8. นัดแฟนร้านเดียวกัน
“ถ้าสมัครงานที่ไหนก็ไม่ได้ ผมว่าเราน่าจะทำงานส่วนตัวกันนะ..” นิกรเป็นคนออกความเห็น
“ทำอะไรดีล่ะนิกร..” สุรพลถามด้วยความสนใจ
“ออกอัลบั้มนู้ดรวมเล่มไงครับ แก้ผ้าถ่ายรูปกันทั้งแผนกนี่แหละ..ให้พี่ป่านขึ้นปกเป็นการเชิญชวนให้คนเปิดดูในเล่ม” นิกรอธิบายจบก็สร้างเสียงหัวเราะให้กับทุกคน
“เออ..เข้าท่าดีเหมือนกันนะ ให้ป่านยืนเปลื้องผ้าแล้วทำหน้าเซ็กซี่คู่กับโลโก้สตางค์แดงของแบ็งก์ คนเขาจะได้รู้ว่าเป็นสาวแบ็งก์บีบีซี. มีโลโก้รับประกัน ส่วนตากล้องก็ไม่ต้องไปจ้างให้เปลืองงบประมาณหรอก ใช้ตากล้องฝ่ายสินเชื่อเรานี่แหละ อาศัยประสบการณ์จากที่ไปถ่ายรูปหลักทรัพย์จำนอง ก็หันมาถ่ายรูปนางแบบแทน”
ไกรสิทธิ์ช่วยผสมโรงด้วยความสนุกสนาน
“เฮ้ย..จะเอาไอ้ป่านขึ้นปก คิดดีแล้วหรือวะ หาที่สวย ๆ เซ็กส์ ๆ กว่านี้สิ..” สุรพลทักท้วง
“ทำไมพี่พล…ป่านไม่สวยตรงไหนถึงจะขึ้นปกไม่ได้”
เปมิกา หันไปแกล้งถามเพื่อจะได้เข้าร่วมขบวนการบ้าบอไปด้วยคน เพราะขืนเป็นคนปกติอยู่คนเดียวเกรงว่าจะเหงา
“สวย..แต่สวยแบบเหมาะกับหนังสือชื่อ นะโม หรือไม่ก็ หนังสือชื่อ “ทำใจ” คือดูแล้วทำใจให้ดี ๆ ไงล่ะ พอดูจบเล่มก็เกิดอาการปลงตกและบางคนอาจจะถึงขั้นออกบวชได้”
พอสิ้นคำอธิบายจากสุรพล ก็มีเสียงฮาครืนอย่างถูกอกถูกใจจากชายหนุ่มทั้งสาม ในขณะที่เปมิกา ค้อนหัวหน้าด้วยใบหน้ากึ่งบึ้งกึ่งยิ้ม
“ถ้าป่านถอดผ้าถ่ายนู้ดแล้วทำให้พวกผู้ชายหายบ้ากาม หันไปมุ่งดีทางธรรมะป่านก็จะขอพลีร่างโพสต์ท่า อุทิศกายให้ถ่ายภาพอย่างเต็มใจเพื่อช่วยสังคมไทยไร้ปัญหาการข่มขืน….สาธุ!
เปมิกา ยกมือท่วมหัวในตอนท้าย ชายทั้งสามจึงได้แต่หัวร่องอหายไปกับคารมคมคายของหล่อน
“แผนกสินเชื่อครึกครื้นดีจังเลย…”
เสียงทักจากชายหนุ่มที่ผลักประตูห้องสินเชื่อเข้ามา และได้ยินเสียงหัวเราะเข้าพอดีนั้น ทำให้ทุกคนหยุดหัวเราะโดยอัตโนมัติและหันไปมองคนที่กำลังเดินเข้ามา
“อ้าว..คุณธีม..เชิญครับ..”
สุรพล รีบกล่าวเชื้อเชิญหลังจากที่รับไหว้ชายหนุ่ม
เปมิกา ยกมือไหว้ธีรยุทธ เขาส่งยิ้มให้หล่อนด้วยความเป็นมิตร
“ดูทุกคนร่าเริงไม่กลุ้มกับชีวิตเลยนะครับ…” ธีรยุทธ พูดสัพยอกสีหน้ายิ้มแย้ม
“ความกลุ้มไว้ใน ความสดใสไว้นอกครับคุณธีม พวกเราน่ะกลุ้มจนเพี้ยนกันไปแล้วล่ะครับ..” สุรพลตอบติดตลก
“พี่พลจะให้ผมเซ็นเอกสารอะไรบ้างครับ..” ธีรยุทธ เข้าหัวเรื่องที่เขามาในวันนี้
“อ๋อ…ผมเตรียมไว้แล้วล่ะ “ สุรพลบอก
ทั้งสองเริ่มนั่งสนทนากันอย่างเป็นกันเอง เปมิกาหันไปรับโทรศัพท์มือถือที่ดังขึ้น หล่อนรู้สึกดีใจที่เห็นว่าเป็นเบอร์ของบุรินทร์
“ป่าน..เย็นนี้เราไปหาอะไรอร่อย ๆ กินดีไหม..แต่บอกไว้ก่อนนะ...ห้ามชวนยัยตา ปากปีจอนั่นไปด้วยไม่อยากมีเรื่อง”
บุรินทร์ ยังคงมีอคติกับสิตาอยู่เช่นเดิม
“ก็ได้ค่ะ…แล้วจะมารับป่านกี่โมงล่ะ..”
เปมิกา ดีใจที่บุรินทร์มีเวลาว่างให้หล่อน
“ป่านนั่งรถมาเองได้ไหม พบกันครึ่งทาง ที่ร้านยกยอ แถวที่ทำงานผมไง..”
“ป่านรู้จักค่ะ..งั้นเดี๋ยวป่านจะขอผู้จัดการออกไปก่อนก็แล้วกันกลัวรถจะติด”
เปมิกา รีบเก็บงานทันที หล่อนจัดแจงหิ้วกระเป๋าเครื่องสำอางไปที่ห้องน้ำด้วยท่าทางสดชื่นลืมความวิตกเรื่องที่จะตกงานไปได้ชั่วคราว
“กลับจากห้องน้ำมา สวยเริ่ดเชิดหยิ่งเลยนะ ไอ้ป่าน…”
สุรพล เปิดปากแซวลูกน้องคนสนิททันทีที่เห็นเปมิกาเดินถือกระเป๋าเครื่องสำอางเข้ามานั่งประจำโต๊ะทำงานด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส
“สวยมาตั้งนานแล้ว เพิ่งเห็นความงามของลูกน้องตอนแบ็งก์เจ๊ง นี่หรือไงคะหัวหน้าขา…”
เปมิกา ล้อเล่นกลับไป หล่อนกำลังเก็บกระเป๋าเตรียมตัวออกไปตามนัด
“คุณป่านจะออกไปข้างนอกหรือครับ…”
ธีรยุทธ เอ่ยถามขึ้น เขาก็กำลังจะกลับพอดี
“ค่ะ..พอดีป่านมีนัดค่ะ..” เปมิกาบอกเขาตามตรง
“ไม่ทราบคุณป่านมีนัดที่ไหนครับ..เผื่อผมจะผ่านแถวนั้นน่ะครับ..” ธีรยุทธแสดงความมีน้ำใจ
เปมิกา ก็เลยบอกสถานที่แก่เขาไป
“อ้าว...มีนัดร้านเดียวกับผมเลย…ผมก็นัดคุณแมวไว้ที่นั่นเหมือนกัน..” ธีรยุทธบอก
“ราชรถมาเกยแบบนี้ก็ดีน่ะสิยัยป่าน ….” สุรพล กล่าวสัพยอกเปมิกา
“ผมกำลังจะไปตอนนี้พอดี เชิญเลยครับ…”
ธีรยุทธ ผายมือแล้วก็หันไปไหว้ลาสุรพล
เปมิกา อยากจะปฏิเสธคำชวน แต่เมื่อคิดได้ว่านั่งรถเมล์ไปกว่าจะถึงก็คงสะบักสะบอมพอดู
เพราะไหนจะเสื้อผ้าชุ่มไปด้วยเหงื่อ ไหนจะความอิดโรยจากการโหนรถเมล์ ล้วนแต่บั่นทอนความสวยของหล่อนให้ลดลงไปได้ จะไปพบคนรักทั้งที ควรจะให้ดูสวยและดูดี
คิดได้ดังนั้น หล่อนก็สะพายกระเป๋าเดินตามคนชวนไปที่รถอย่างเต็มใจ โดยไม่ลืมแวะไปบอกสิตา ว่าหล่อนมีธุระ แต่ไม่ยอมบอกความจริงว่ามีนัดกับบุรินทร์ เพราะไม่อยากถูกเพื่อนรักพูดแขวะ
..............................
เมื่อไปถึงที่นัดหมาย ปรากฏว่า บุรินทร์ ยังมาไม่ถึง
ธีรยุทธ จึงเชิญให้เปมิกา ร่วมโต๊ะเดียวกับเขาไปก่อน
“เอาไว้เพื่อนคุณป่านมาแล้วค่อยแยกไปก็ได้ครับ จะได้ไม่เหงา…ผมเองก็ต้องรอคุณแมวเหมือนกัน เห็นว่ากำลังขับรถมาใกล้ถึงแล้ว…”
เปมิกา ไม่กล้าปฏิเสธตามเคย อาจจะเป็นเพราะบุคลิกลักษณะของธีรยุทธ ที่มีวิธีการพูดให้หล่อนรู้สึกเป็นกันเองนั่นเอง หล่อนกับเขาจึงต้องมานั่งด้วยกันสองต่อสอง
ธีรยุทธ เลือกที่นั่งริมน้ำ เพื่อจะได้มองทัศนียภาพไปด้วย ภายในร้านยังมีลูกค้าไม่มากนัก
“คุณชัยไม่มาด้วยหรือคะ…” เปมิกาชวนคุย
“หนีหนี้ไปก่อนผมแล้วล่ะครับ…ตอนนี้ไปต่างจังหวัดหาแม่เขาน่ะครับ…ส่วนผมไม่รู้จะหนีไปไหนพ้นเพราะบ้านอยู่กรุงเทพ แม่ก็ป่วยอีกด้วย…”
ธีรยุทธ พูดติดตลกแต่แววตามีแววกังวล
............................
“ว้าว..!..คุณป่าน..มองด้านข้างนึกว่าสาวที่ไหนแอบมานั่งคุยกับคุณธีมอยู่”
เสียงทักของ นภาพร มาพร้อมกับกลิ่นน้ำหอมราคาแพงโชยมาปะทะจมูกของเปมิกา ทำให้เปมิกา ต้องหันไปยกมือไหว้นภาพร
หุ่นเพรียวบางระหงส์ของนภาพร ซ่อนอยู่ภายใต้ชุดแสกเข้ารูปสีดำแขนกุด ที่ปักเลื่อมลายระยับตรงคอเสื้อด้วยเพชรเม็ดเล็ก ๆ ที่เว้าแหลมโชว์ความอวบอิ่มของเนินเนื้อหน้าอก ความยาวของกระโปรงอยู่เหนือเข่าเล็กน้อยเผยให้เห็นเรียวขาที่สวย และผิวขาวตัดกับสีชุด กระเป๋าถือของหล่อนที่วางบนโต๊ะก็เป็นสีดำประดับด้วยเพชรเม็ดเล็กเข้ากับชุดได้ดีทีเดียว
“สวยเซ็กซี่เหมือนเดิมเลยนะคะคุณแมว..” เปมิกา ชมหล่อนจากใจ
“แหม..คุณป่านก็สวยสดใสเหมือนเดิมค่ะ..”
นภาพร นั่งลงข้างธีรยุทธอย่างสนิทสนม
เปมิกา เห็นทั้งคู่แล้วก็อดชื่นชมไม่ได้ ช่างเป็นคู่ที่เหมาะสมกันเสียจริง ทั้งรูปร่างหน้าตา และกิริยาท่าทางที่เป็นมิตรของทั้งสองคน
“อุ๊ย!!..แฟน..เอ้อ..เพื่อนของป่านมาแล้วล่ะค่ะ..”
เปมิกา อย่างตื่นเต้นเมื่อเห็นบุรินทร์ กำลังเดินมาหาที่โต๊ะ ทำให้เปมิกา รีบลุกขึ้น และแนะนำคนรักให้รู้จักกับธีรยุทธและนภาพ รในฐานะที่เป็นลูกค้าของธนาคาร ก่อนจะขอตัวแยกไปนั่งอีกโต๊ะซึ่งอยู่ถัดไปอีกไม่ไกลนัก
