16. เหนื่อยใจในคนรัก
“นึกแล้วเชียว.. ที่แท้ก็จะมาทวงของคืน..น่าภูมิใจแทนเธอจริง ๆ นะยัยป่านที่มีแฟนน่ารักน่าชังแบบนี้ หาไม่ได้ง่าย ๆ นะเนี่ย ดีนะที่ฉันมาค้างกับเธอเพื่อปลอบใจให้หายจากอาการฟุ้งซ่าน เพราะอาศัยคนบางคนไม่ได้ ไม่รู้เป็นแฟนประสาอะไรไม่เคยห่วงหาอาทรกันสักนิด ห่วงแต่ของ งกซะไม่มี”
สิตา พูดแขวะคนรักของเพื่อนอย่างไม่เกรงใจทั้งน้ำเสียงและแววตา ทำให้บุรินทร์ถึงกับหน้าเสียและรู้สึกไม่พอใจกับคำพูดของหล่อน
“พวกไม่มีแฟนก็คอยแต่จะคิดอิจฉาคนที่เขามีความสุข…ผมไม่ถือสาเพื่อนป่านหรอกนะ”
บุรินทร์ แกล้งพูดกับเปมิกา เป็นการเย้ยหยันอีกฝ่าย
“ถ้าเพื่อนฉันมีความสุขจริง ๆ ฉันจะอิจฉาไปทำไม แต่นี่....อย่าให้พูดเลย” สิตาเบ้ปาก
“แน่จริงก็พูดออกมาเลย..ผมก็อยากจะรู้เหมือนกัน” บุรินทร์ ท้าทาย
“นี่ยังไม่รู้ตัวอีกหรือว่าตัวเองเป็นคนยังไง...น่าสงสารชะมัด..” สิตาทำเสียงเยาะ
“สงสารตัวเองดีกว่ามั้ง ที่ป่านนี้ยังหาผู้ชายมาเป็นแฟนไม่ได้สักคน..แต่ผมก็ไม่น่าสงสัยหรอกนะที่คนอย่างคุณจะไม่มีผู้ชายที่ไหนอยากจะเอา...”
บุรินทร์ รู้สึกสะใจที่พูดออกมาแล้วทำให้อีกฝ่ายกำมือแน่น หน้าแดงด้วยความโกรธ
“รินคะ...พอเถอะค่ะ..” เปมิกาเตือนเขาเสียงดัง
“ตา..ไปนอนเล่นที่ห้องฉันก่อนนะเพื่อน..ขอร้อง”
เปมิกา โอบไหล่เป็นการเตือนสติให้อีกฝ่ายใจเย็น
“ก็ได้...ไม่อยากจะอยู่แถวนี้ให้เกิดคดีชกปากคนเหมือนกัน..”
สิตา เดินกระแทกเท้าไปที่ห้องของเปมิกา
“ปอ..ไปยกเทปที่ห้องพี่มาให้พี่รินเขาที..”
เปมิกา หันไปสั่งน้องชาย เป็นการคลี่คลายความรุนแรงของคนรักและเพื่อน ปัญญารีบจัดการให้ตามคำสั่งทันที แม้เขาจะชินกับการปะทะคารมของบุรินทร์กับสิตา แต่ครั้งนี้เขารู้สึกว่าจะดุเดือดกว่าทุกครั้ง และเขาก็อดที่จะอยู่ข้างเดียวกับสิตาไม่ได้
“ป่าน..ไม่ต้องรีบขนาดนั้นหรอกครับ..ผมก็ไม่ได้ตั้งใจมาเอาเทปอะไรนี่หรอก ความจริงก็อยากจะมาชวนป่านไปกินข้าวฟังเพลงมากกว่า…แต่ก็ต้องมาหมดอารมณ์เพราะเพื่อนป่านแท้ ๆ เลย”
บุรินทร์ พูดขึ้นเมื่อปัญญา เดินออกไปแล้ว
“งั้นก็ทำอาหารพวกสปาเก็ตตี้แล้วก็ไก่อบกินกันที่นี่ไหมคะ..ป่านมีของครบอยู่ในตู้เย็นแล้ว..”
“ผมว่าอย่าดีกว่า..ยังไงผมก็คงกินไม่อร่อยอยู่ดีเพราะอะไรป่านก็รู้ ๆ อยู่…”
บุรินทร์ มีน้ำเสียงหงุดหงิดพร้อมกับมองไปที่ห้องของเปมิกา ให้หล่อนรู้ว่าเกิดจากคนที่อยู่ในห้องนั้นเองที่ทำให้เขาไม่อยากอยู่ที่นี่นานนัก เปมิกา รีบกดรีโมทโทรทัศน์หวังจะให้บุรินทร์ เลิกสนใจสิตา
“นี่ครับ..พี่ริน…ผมใส่กล่องให้เรียบร้อยแล้ว”
ปัญญา เดินยกของออกมาวางที่โต๊ะให้บุรินทร์
“ขอบใจนะปอ..”
บุรินทร์ ตะโกนเบา ๆ ตามหลังปัญญาที่กำลังเดินเข้าห้องของเขาไป
“ความจริง…ผมก็ไม่อยากเอาของพวกนี้ไปหรอกนะ..ว่าจะให้ป่านไว้ฟังเพลง แต่ไหน ๆ ก็แวะมาแล้วจะได้ไม่เสียเที่ยว…ป่านไม่ว่าอะไรใช่ไหมจ๊ะ..”
บุรินทร์ หันไปถามเปมิกา อย่างไม่เต็มเสียง
“ก็มันเป็นของรินนี่คะ..ในเมื่อเจ้าของเขาจะเอาคืนป่านจะยึดเอาไว้ได้ยังไงล่ะ..”
เปมิกา บอกออกไปเช่นนั้น แต่ในใจหล่อนก็อดที่จะรู้สึกไม่ได้ว่า ทำไมเขาจะต้องมาทวงของคืนในช่วงเวลาที่หล่อนอยู่ในภาวะยากลำบากนี้ด้วย ทั้งที่ก่อนหน้านี้เขาเคยบอกว่าเครื่องเสียงนี้เป็นสิ่งที่เขาไม่ได้ใช้แล้ว จึงให้หล่อนเก็บไว้ใช้ประโยชน์เวลาฟังเพลงจะได้คิดถึงเขา
“คืนนี้สิตาจะค้างด้วยใช่ไหม…”
บุรินทร์ เปลี่ยนเรื่อง เปมิกา พยักหน้าแทนคำตอบ
“ถ้าอย่างนั้น..ผมเห็นทีจะกลับก่อนดีกว่า..ประเดี๋ยวสิตาจะหาว่าป่านมัวแต่มาจู๋จี๋อยู่กับผม”
“ป่านกับตาก็มีเวลานอนคุยกันทั้งคืน แต่รินสิ..ไม่ได้มาหาป่านตั้งนานแล้วด้วย”
“เอาอย่างนี้ไหมป่าน คืนนี้เราไปหาที่นั่งฟังเพลงกันดีไหมครับ”
“จริงหรือคะ..ป่านก็อยากจะไปคลายเครียดเหมือนกันค่ะ..” เปมิกา มีสีหน้าสดชื่นขึ้นทันใด
“แต่มีข้อแม้ว่า..เราไปกันสองคนนะ ป่านกล้าทิ้งเพื่อนไหมล่ะ” บุรินทร์ ถามเหมือนรู้ใจหล่อน
“โธ่..ริน ได้ไงคะ.ยัยตาอุตส่าห์เดินทางจากสุพรรณมาหาป่าน จะปล่อยให้เขาอยู่คนเดียวที่ห้องได้ไงล่ะ ป่านว่าเราไปด้วยกันหมดเลยรวมปอด้วยอีกคนเป็นสี่คน..นะคะริน..นะ”
เปมิกา จับแขนบุรินทร์เขย่าเบา ๆ อ้อนวอนเขาเหมือนหล่อนเป็นเด็กเล็ก ๆ ซึ่งก็ไม่บ่อยครั้งนักที่หล่อนจะทำกิริยาเช่นนี้ หล่อนรู้ว่าบุรินทร์ ไม่ชอบผู้หญิงขี้อ้อนเหมือนเด็ก
“งั้นผมก็ไม่ไปแล้วล่ะ..ถ้าไปเสียเงินทั้งที แล้วไม่มีความสุข..สู้อย่าไปเลยดีกว่า…”
“ทำไมต้องทำให้ป่านเครียดด้วยนะริน…”
เปมิกา รู้สึกไม่สบายใจที่เห็นกิริยาอาการของคนรัก
“ผมมาทำให้ป่านเครียดใช่ไหม…งั้นผมกลับก็ได้..”
บุรินทร์ ลุกขึ้นด้วยกิริยาเง้างอนเหมือนผู้หญิง
เปมิกา ถอนหายใจ เอาอีกแล้วโรคขี้ใจน้อยของบุรินทร์ หล่อนส่ายหน้าอย่างระอา…นี่เป็นครั้งแรกที่บุรินทร์ทำให้หล่อนรู้สึกเบื่อหน่าย อาจจะเป็นเพราะที่ผ่านมาหล่อนเป็นฝ่ายยอมและเอาอกเอาใจเขามาตลอด แต่ช่วงเวลานี้ หล่อนกำลังประสบกับปัญหาในชีวิตการงาน ย่อมต้องการกำลังใจ อยากให้มีคนเอาใจใส่บ้าง แต่บุรินทร์ไม่เคยสนใจความรู้สึกของหล่อน กลับเอาแต่ใจตัวเองแบบนี้หล่อนจึงรู้สึกเซ็ง
“ผมกลับเลยดีกว่า…”
พูดจบ บุรินทร์ก็เดินไปยกกล่องบนโต๊ะด้วยสีหน้าบึ้งตึง ในขณะที่เปมิกา ทำตัวไม่ถูก หล่อนกำลังชั่งใจว่าจะห้ามเขาไม่ให้ไป แล้วก็ง้องอนเหมือนทุกครั้ง หรือว่าปล่อยให้เขาไปเสียโดยดี
“พูดแค่นี้ทำไมต้องงอนด้วยนะริน…ป่านยิ่งกลุ้มกับชีวิตอยู่ด้วย”
เปมิกา พูดขึ้น เมื่อเห็นว่าบุรินทร์กำลังจะเดินไปที่ประตู
“ผมอยู่ก็ยิ่งเพิ่มความกลุ้มให้ป่าน…เอาไว้วันหลังค่อยเจอกันก็แล้วกัน”
“อยากจะกลับก็ตามใจค่ะ..ป่านคงไม่บังคับฝืนใจรินอีกแล้วล่ะ…”
เปมิกา เดินไปเปิดประตูให้เขาด้วยท่าทางเฉยเมยไม่ยินดียินร้ายกับการที่เขาจะอยู่หรือจะไป ซึ่งผิดกับเมื่อก่อน ที่หล่อนจะต้องทำทุกอย่างให้บุรินทร์ หายงอนแล้วก็ยิ้มได้ ไม่ว่าจะแกล้งทำหน้าตาทุเรศเลียนแบบสิงสาราสัตว์ หรือเต้นแร้งเต้นกาทำท่าให้เขาตลกขบขันหล่อน ซึ่งเขาก็จะหายงอนทุกครั้ง
บุรินทร์ ชะงักไปบ้าง เขาก็คงรู้สึกแปลกใจกับการเปลี่ยนไปของเปมิกาอยู่ไม่น้อย แต่เมื่อเห็นว่าหล่อนไม่ได้เหนี่ยวรั้งเขาไว้ หรือไม่แม้แต่จะทำกิริยาตลกโปกฮาให้เขาขำ เขาจึงเดินออกไปเงียบ ๆ
