15. หาที่พึ่ง
มาร์ค แต่งตัวมารอ นภาพร อยู่ที่ล็อบบี้ของโรงแรม เขารู้สึกตื่นเต้นกับการที่จะได้ไปเที่ยวกับสาวไทยที่เขาหลงเสน่ห์อยู่ และเขาก็ได้รับการสนับสนุนจากสมรอยู่ไม่น้อย รวมทั้งมารดาของสมร ก็ดูจะยินดีหากว่าเขาจะสนิทสนมกับ นภาพร ทำให้มาร์ค มีกำลังใจที่จะสานสัมพันธ์กับหล่อน
เขาได้รับรู้เรื่องราวของ นภาพร พอสมควรจากสมร ซึ่งสมร รับปากว่าจะช่วยให้เขาได้สมหวังกับน้องสาว เพราะสมรอยากจะให้น้องสาวมีชีวิตที่ดีกว่า แม้มาร์ค จะกังวลใจอย่างมากในเรื่องที่นภาพร มีคนรักอยู่แล้ว แต่สมร ทำให้เขาสบายใจว่า
“คนไทยเป็นแฟนกันน่ะไม่เหมือนฝรั่งหรอกค่ะ..แฟนก็คือแฟนไม่ได้อยู่ด้วยกันสักหน่อย แค่คบหากันไป ถ้าเจอคนที่ดีกว่าก็มีสิทธิ์ที่จะเลือกคนนั้น น้องสาวฉันกับแฟนเขา ไม่ได้
แต่งงานจดทะเบียนเป็นสามีภรรยากันสักหน่อย คุณอย่ากังวลไปเลย ขอเพียงให้คุณเอาชนะใจน้องสาวฉันให้ได้ก็แล้วกัน.”
“สวัสดีค่ะมาร์ค…”
เสียงหวานใส ของนภาพร ทำให้มาร์ค หันไปมอง แล้วเขาก็ตะลึงกับความสวยเซ็กซี่ของหล่อน แม้จะไม่ได้อยู่ในชุดที่เปิดเผยเนื้อหนังก็ตาม
นภาพร ใส่เสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาวที่ผ้าค่อนข้างบางเบาทำให้มองเห็นเสื้อกล้ามตัวในสีเดียวกัน และสวมกระโปรงบานพริ้วสีฟ้าอ่อน เข้ากับรองเท้าส้นสูงสีขาว ใบหน้าของหล่อนแต่งอย่างปราณีต แม้จะดูว่าเข้มไปหน่อยแต่ก็ไม่น่าเกลียด ช่างเหมาะเจาะกับหล่อนไปหมด
“คุณดูดีมาก…” มาร์ค กล่าวชมหลังจากหายตะลึง
“ขอบคุณค่ะ..ไปกันได้แล้วค่ะ”
นภาพร ตอบเขิน ๆ ก่อนจะเดินนำเขาไปที่รถของหล่อน
....................................................
“สาธุ..ขอให้ลูกได้งานทำที่บริษัทไหนก็ได้เร็ว ๆ ด้วยเถอะ.”
เปมิกา อธิษฐานพร้อมยกมือไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ก่อนจะปักธูปลงในกระถาง
“ไม่ลงทุนเลยนะยัยป่าน .. แทนที่จะบนหัวหมู…” สิตา กล่าวสัพยอก
สิตา มาจากสุพรรณบุรีตั้งแต่เช้าแล้ว หล่อนขับรถไปหาเปมิกา ที่คอนโด แล้วทั้งคู่ก็ชวนกันมาไหว้พระทำบุญให้จิตใจสงบ หลังจากที่ไปวัดได้วิธีฝึกปฏิบัติธรรม มาเมื่อครั้งที่มี ธีรยุทธ ไปด้วย
แต่คราวนี้ ทั้งคู่มาที่ศาลหลักเมือง ตามคำแนะนำของเพื่อนคนหนึ่งที่บอกว่า หลังจากมาไหว้ขอพรที่ศาลหลักเมืองและไปไหว้พระที่วัดพระแก้วมรกต ก็มีบริษัทที่สมัครงานไว้เรียกไปทำงาน ทั้งสองสาวจึงถือคติไม่เชื่ออย่าลบหลู่ ขอเลียนแบบทำตาม
ออกจากศาลหลักเมือง ทั้งเปมิกา และสิตา ก็เดินมาที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือที่คนทั่วไปเรียกกันว่าวัดพระแก้ว ซึ่งอยู่บริเวณไม่ไกลจากศาลหลักเมืองมากนัก ก็พบว่ามีคนที่มาชมวัดเป็นจำนวนมาก ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นชาวต่างชาติ
“เอ๊ะ..นั่น..”
เปมิกา อุทานเบา ๆ เมื่อเห็นสาวไทยกับชายหนุ่มต่างชาติคู่หนึ่ง สิตาหันไปมองตามอย่างสนใจ
“นั่นคุณแมวใช่ไหม…ป่าน..”
สิตา ถามเพื่อนเพื่อความมั่นใจ
“ใช่..คุณแมว แฟนคุณธีม เอ๊ะ..แล้วทำไมต้องมากับฝรั่งคนนั้นด้วย” เปมิกา สงสัย
“ดูท่าทางสนิทสนมกันจัง แฟนใหม่คุณแมวหรือเปล่าเธอ..” สิตาสันนิษฐาน
“คงไม่มั้ง…”
เปมิกา ไม่อยากจะเชื่อคำสันนิษฐานของสิตา
“ฉันว่ามันชักจะยังไงนะ..เธอลองคิดดูสิ วันนั้นทำไมคุณธีม ถึงไปวัดกับเธอ น่าจะเกิดจากการอกหัก ต๊าย..แสดงว่าสองคนนั่นเลิกกันแล้ว..คุณแมวมีแฟนใหม่เป็นฝรั่งนั่น..”
“อยากรู้ไหมล่ะ..จะพาเดินไปถาม ดีไหม..”
เปมิกา หมั่นไส้เพื่อนที่อยากรู้เรื่องคนอื่น
“แหม..ฉันก็แค่เดาน่ะ แต่ฉันว่าคนเปรี้ยวจี๊ดอย่างคุณแมวนี่เหมาะกับฝรั่งมากกว่าคุณธีมนะ…ดูสิ หัวเราะต่อกระซิกมีจับมือถือแขนกันซะขนาดนั้น คงเป็นแฟนกันเสียมากกว่า น่าสงสารคุณธีม…เห็นว่าบริษัทก็มีปัญหาด้วยนี่ มิน่าล่ะยัยคุณแมวนั่นถึงรีบชิ่งหาแฟนใหม่..”
“ไม่ต้องยุ่งเรื่องชาวบ้านเลย…เข้าไปไหว้พระกันดีกว่า มัวแต่นินทาคนอื่นแทนที่จะได้บุญกลับสร้างบาปเสียนี่ไป ๆ”
เปมิกา รุนหลังเพื่อนให้เดินเข้าไปข้างใน หลังจากที่เห็นว่าคู่ของนภาพรเดินเข้าไปแล้ว
...............................
“ริน!…”
เปมิกา เรียกชื่อบุรินทร์ด้วยความดีใจ เมื่อหล่อนกับสิตากลับมาถึงห้องที่คอนโดก็พบว่าบุรินทร์ กำลังนั่งดูรายการโทรทัศน์อยู่กับปัญญา หล่อนไม่ได้เห็นภาพที่บุรินทร์มานั่งอยู่ที่ห้องแบบนี้มานานแล้ว นานจนหล่อนคิดว่าเขาลืมไปแล้วว่าคอนโดของหล่อนอยู่ที่ไหน
อีกทั้งช่วงที่หล่อนประสบปัญหาความวิตกทุกข์ร้อนในชีวิตเขาก็ไม่เคยแวะเวียนมาให้กำลังใจ แม้แต่โทรศัพท์มาถามไถ่ก็แทบจะนับครั้งได้โดยเขาอ้างว่างานยุ่งมาตลอด
“จะแวะมา ทำไมไม่โทรมาบอกก่อนคะ....ป่านจะได้รีบกลับ..”
“อยากจะให้เซอร์ไพรส์น่ะจ๊ะ..”
บุรินทร์ ยิ้มให้กับหล่อน แต่พอเห็นว่ามีสิตาเดินเข้ามาด้วยเขาก็เปลี่ยนเป็นวางหน้าเฉยเมยทันที
“ไง..สิตาได้ข่าวว่าไปเป็นสาวชาวสวนอยู่ที่สุพรรณแล้วไม่ใช่เหรอ..ตัวดำเมี่ยมเชียว”
บุรินทร์ ทักเพื่อนของคนรักด้วยน้ำเสียงเรียบ ๆ แต่คนฟังกลับรู้สึกไม่ค่อยชอบใจกับน้ำเสียงนั้น
“เป็นชาวสวนไม่ดีตรงไหนไม่ทราบคะ..คุณริน..”
“เปล๊า!…ก็ไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อย ถามดี ๆ ทำไมต้องรวนกันด้วย คุณตา” บุรินทร์ชักสีหน้า
“อ้าว…แล้วทีคุณล่ะที่ทักฉันเมื่อกี้ไม่รวนหรือไง…”
สิตา รู้สึกเคืองขึ้นมาบ้าง
“ตา…ไม่เอาน่า..รินก็ด้วย..”
เปมิกา ปรามคนทั้งคู่ด้วยสีหน้าไม่สบายใจ
“เอ้อ…พี่รินครับ..ไหนบอกว่าจะมาเอาวิทยุเทปไม่ใช่หรือครับ..”
ปัญญา รีบพูดขึ้นช่วยพี่สาวอีกแรงหวังลดบรรยากาศความตึงเครียดระหว่างบุรินทร์กับสิตา
“นี่ริน..แวะมาเอาเทปเหรอคะ…”
เปมิกา ถามบุรินทร์ด้วยแววตาที่ผิดหวัง
