่หวยสี่เป็นผู้นำครอบครัว ต้องรอให้เขาอนุมัติเสียก่อน

แม่นมจางเตือนหลินซือซือให้ย้ายออกจากจวนแม่ทัพเจิ้งกั๋ว ย้ายไปอยู่บ้านท่านตา หรือกลับไปยังบ้านเกิดที่ไห่หนิงก็ได้

แต่หลินซือซือกลับเหมือนบ้าไปแล้ว ไม่ยอมจากไป และเพื่อเอาใจคนในจวนลู่ นางกลับยอมถวายทรัพย์สมบัติที่พ่อแม่เหลือไว้ให้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า

แม่นมจางถอนหายใจไม่หยุด

อวี๋ซื่อแอบพูดกับหลินซือซือว่า

“สือสือ แม่นมจางคอยย้ำให้เจ้าออกจากเรือนบ่อย ๆ อาจมีความคิดอื่นแอบแฝง เจ้าต้องระมัดระวัง อย่าให้คนรับใช้หลอกลวงไป”

หลินซือซือกล่าวตอบ

“ท่านน้าเจ้าคะ แม่นมจางเพียงแค่เป็นห่วงข้าเท่านั้นเอง นางเคยช่วยชีวิตแม่ของข้าไว้ และพ่อแม่ของข้าไว้วางใจให้นางมาดูแลข้า ก็คือเชื่อใจนางเต็มที่เจ้าค่ะ”

“ซือซือ เจ้ายังเด็กนัก ยังไม่เข้าใจว่าหัวใจคนบางครั้งก็เปลี่ยนแปลงได้ เจ้าควรสังเกตให้ดี น้าหวังดีต่อเจ้าทั้งนั้น”

ผ่านไปไม่กี่วัน มีพนักงานจากร้านผ้ามาที่จวนแม่ทัพเจิ้งกั๋ว พร้อมกล่าวว่าแม่นมจางว่า ตลอดหลายปีมานี้ คอยยักยอกเงินของเจ้านาย

หลินซือซือไม่เชื่ออยู่แล้ว

แต่ฝ่ายตรงข้ามเรียกคนจากบ่อนพนันชื่อดังที่สุดในเมืองหลวงมา บอกว่าลูกชายของแม่นมจางไปเล่นพนันที่นั่น เมื่อเสียก็ไปถอนเงินจากร้านผ้า ทำให้ตอนนี้ร้านผ้าเกือบหมดตัว

หลินซือซือเพิ่งอายุเพียงสิบหกปี ยังไม่เข้าใจการบริหารทรัพย์สมบัติของตัวเองดีนัก นางรู้เพียงว่าพ่อแม่ซื้อร้านค้า นาไร่ และบ้านเรือนในเมืองหลวงให้มากมาย แต่การบริหารจัดการทั้งหมด เป็นหน้าที่ของผู้จัดการหลัวของหอจินเป่า ส่วนแม่นมจางมีหน้าที่ตรวจสอบบัญชี

หลินซือซือขี้เกียจแม้แต่จะตรวจสอบบัญชีประจำปี ทุกครั้งแม่นมจางล้วนส่ายหัวอยู่นั่น

ดังนั้น เมื่อได้ยินว่ามีคนกล่าวหาว่าแม่นมจางยักยอกเงินไปโดยลับ ๆ นางถึงกับอึ้งไปเลย

อวี๋ซื่อคอยยุยงอยู่ข้าง ๆ บอกว่าหากไม่ใช่เพราะหลินซือซือมอบร้านผ้าให้นาง แล้วนางไปตรวจบัญชี ก็ไม่รู้เลยว่าภายในเกิดอะไรขึ้น และไม่ทราบว่าหลินซือซือจะยังถูกบ่าวผู้นี้หลอกลวงอีกนานเท่าไหร่

ความผูกพันหลายปีระหว่างหลินซือซือกับแม่นมจางย่อมไม่ธรรมดา

แม่นมจางคุกเข่าทันที

“คุณหนูเจ้าคะ ลูกชายของบ่าวไปเล่นพนันจริง ๆ บ่าวก็เพิ่งทราบเรื่องนี้ หากคุณหนูจะไปแจ้งความ จะทำอย่างไรก็แล้วแต่ บ่าวไม่มีข้อโต้แย้ง แม้ต้องลงโทษหนักจนถึงชีวิต แต่บ่าวปฏิบัติต่อคุณหนูด้วยความจริงใจทั้งสิ้น”

โดยปกติ หลินซือซือไม่เคยให้แม่นมจางเรียกแทนตัวเองว่าบ่าว และยิ่งเป็นไปไม่ได้ที่จะให้นางคุกเข่า

นางถึงกับตกใจ

ทุกคนล้วนให้หลินซือซือจัดการแม่นมจาง

หลินซือซือลังเล แล้วตัดสินใจให้คุมตัวแม่นมจางไว้ก่อน เพราะอยากสืบสวนสอบสวนอย่างละเอียดเสียก่อน

พอดีในตอนนี้ นางพบว่าประจำเดือนไม่มาเกือบสองเดือนแล้ว เมื่อนางบอกอวี๋ซื่อและเรียกหมอในจวนมาก็พบว่าท้อง

หลินซือซือตกใจมากจนเสียสติ

อวี๋ซื่อเงียบไปนาน แล้วสั่งให้หมอเงียบปากก่อน

หลินซือซือต้องการทำแท้งเด็ก แต่อวี๋ซื่อลังเลและบอกให้รออีกสักหน่อยแล้วค่อยหารือกันในวันพรุ่งนี้

วันรุ่งขึ้น อวี๋ซื่อมาโน้มน้าวใจไม่ให้ทำแท้ง สิ่งนี้ไม่ดีต่อสุขภาพ ผู้หญิงจำนวนมากมีบุตรยากไปตลอดชีวิตเพราะการทำแท้ง อย่างไรก็ตาม นี่เป็นสายเลือดของตระกูลลู่เช่นกัน ดังนั้นดูเหมือนเป็นลูกของลู่ซวี่ละกัน

เพียงแต่ ก็ต้องให้นางยอมเป็นอนุภรรยาของลู่ซวี่ในตอนนี้

หลินซือซือจึงคิดจะปรึกษาแม่นมจางโดยสัญชาตญาณ

อวี๋ซื่อพูดอยู่ข้าง ๆ ว่า “ซือซือ หากเจ้าวางใจแม่นมจางนัก ก็เรียกผู้จัดการหลัวมาสิ ฟังเขาเล่าถึงเรื่องของแม่นมจาง เจ้าก็บอกเองว่า เรื่องภายในให้แม่นมจางดูแล เรื่องภายนอกให้ผู้จัดการหลัวจัดการ แสดงว่าทั้งสองคนเป็นผู้ที่พ่อแม่เจ้าวางใจอย่างยิ่ง”

หลินซือซือคิดดูแล้ว นี่ก็เป็นวิธีที่ดี เพราะแม่นมจางและผู้จัดการหลัวสัมผัสกันมากที่สุด

เมื่อผู้จัดการหลัวมาถึง ช่วงแรกเขายังไม่พูดอะไรแต่สุดท้ายก็เอ่ยด้วยน้ำเสียงเจ็บปวด

“คุณหนูขอรับ ข้าผิดไปแล้ว ผิดต่อความไว้วางใจของเจ้านาย ลูกชายแม่นมจางไม่ได้เพียงแต่ไปถอนเงินจากร้านผ้าเท่านั้น แต่ยังมักอ้างชื่อแม่นมจางไปถอนเงินจากหอจินเป่าอีกด้วย”

คำพูดของผู้จัดการหลัว ทำให้ความผิดของแม่นมจางชัดเจนขึ้นทันที อวี๋เยว่ฝูถึงกับเอ่ยว่าอยากลงโทษประหารชีวิตทาสที่ทรยศต่อเจ้านายผู้นี้

แต่หลินซือซือไม่อาจทำใจรุนแรงถึงขั้นนั้น แค่พูดเพียงว่าไล่นางออกไปก็พอ

ก่อนจากไป แม่นมจางคุกเข่าต่อหน้าหลินซือซือ หลั่งน้ำตาอาบแก้ม

“คุณหนู บ่าวผิดที่สั่งสอนลูกไม่ดี แต่บ่าวไม่เคยทรยศต่อคุณหนู คุณหนูมีทรัพย์สมบัติมหาศาล บ่าวกลัวจะมีคนคิดร้าย จึงอยากให้คุณหนูคิดให้รอบคอบก่อนทุกอย่าง”

แม่นมจางยังชี้ทางเลือกให้หลินซือซือสองทาง คือทำแท้งเด็กแล้วกลับไปอยู่บ้านตาของตน หรือกลับไปยังบ้านเกิดที่ที่ไห่หนิง

“คุณหนูมีสมบัติมากมาย แม้เคยมีเรื่องเสียหาย หากอยากหาสามีดี ๆ ก็ไม่ใช่เรื่องยาก หากเจ้าฝืนอยู่ต่อในจวนแม่ทัพเจิ้งกั๋ว ก็กลัวว่าจะถูกคนเอาเปรียบจนหมดตัว”

หลินซือซือร้องไห้ มองแม่นมจางถูกไล่ออกจากจวนแม่ทัพเจิ้งกั๋ว

ตอนนี้รอบตัวนางเหลือเพียงชิวอวิ๋นและเหริ่นตง ซึ่งเหริ่นตงเป็นคนที่น้ามอบให้ด้วย

ส่วนชุนอวี่ ถูกอวี๋ซื่อขายออกไปตั้งแต่วันรุ่งขึ้นหลังเหตุการณ์ของนางกับคุณชายใหญ่ลู่ฉ่าง

หลินซื่อซื่อลูบท้องของตนด้วยความงงงัน

นางยังคงคิดจะทำแท้ง ไม่อย่างนั้น นางต้องแบกรับความอับอายนี้ไปตลอดชีวิต

ลู่ซวี่กลับดูประหลาดใจและบอกให้นางคลอดเด็กออกมาก่อน เพราะนี่ก็เป็นสายเลือดของตระกูลลู่ และพี่ชายฉ่างก็จะไม่กลับมาอีก ก็ถือว่าเป็นลูกของเขาเอง

แต่ท่าทางของเขาดูไม่ได้ดีใจนัก เหมือนถูกบังคับ

อวี๋ซื่อก็มาบอกว่า น้าเขยทราบแล้วว่าเจ้ามีลูกหลานของตระกูลลู่ ยอมให้เจ้าเป็นอนุภรรยาของลู่ซวี่

เท่ากับว่าก่อนหน้านี้นางยังไม่มีสิทธิ์เป็นอนุภรรยาหรือ

ก็สมเหตุสมผล เพราะลู่หวยสี่น่าจะโกรธแค้นนางอย่างมาก ที่ทำให้ลูกชายคนโตของเขาเสียหายไปหมด

ชิวอวิ๋นและเหริ่นตงก็โน้มน้าวใจนางว่าอย่าเสี่ยงไปทำแท้งเด็ก

หลินซือซือสับสน ล่าช้าไปเรื่อย ๆ ท้องก็เริ่มโตขึ้นเรื่อย ๆ เด็กในท้องก็ไม่สามารถทำแท้งได้อีกต่อไป ในที่สุดนางก็กลายเป็นอนุภรรยาของลู่ซวี่

ไม่มีพิธีใด ๆ เลย

ครั้งหนึ่งนางป่วยหนักมาก บังเอิญผู้จัดการหลัวมาที่บ้านเพื่อรายงานบัญชีให้นาง

นางไม่สามารถลุกขึ้นได้ด้วยซ้ำ

อวี๋ซื่อจึงบอกให้นางให้ความสำคัญกับร่างกายเป็นหลัก โดยเอ่ยว่า

“ซือซือ ดูแลร่างกายเป็นเรื่องสำคัญ ส่วนเรื่องเหล่านี้ ให้น้าช่วยจัดการก็ได้”

จากนั้น เรื่องราวต่าง ๆ ก็เริ่มถูกส่งให้อวี๋ซื่อดูแลแทนทั้งหมด

ผ่านไปครึ่งปี เสิ่นอวี้เจียวแต่งเข้ามาเป็นภรรยาหลวง และในวันรุ่งขึ้นหลังแต่งงาน นางก็พาสาวใช้เข้ามาในเรือนของหลินซือซือเพื่อดูถูกนาง

“หลินซือซือ สตรีงามจะไม่มีชายสองคนหรอกนะ คนอย่างเจ้า ก็มีเพียงคุณชายรองผู้เมตตาเท่านั้นที่จะช่วยเจ้าเอาไว้ อย่าเอาความใจดีของคนอื่นไปใช้เป็นอาวุธ เขาให้เด็กคนนี้แก่เจ้า เจ้าก็อยู่เฉย ๆ ในเรือนของเจ้าไป อย่าออกมาขายหน้าเสียอีก”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel