บท
ตั้งค่า

3. ถึงกับอึ้ง

เปมิกา กลับมานั่งที่โต๊ะทำงานของตัวเอง ก็ได้รับโทรศัพท์จากบุรินทร์ ทำให้หล่อนตื่นเต้นที่ได้ยินเสียงเขา

“รินเหรอคะ…”

เปมิกา พยายามระงับเสียงไม่ให้อีกฝ่ายจับได้ว่าหล่อนรอคอยเขาอยู่

“โทษทีนะป่านที่ไม่ได้ติดต่อมาเมื่อวาน พอดีว่าผมไปทำงานด่วนที่ต่างจังหวัด แล้วไอ้มือถือก็ดันลืมเอาไว้ที่ออฟฟิศ”

บุรินทร์ ให้เหตุผลที่เขาไม่ติดต่อเปมิกาเมื่อวาน

“ไม่เป็นไรค่ะ…ป่านเข้าใจ…วันนี้ทานข้าวเย็นด้วยกันดีไหมคะ ป่านเลี้ยงรินก็ได้ค่ะ”

เปมิกา เสนอ หล่อนอยากจะเล่าชีวิตที่กำลังจะตกงานให้บุรินทร์ รับฟังบ้าง

“ช่วงนี้ผมงานเยอะมากคงไม่มีเวลา…แต่ที่โทรมานี่เพราะเพิ่งนึกได้”

“นึกได้ว่ายังมีป่านอยู่บนโลกนี้หรือไงคะ..”

เปมิกา แกล้งแซว หล่อนลืมความน้อยใจเมื่อวานไปหมดสิ้น หลังจากได้ยินเสียงของเขาในวันนี้

“โธ่ป่าน…ไม่ใช่อย่างนั้น..” บุรินทร์ ทำน้ำเสียงออดอ้อน

“งั้นก็ว่ามาค่ะ…”

เปมิกา แกล้งทำน้ำเสียงขึงขังล้อเลียนเขา

“ป่านจำได้ไหมว่ายังค้างเงินผมอยู่”

บุรินทร์ รีบเข้าประเด็นด้วยการทวนความจำ

เปมิกา นิ่งอึ้งไปครู่ใหญ่ ความอิ่มเอมใจลดลงไปกว่าครึ่ง หล่อนตั้งใจที่จะฟังคำพูดแสดงความห่วงใยจากเขาเป็นประโยคแรกมากกว่าคำกล่าวทวงหนี้ตั้งแต่วันเงินเดือนหล่อนยังไม่ออก

“วันนั้นไง..ที่ผมจ่ายบัตรเครดิต รูดของใช้ให้ป่านไป..”

“ป่านจำได้ค่ะ…ทั้งหมดหนึ่งพันห้าร้อยบาทห้าสิบสตางค์ใช่ไหมคะ..”

“จำแม่นดีจัง แต่ผมคิดป่านแค่หนึ่งพันห้าร้อยถ้วนเท่านั้นแหละ..ลดให้ห้าสิบสตางค์ แล้วนี่ป่านจะต้องทำงานไปถึงวันไหนครับ…”

เปมิกา นึกว่าเขาจะไม่ถามถึงความเป็นไปในชีวิตของหล่อนเสียอีก

“ถึงสิ้นเดือนนี้ค่ะ…อีกไม่นานป่านก็จะตกงานแล้วนะริน…ไม่รู้ว่าจะหางานใหม่ได้หรือเปล่า”

“ไม่ต้องกังวลนะป่าน….”

เสียงทุ้มของเขาเหมือนแสดงความห่วงใยทำให้หัวใจ

เปมิกา ชุ่มฉ่ำขึ้นมาจนอดยิ้มกับโทรศัพท์ไม่ได้ หล่อนปรารถนาที่จะได้รับฟังคำปลอบโยนจากเขาอยู่แล้ว จึงตั้งใจที่จะฟังประโยคต่อไปที่จะสร้างขวัญและกำลังใจให้หล่อนสู้กับปัญหาชีวิตในวันข้างหน้า

“คือผมไม่อยากให้ป่านกังวล..เรื่องหนี้ของผมน่ะครับ เอาไว้ใบแจ้งหนี้มา ป่านก็ค่อยโอนเงินเข้าบัญชีให้ผมก็ได้…ผมไม่ได้เร่งรัดหรอก พอดีนึกออกก็เลยโทรมาบอกไว้ก่อนกลัวป่านลืม”

บุรินทร์ พูดคล้ายเจ้าหนี้ใจดี แต่คนที่ถูกทวงหนี้รู้สึกหดหู่ในหัวใจสิ้นดี

“ป่าน…ฟังอยู่รึเปล่าครับ..”

“ค่ะ…”

เปมิกา นึกอะไรไม่ออก เมื่ออีกฝ่ายวนเวียนจะพูดแต่เรื่องหนี้สิน

“งั้นแค่นี้ก่อนนะป่าน..”

บุรินทร์ วางสายไปนานแล้ว แต่เปมิกา ยังมีอาการเบลออยู่ หล่อนคงจะคาดหวังในตัวของบุรินทร์มากเกินไปก็ได้ จึงรู้สึกเหมือนผิดหวังที่เขาไม่ได้แสดงความเป็นห่วงเป็นใยหล่อนเท่าที่ควร

เปมิกา นั่งซึมอยู่นาน ก่อนจะรวบรวมพลังใจลุกขึ้นเพื่อกลับบ้าน

“ป่าน….เดี๋ยว….”

เสียงของสุรพล ร้องเรียก เปมิกา เพิ่งสังเกตเห็นว่าลูกค้าหนุ่มทั้งสองคนของเขาออกจากห้องไปแล้ว คงจะช่วงที่เปมิกามัวแต่นั่งเศร้าอยู่นั่นเอง

“ว่าไงพี่..อย่าบอกนะว่าให้ป่านไปเก็บแฟ้มนั่น พี่วางไว้บนโต๊ะก็ได้ พรุ่งนี้ป่านจะเก็บให้”

“แหม..ไอ้ป่าน แกเห็นพี่เป็นคนชอบใช้นักรึไงวะ…ทำไมหน้าตายังกะคนถูกทวงหนี้มาวะ”

“รู้ได้ไง…อ๋อ..ปากคุยกับลูกค้า แต่หูแอบฟังลูกน้องคุยโทรศัพท์…เสียมารยาทชะมัด”

“พี่ไม่ต้องแอบฟังหรอก ดูหน้าเธอก็รู้แล้ว เห็นมีอาการเหมือนคนเบื่อโลกแบบนี้ ก็เลยจะชวนไปกินอาหารอร่อย ๆ แถมฟรีด้วย” สุรพลหัวเราะตบท้าย

“พี่จะเลี้ยงป่านเหรอ…”

“เปล่า…คุณธีมเลี้ยง..เขาให้ชวนลูกน้องไปด้วยกัน ตอนนี้เขาจองห้องคาราโอเกะไว้แล้วด้วย”

“ป่านกำลังเซ็งกับชีวิตอยู่พอดีเลย งั้นขอกดโทรศัพท์ลงไปชวนยัยตา อีกคนนะคะ....”

“พี่ชวนเรียบร้อยแล้ว..ตอนนี้ยัยตาพร้อมกินฟรีอยู่แล้ว…”

เปมิกา หัวเราะขึ้นมาได้ หล่อนรีบเดินออกจากห้องเพื่อลงไปหาสิตาที่รออยู่ข้างล่าง หล่อนจะใช้เวลาที่เหลืออีกไม่นานกับการเป็นพนักงานที่นี่ ให้กับมิตรภาพของความเป็นเพื่อนร่วมงานให้มากที่สุด

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel