บท
ตั้งค่า

9. สองคู่สองสไตล์

“แฟนคุณป่านนี่ดูสำอางจังเลยนะธีม..หวีผมซะเรียบแปร้เชียว.. “

นภาพร กระซิบกระซาบกับธีรยุทธ หลังจากที่เปมิกา กับบุรินทร์คล้อยหลังออกไปแล้ว

“นินทาแฟนคนอื่น เดี๋ยวก็ถูกคนอื่นนินทาแฟนตัวเองบ้างหรอก..” ธีรยุทธล้อเล่นกับหล่อน

“แหม..แฟนของแมวไม่มีอะไรให้น่านินทาในทางไม่ดีสักหน่อย…”

“ธีม..เพอร์เฟคขนาดนั้นเชียว…” อีกฝ่ายทำเสียงสูงไม่เชื่อถือ

“ก็แหงล่ะ…หล่อ รวยและแสนดี” หล่อนพูดเอาใจเขา

“แต่ตอนนี้กำลังรวยหนี้จ๊ะ..แมวก็รู้ว่าบริษัทกำลังจะไปไม่รอด…” ธีรยุทธเริ่มเครียดขึ้นมา

“ธีม…ลองทวนสัญญาที่มีให้กับแมวเมื่อตอนบ่ายนี้ให้ฟังหน่อยสิคะว่าธีมสัญญาอะไรไว้”

ธีรยุทธ มองหน้าคนรักด้วยแววตาสำนึกผิด

“พูดสิคะว่าสัญญาอะไรไว้…ก่อนที่จะมาที่นี่..”

นภาพร เร่งให้เขาทวนสัญญา

“สัญญาว่าจะไม่พูดเรื่องที่บริษัทจ๊ะ..”

“ธีมต้องรักษาสัญญาสิคะ….เราปวดหัวกับเรื่องนี้ทุกวันแล้วนะคะ ตอนนี้ขอเป็นเวลาที่ดีสำหรับเราสองคนดีกว่านะคะ คนดี๊คนดี…”

นภาพร ยื่นหน้าไปยิ้มให้เขา ทำให้ธีรยุทธต้องปรับสีหน้าให้ยิ้มตามไปด้วย เขารู้สึกสบายใจเสมอเมื่ออยู่ใกล้แฟนสาว และหากเขาไม่ประสบปัญหาทางธุรกิจก็คงจะแต่งงานกับหล่อนไปแล้ว เพราะทั้งบิดา มารดาของนภาพร ต่างก็สนับสนุนอยากให้เขากับนภาพรได้แต่งงานกัน

อรรคพงษ์ บิดาของนภาพร รับราชการอยู่ในกระทรวงแรงงาน ในขณะที่ปรางทอง มารดาเป็นแม่บ้าน แต่ปรางทอง มีอาชีพเสริมด้วยการออกเงินกู้ให้กับพ่อค้าแม่ค้าในตลาดจนสามารถสร้างรายได้ให้กับครอบครัวได้

นภาพร ยังมีพี่สาวอีกหนึ่งคนคือ สมร ซึ่งแต่งงานกับชาวแคนาดาชื่อ เอริค และไปใช้ชีวิตครอบครัวอยู่ที่นั่น ปัจจุบันสมร มีลูกสาววัยห้าขวบ

“เดือนหน้าพี่หมอนจะพาครอบครัวมาเยี่ยมบ้าน ธีมช่วยหาโปรแกรมเที่ยวหน่อยสิคะ..”

นภาพร พูดถึงพี่สาวที่ส่งข่าวจะกลับประเทศไทยในอีกไม่กี่วันนี้

“ธีม ต้องไปเที่ยวด้วยหรือเปล่า…” เขาหยั่งเสียง

“ต้องสิคะ..ถามได้…เราสองคนต้องบริการครอบครัวพี่หมอนค่ะ..”

“ธีมจะมีกะจิตกะใจเที่ยวหรือเปล่าก็ไม่รู้…ปัญหาที่บริษัทยังแก้ไม่ได้เลย”

“อีกแล้วนะธีม…วกไปเรื่องไม่สบายใจอีกแล้ว ..ลืม ๆ มันบ้างเถอะหนี้สินน่ะ..ไม่ตายเราก็ต้องหาหนทางออกได้…ถ้าไม่ไหวจริง ๆ เราก็ให้พี่หมอนช่วยแล้วก็ไปทำงานกันที่แคนาดาก็ได้นี่คะ…”

“ธีมเป็นผู้ชายนะแมวจะให้เป็นฝ่ายไปอาศัยญาติพี่น้องของแมวได้ยังไงกัน”

“ชอบคิดมากไปได้ ไม่เห็นว่ามันจะเป็นอะไรเลยนี่คะ”

“แต่ธีมไม่อยากให้ใครมาดูถูกเอา “

“ใครจะมาว่าเราได้ล่ะคะ...นี่แมวกะว่าจะขอยืมเงินคุณแม่มาให้ธีมอยู่นะคะเนี่ย..แค่ธีมจ่ายดอกเบี้ยให้คุณแม่แค่นี้ก็ไม่มีใครมาดูถูกธีมหรอกค่ะ”

“ดอกเบี้ยร้อยละยี่สิบไม่ไหวมั้งแมว…”

ธีรยุทธ ส่ายหัวยิ้ม ๆ เขารู้ว่าปรางทองปล่อยเงินกู้ด้วยดอกเบี้ยแสนโหดเกินไป

“แหม..ถ้าปล่อยให้ว่าที่ลูกเขยในอนาคตแม่คงไม่คิดดอกขนาดนั้นหรอกค่ะ ยังไงแมวจะช่วยพูดให้ดีไหมคะ…” นภาพร เสนอ

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่นภาพรหาทางออกให้กับธีรยุทธ ซึ่งเขายังลังเลไม่อยากให้ปรางทองมองเขาด้วยความรู้สึกที่ไม่ดี

“ไหนบอกจะไม่พูดเรื่องที่บริษัท..แมวผิดสัญญาเองนะ…” ธีรยุทธกล่าวสัพยอก

“เผลอจนได้สิน่า…ก็ธีมน่ะแหละพาเขว..ไม่เอาแล้วงั้นเรื่องนี้เอาไว้ให้พิจารณานะคะ ต่อไปเราคุยเรื่องเที่ยวกันดีกว่า….”

ธีรยุทธ มีสีหน้าดีขึ้น เขาจะพยายามทำให้หล่อนมีความสุขมากที่สุด จะไม่นำเรื่องเครียด ๆ มารบกวนในระหว่างนี้ นภาพรดีใจที่เห็นเขายิ้มได้หล่อนจึงตักอาหารป้อนเขาอย่างเอาใจ

“ดูคู่ของคุณธีมกับคุณแมวสิคะ ดูสวีทกันดีจังเลย…”

เปมิกา บอกบุรินทร์ หล่อนมองเห็นคู่ของธีรยุทธกับนภาพร กำลังป้อนอาหารให้กันพอดี หล่อนเองก็อยากจะให้บุรินทร์ หัดตักอาหารบริการหล่อนอยู่เหมือนกัน ไม่ถึงกับต้องป้อนแบบคู่นั้นก็ได้

“ผมว่าดูยัยแมวอะไรนั่นจะเป็นฝ่ายสวีทคนเดียวซะมากกว่า เห็นเดี๋ยวก็จับมือผู้ชายเดี๋ยวก็ยื่นหน้าไปคลอเคลีย ดูแล้วน่ารำคาญมากกว่า” บุรินทร์วิจารณ์

เปมิกา ได้แต่ถอนหายใจ หล่อนรู้ว่าคงไม่มีวันที่จะเปลี่ยนแปลงให้บุรินทร์ กลายเป็นชายที่โรแมนติกไปได้ เขามักจะชอบติผู้หญิงเกือบทุกคน ยังดีที่เขายังยกเว้นเปมิกาไว้หนึ่งคน ที่ยังไม่เคยโดนบุรินทร์ตำหนิหรือวิจารณ์แบบไม่ชอบใจ

“แต่ป่านว่าดูคุณแมวก็น่ารักดีนี่คะ..”

เปมิกา พูดจากความรู้สึกหวังให้คนรักคล้อยตามด้วย

“ผมไม่เห็นว่าจะน่ารักตรงไหนออกจะน่าเกลียดด้วยซ้ำ ป่านไม่ต้องไปเลียนแบบผู้หญิงคนนั้นหรอก เป็นอย่างนี้ดีแล้ว ไม่ทำท่าออเซาะ ออดอ้อนหรือดัดจริตเหมือนที่ผมเห็นผู้หญิงสมัยนี้ชอบให้ท่าผู้ชาย ผมว่ามันไม่น่าดูเลยนะ”

เปมิกา ได้แต่อึ้งกับความรู้สึกของคนรักที่มีต่อผู้หญิง แต่หล่อนรักเขา จึงมองว่าคำพูดทุกคำที่เขาพูดออกมามันคือความจริงใจ หล่อนคบกับบุรินทร์มาเกือบจะสามปีแล้ว ได้เรียนรู้นิสัยใจคอเขาพอสมควรทีเดียว

คำพูดที่ตรง ๆ ของเขา บางครั้งอาจจะดูแรงไป แต่แปลกที่เปมิกา ยอมรับได้หมด นี่กระมัง...ที่คนเขาถึงพูดกันว่า ความรักมักทำให้คนหูหนวก ตาบอด

บุรินทร์ ไม่ใช่ผู้ชายที่จะมางอนง้อเอาอกเอาใจเปมิกา แล้วเขาก็ให้เกียรติหล่อนมากด้วย ตั้งแต่คบกันมาเขาไม่เคยล่วงเกินอะไรหล่อนเลย นี่คือสิ่งหนึ่งที่เปมิการู้สึกชอบบุรินทร์ เพราะหล่อนยังมีความคิดแบบสมัยเก่าอยู่ สำหรับเรื่องการรักนวลสงวนตัว ตราบใดที่ยังไม่แต่งงานหล่อนก็จะไม่ยอมที่จะเสียความบริสุทธิ์ไป ใครจะว่าหล่อนเชยในสังคมยุคนี้ก็ช่างเถิดทว่ามันคือสิ่งที่หล่อนภาคภูมิใจมากที่สุด

“แล้วนี่ป่านจะได้รับเงินชดเชยเมื่อไหร่…”

บุรินทร์ เปลี่ยนหัวข้อสนทนา

“คงอาทิตย์หน้า..พร้อม ๆ กับรับฟังผลว่าใครจะได้รับเข้าทำงานต่อกับบริษัทตามหนี้ที่ตั้งขึ้นใหม่เพื่อตามหนี้เสียของบีบีซี.”

“ป่านต้องได้รับเลือกแน่ ๆ เลย” บุรินทร์ พูดให้กำลังใจ

“คงยากค่ะ…เพราะเขารับสาขาละสามคนเท่านั้นเอง สาขาของป่านมีทั้งหมดยี่สิบห้าคน”

“ตราบใดผลยังไม่ออกมา ป่านก็ไม่ต้องคิดไปล่วงหน้าหรอกปวดหัวเปล่า ๆ เอาเป็นว่ามื้อนี้ป่านไม่ต้องแชร์ค่าอาหารกับผมก็แล้วกัน ผมเลี้ยงเอง”

บุรินทร์ แสดงความมีน้ำใจ ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่พิเศษไม่ได้เกิดขึ้นง่าย ๆ เลย

“แต่ป่านช่วยเติมน้ำมันรถตอนผมไปส่งที่คอนโดก็แล้วกัน...”

เปมิกา กำลังจะฉีกยิ้มก็ต้องยิ้มค้างเมื่อได้ยินประโยคต่อมาของเขา..แต่หล่อนก็ทำใจได้ในเวลาอันรวดเร็ว เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่บุรินทร์พูดเช่นนี้..จะว่าหล่อนชินก็ได้

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel