บท
ตั้งค่า

17. คาดคั้น

“หมู่นี้หนูแมวหายหน้าหายตาไปเลยนะตาธีม…ทะเลาะอะไรกันรึเปล่า..”

นวลพรรณ เอ่ยถามบุตรชายเมื่อเห็นเขามาเยี่ยมที่โรงพยาบาลเพียงคนเดียวทุกครั้ง

“ไม่มีอะไรหรอกครับแม่…พอดีแมวเขาพาครอบครัวของพี่สาวที่มาจากแคนาดาไปเที่ยวกันน่ะครับ”

นวลพรรณ พยักหน้าด้วยสีหน้าที่ดีขึ้น…

“แม่ครับ..ออกจากโรงพยาบาลแล้วเราไปพักผ่อนที่ทะเลกันดีไหมครับ…”

“อุ๊ย!…ดีเหมือนกันนะคะคุณนวล..จะได้เปลี่ยนบรรยากาศบ้าง”

สมจิตร ที่นั่งอยู่ภายในห้องพิเศษผู้ป่วยด้วยกันกล่าวสนับสนุนด้วยท่าทางกระตือรือร้น

“แล้วงานที่บริษัทล่ะ..ไม่ยุ่งหรอกหรือลูก..”

คำถามของผู้เป็นมารดาทำให้ธีรยุทธอึ้งไปชั่วครู่ เขากลืนน้ำลายลงคอก่อนจะตอบ

“เอ้อ..คือช่วงนี้ไม่ค่อยยุ่งแล้วน่ะครับแม่…”

“ธีม…บอกแม่ตามตรงได้ไหมว่ามันเกิดอะไรขึ้นที่บริษัทของลูก…อย่าปิดบังแม่เลย”

“แม่คิดว่าเกิดอะไรขึ้นหรือครับ…”

ธีรยุทธ พยายามทำสีหน้าให้เป็นปกติที่สุด

“แม่โทรหาตาชัยเพื่อนลูกแล้ว…รายนั้นก็อ้ำ ๆ อึ้ง ๆ เหมือนถูกบังคับไม่ให้พูด แล้วที่น่าสงสัยทำไมตาชัยไม่ทำการทำงานที่บริษัท กลับไปอยู่ที่บ้านต่างจังหวัด แม่ไม่เข้าใจช่วยอธิบายให้คนแก่คนนี้รับรู้หน่อยได้ไหม…”

นวลพรรณ จ้องหน้าลูกชายอย่างต้องการคำตอบ

ธีรยุทธ รู้สึกตกใจเขานั่งนิ่งไปนาน ไม่คาดคิดว่ามารดาของเขาจะโทรศัพท์ไปหาศรชัย เขารีบจับมือมารดามากุมไว้ด้วยสีหน้าที่พยายามปั้นให้ยิ้มแย้มแจ่มใส

“ไม่ต้องมาทำเป็นหน้ายิ้มระรื่นนะตาธีม…ทั้งที่ในใจเราน่ะมันกลัดหนองเต็มทีแล้ว แม่จะนอนตายตาหลับได้ยังไงถ้ารู้ว่าลูกมีปัญหาแล้วเก็บเงียบไว้อย่างนี้…”

“แม่ไม่เชื่อผมหรือครับ..ว่าไม่มีอะไรจริง ๆ แม่อย่าคิดมากสิครับ…”

“แม่จะคิดมาก และจะคิดต่อไปจนกว่าลูกจะบอกความจริงทั้งหมด ถ้าปิดบังแม่ก็ไม่ต้องมาเป็นแม่ลูกกัน…”

นวลพรรณยื่นคำขาดเสร็จก็หลับตานิ่งเป็นการประท้วงกราย ๆ

ธีรยุทธ หันไปสบตากับสมจิตร ด้วยสีหน้ามีกังวล แต่เมื่อเห็นฝ่ายนั้นพยักหน้ากับเขาเป็นทำนองให้เขาพูด เขาก็ได้แต่ถอนหายใจก่อนจะค่อย ๆ ลุกจากเก้าอี้ข้างเตียงคนป่วยแล้วเดินวนไปวนมาอยู่ในห้อง แล้วก็เดินเปิดประตูออกไปคล้ายกับกำลังอยู่ระหว่างตัดสินใจ

“สมจิตร….ฉันเป็นหัวหลักหัวตอไม่มีความหมายอะไรแล้วใช่ไหม…”

นวลพรรณ พูดกับสมจิตร ด้วยความน้อยใจลูกชายที่เดินออกจากห้องผู้ป่วยไป โดยไม่ยอมเปิดปากบอกอะไรให้รับรู้

“ดิฉันว่าคุณธีมคงไม่คิดว่าคุณนวลเป็นหัวหลักหัวตออะไรหรอกค่ะ..แต่คงเป็นห่วงคุณนวลมากกว่า ก็เลยไม่อยากให้กลุ้มใจน่ะค่ะ..อย่าคิดมากนะคะ..” สมจิตรปลอบใจ

“ฉันไม่อยากให้ลูกต้องแบกรับความกลุ้มไว้คนเดียวนี่นา…ฉันเป็นแม่เขา เขาก็ควรไว้วางใจที่จะบอกเล่าความทุกข์ ปัญหาให้ฉันฟังสิถึงจะถูก”

สมจิตร ได้แต่นั่งนิ่งรับฟังนวลพรรณระบายความทุกข์กังวลใจ

ธีรยุทธกลับเข้าห้องผู้ป่วยไปอยู่กับมารดาจนถึงห้าทุ่มก็กลับบ้าน ปล่อยให้สมจิตรนอนเฝ้าคนป่วยตามปกติ

เขายังไม่ได้บอกความจริงกับมารดา ถ้าจะพูดเพียงครึ่ง ๆ กลาง ๆ มารดาเขาก็คงไม่เชื่อ แต่หากเขาพูดความจริงทั้งหมดเขาก็หวั่นใจว่าอาการของมารดาอาจจะทรุดหนัก

แต่การที่เขาไม่พูดอะไรเลย กลับทำให้มารดา ดูหมางเมินไปอย่างสังเกตได้ บางทีมันอาจจะถึงเวลาแล้วก็ได้ ที่เขาจะต้องพูดความจริงทุกอย่างในวันพรุ่งนี้

เขาโทรศัพท์ไปหา นภาพร หวังจะขอคำปรึกษาจากหล่อน แต่เมื่อโทรศัพท์เข้ามือถือไม่มีสัญญาณตอบรับ เขาจึงโทรไปที่บ้าน คนรับสายคืออรรคพงษ์

“ยัยแมวไปพัทยาตั้งแต่เช้าแล้วล่ะ เขาพาแม่พาครอบครัวยัยหมอนไปเที่ยวกันน่ะ ยัยแมวไม่ได้บอกธีมหรือ“

อรรคพงษ์ ถามธีรยุทธ

“เธอบอกผมตั้งแต่เมื่อวานแล้วล่ะครับ แต่ผมไม่แน่ใจว่าแมวจะไปวันไหน พอดีโทรเข้ามือถือแล้วไม่มีสัญญานก็เลยลองโทรมาที่บ้าน”

“ธีมจะขับรถตามไปไหมล่ะ พ่อจะบอกโรงแรมที่พักให้ พวกนั้นคงอยู่กันหลายวัน เห็นพูดว่ากลับจากพัทยาก็จะขึ้นเชียงใหม่ต่อด้วยนี่…งานนี้คงเที่ยวกันเป็นเดือนเชียวล่ะ”

“ผมก็อยากจะไปด้วยนะครับ…แต่เผอิญว่าคุณแม่เข้าโรงพยาบาลพอดี”

“พ่อก็ได้ยินยัยแมวพูดอยู่เหมือนกัน พ่อเป็นกำลังใจให้นะธีม ปัญหาต่าง ๆ ขอให้ใช้ความอดทน อะไรจะเกิดก็ปล่อยให้มันเกิดเถอะ แต่อย่าสิ้นหวังท้อแท้เป็นใช้ได้”

บิดาของคนรักให้กำลังใจ เขาคิดว่านภาพรคงบอกเรื่องที่บริษัทของเขาประสบปัญหาให้กับอรรคพงษ์ได้รับรู้แล้ว

...............................

สมร มาเคาะประตูห้องพักของน้องสาวภายในโรงแรมที่พัก ซึ่งนภาพรพักรวมอยู่กับปรางทอง ส่วนสมรพร้อมด้วยสามีและลูกพักอยู่ที่ห้องติดกัน ในขณะที่มาร์คได้ห้องพักถัดจากห้องของสมรไป

“อ้าวแม่..เตรียมจะเข้านอนแล้วเหรอ ไหนบอกว่าจะพาน้องจีน่าไปเดินชายหาดตอนค่ำไงคะ.”

สมร ทักมารดาเมื่อเห็นชุดที่มารดาใส่นอนอยู่บนเตียงพร้อมที่จะเข้านอน

“สงสัยจะเดินไม่ไหวแล้วล่ะแม่หมอน ก็วันนี้ตระเวนเที่ยวทั้งวันแม่ก็เหนื่อยน่ะสิ เอาไว้พรุ่งนี้ก็แล้วกันแล้วจีน่าล่ะ”

ปรางทอง ถามถึงหลานสาว

“รายนั้นกินข้าวเสร็จก็นอนหลับอุตุเลย…นี่ยัยแมวยังอาบน้ำไม่เสร็จหรือคะ”

“จะเสร็จแล้วค้า…พี่หมอนมีอะไรหรือเปล่า”

นภาพร ตะโกนออกมาจากห้องน้ำที่อยู่ใกล้ ๆ

“อ๋อ..พี่จะมาบอกให้เธอพามาร์คไปเที่ยวน่ะ...” สมร ตะโกนเข้าไปในห้องน้ำ

“ไปเที่ยวอะไรกันตอนค่ำมืดล่ะยัยหมอน…” ปรางทอง ทักท้วงขึ้น

“โธ่..คุณแม่ มาร์คเขาก็คงอยากจะเห็นบรรยากาศยามค่ำคืนของเมืองพัทยาน่ะค่ะ..เขาไม่กล้าชวนยัยแมวก็เลยให้หมอนมาชวนให้…”

สมร บอกพร้อมกับพยายามส่งสายตาให้มารดารับรู้

“ทำไมพี่หมอนไม่ให้มาร์คไปกับเอริคล่ะคะ…”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel