14. อยากได้เขยฝรั่ง
ครอบครัวของนภาพรได้ยกโขยงกันไปที่โรงแรมห้าดาว อันเป็นที่พักของมาร์ค เพื่อรับประทานอาหารค่ำที่นั่น
ซึ่งตอนแรกปรางทอง บอกสมร ให้พา มาร์ค มาพักที่บ้านด้วยกัน แต่แขกของสมรเป็นฝ่ายเกรงใจจึงขอพักที่โรงแรม
ดังนั้น เพื่อเป็นการต้อนรับแขกพิเศษนี้ ปรางทอง จึงขอเป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารค่ำแก่มาร์ค ด้วยการล่องเรือชมแม่น้ำเจ้าพระยายามค่ำคืนไปด้วย หวังสร้างความประทับใจให้แก่ผู้มาเยือน
มาร์ค ดูจะตื่นเต้นมากที่ได้เห็นบรรยากาศของกรุงเทพฯในคืนแรกที่มาถึง เขาประทับใจทั้งสภาพแวดล้อม อัธยาศัยไมตรีของครอบครัวของสมร และที่สำคัญเขากำลังหลงเสน่ห์สาวไทยอย่างนภาพรเข้าให้แล้ว แต่จะว่าไปเขาสนใจนภาพรตั้งแต่ได้เห็นภาพของหล่อนที่สมรให้ดูที่แคนาดาแล้ว
ปรางทอง ชวนอรรคพงษ์ เดินไปดูวิวทิวทัศน์ด้านหัวเรือ โดยก่อนจะลุกออกจากโต๊ะ นางไม่ลืมที่จะแอบส่งสายตากับสมรไว้ เป็นทำนองให้สมรพาเอริค และลูกสาวตามออกไป
“เอริค เราพาจีน่าตามคุณแม่ไปดูวิวที่หัวเรือบ้างดีกว่า”
สมร กล่าวชวนสามี หลังจากมารดา ลุกออกไปพร้อมบิดาได้ไม่นาน
“อ้าว..เลยหายไปกันหมดเลย…”
นภาพร หันไปพูดกับมาร์ค เมื่อเห็นว่าทั้งโต๊ะเหลือกันเพียงสองคน
“คุณคงจะไม่ทิ้งผมไปอีกคนหรอกนะครับ…”มาร์ค พูดล้อหล่อน
“พี่สาวของฉันยกหน้าที่ให้ฉันดูแลแขกพิเศษอย่างคุณ ฉันคงไม่กล้าทิ้งคุณไปแน่ ๆ”
“ในฐานะที่ผมเป็นแขกของพี่สาวคุณ…คุณจะรังเกียจไหมถ้าจะพาผมไปเที่ยวตามที่ต่าง ๆในวันพรุ่งนี้ ผมทราบมาว่าที่กรุงเทพฯมีวัดพระแก้วที่ควรจะไป…”
มาร์ค เริ่มที่จะกล้าพูดมากขึ้น
“ไม่มีปัญหาค่ะ..พรุ่งนี้ฉันจะชวนคนรักของฉันไปด้วย…ฉันมีคนรักแล้วนะคะมาร์ค เขาชื่อธีมค่ะ ..”
นภาพร บอกเขาตามตรง
“ผมทราบแล้วล่ะครับ…”มาร์คพูดยิ้ม ๆ
“ใครบอกคุณ…พี่สาวฉันล่ะสิ..”
“ใครบอกไม่สำคัญหรอกครับ..สำคัญที่ว่าคนรักของคุณกำลังมีปัญหาทางธุรกิจใช่ไหมครับ..”
นภาพร รู้สึกอึ้งที่มาร์ค รู้ลึกไปกว่าที่หล่อนคาดคิด พี่สาวของหล่อนชักจะให้รายละเอียดเกี่ยวกับตัวหล่อนมากเกินไปเสียแล้ว
“อย่าโกรธพี่สาวคุณเลยครับ..เธอหวังดีกับคุณ.. ผมเองก็อยากจะพบคนรักคุณเหมือนกันเผื่อจะได้พูดคุยกันในเรื่องธุรกิจบ้าง…ปัญหาทุกอย่างมีทางออกเสมอ ผมยินดีที่จะช่วยเหลือคุณกับเขา”
นภาพร รู้สึกสบายใจขึ้นเมื่อได้ฟังคำพูดของมาร์ค หล่อนเริ่มเห็นทางสว่างที่จะช่วยเหลือธีรยุทธให้ได้เปลี่ยนเส้นทางอาชีพการงานใหม่..มาร์คอาจจะชวนหล่อนกับธีรยุทธไปทำธุรกิจอยู่ที่แคนาดาก็ได้
การสนทนาระหว่างมาร์คกับนภาพรจึงเต็มไปด้วยบรรยากาศที่ดี แม้ว่าต่างฝ่ายต่างก็มุ่งหวังผลของความสัมพันธ์ไปคนละทาง
“ดูสองคนนั่นจะเข้ากันได้ดีนะ…”
ปรางทอง พูดขึ้น โดยมีอรรคพงษ์ กับสมร ยืนฟังอยู่ด้วย ทั้งหมดออกมายืนคุยกันอยู่ด้านกาบเรือ ส่วนเอริค พา จีน่าไปเดินชมรอบ ๆ บริเวณนั้น
“นั่นน่ะสิคะ ดูท่าทางมาร์ค จะเครซี่คนของเรามากเสียด้วยสิคะคุณแม่” สมร บอกมารดา
“สองแม่ลูกวางแผนอะไรกันล่ะ..ระวังบาปกรรมบ้าง..” อรรคพงษ์ ทักท้วงขึ้น
“เอ๊ะ..คุณนี่ ไม่ช่วยแล้วอย่ามาชักใบให้เรือเสียหน่อยเลย…อยู่เฉย ๆ เถอะน่า..”
ปรางทอง หันไปทำเสียงดุสามี
“ผมก็ไม่อยากจะยุ่งนักหรอก..แต่เห็นว่ามันดูจะไม่ยุติธรรมกับธีมเขาเท่าไหร่…”
“ไม่ยุติธรรมตรงไหน..เป็นแค่แฟนกันยังไม่ได้แต่งงานกันสักหน่อย คุณทนได้หรือที่จะให้ลูกไปกัดก้อนเกลือกินกับนายธีมนั่น..คุณก็รู้ว่าอีกไม่นาน นายนั่นก็จะเหลือแต่ตัวแล้วก็หนี้สินอีกท่วมหัว..จะให้ลูกไปร่วมสังฆกรรมลำบากอย่างนั้นใช่ไหม…รักลูกบ้างหรือเปล่า ..คุณน่ะ”
ปรางทอง ต่อว่าสามีด้วยน้ำเสียงหมั่นไส้ อรรคพงษ์ ไม่ตอบ แต่เดินเลี่ยงหนีไปอีกทาง ปล่อยให้สองแม่ลูกสนทนากันตามลำพัง
“พ่อคงจะสงสารแฟนของยัยแมว มังคะ…” สมร พูดกับมารดา
“สงสารได้..แต่จะให้ยกลูกสาวให้น่ะไม่มีทางเสียหรอกต้องข้ามศพแม่ไปก่อน..”
“หมอนก็ไม่ยอมให้ยัยแมวไปลำบากแบกรับหนี้สินที่ตัวเองไม่ได้ก่อนั่นหรอกค่ะ แล้วยิ่งตอนนี้ ยัยแมวก็ไม่มีงานทำแล้ว ก็คงจะต้องลุ้นให้ได้แต่งงานกับมาร์ค จะได้ไปอยู่ที่แคนาดาด้วยกัน..”
“ดีลูก…แล้วแม่ก็จะได้ตามไปเที่ยวด้วย..”
ปรางทอง มีน้ำเสียงตื่นเต้น
..................................
“อะไรนะคะ…ธีมไม่ว่าง…แต่ว่า..แมวนัดเอ้อ…นัด..จะพาครอบครัวพี่หมอนไปเที่ยว”
นภาพร รู้สึกผิดหวังอย่างมากที่คุยโทรศัพท์กับธีรยุทธแล้ว เขาไม่สามารถที่จะมาหาหล่อนตามที่ได้นัดไว้ หล่อนทั้งผิดหวังและน้อยใจ
“เมื่อวันก่อนธีมก็ผิดนัดไปรับพี่หมอนที่สนามบินไม่ได้..แต่นั่นถือเป็นเหตุสุดวิสัย แมวไม่ว่าค่ะ แต่วันนี้ ธีม ต้องว่างค่ะ ไม่งั้นเลิกกันไปเลย..”
หล่อนยื่นคำขาด แต่สักครู่ หล่อนก็นิ่งเงียบไปนานเมื่อทางโน้นอธิบายเหตุผล
“อ้าว..แล้วธีมก็ไม่บอกแต่แรกว่า แม่เข้าโรงพยาบาล…ปล่อยให้แมวน้อยใจอยู่ได้ ..งั้นก็ไม่เป็นไรค่ะ ธีม ดูแลคุณแม่ไปก่อน แล้วแมวจะแวะไปเยี่ยมนะคะ..แต่วันนี้แมวขอเป็นไกด์นำเที่ยวก่อนก็แล้วกัน..”
นภาพร ยิ้มออกมาได้เมื่อได้รับทราบว่าคนรักของหล่อนติดภาระกิจที่สำคัญในการดูแลมารดาที่ป่วยอยู่ในโรงพยาบาล ซึ่งเป็นสิ่งที่นภาพร รับรู้อยู่แล้วว่า นวลพรรณ มารดาของธีรยุทธ นั้นต้องไปพบแพทย์ทุกเดือน มันเป็นเหตุสุดวิสัยที่หล่อนไม่ควรจะน้อยใจเขาเลย
ปรางทอง หันไปยิ้มกับสมร เมื่อได้ยินนภาพรคุยโทรศัพท์กับธีรยุทธจบลง…
“น่าเสียดายนะที่ธีมไปด้วยไม่ได้…”
สมร ทำสุ้มเสียงเหมือนเสียดายจริง ๆ
“พอดี..แม่ของธีม ต้องเข้าโรงพยาบาลน่ะค่ะ..เที่ยวนี้คงอยู่หลายวันหน่อย เห็นว่าอาการแย่ลงกว่าเดิมค่ะ…” นภาพร บอก
“งั้นแมวก็ต้องพามาร์คเที่ยวคนเดียวแล้วล่ะ…เพราะพี่กับเอริค จะพาน้องจีน่าไปหาหมอ แมว ดูแล มาร์ค แทนพี่กับเอริค ได้ใช่ไหม” สมร ถามน้องสาว
“ได้ค่ะ..แมวรับปากมาร์คไว้แล้วด้วย รับรองจะดูแลแขกวีไอพี ของพี่หมอนอย่างเต็มที่ค่ะ..”
นภาพร รับปากอย่างเต็มใจ ปรางทองยิ้มพอใจ
“งั้นแมวขับรถไปรับมาร์คที่โรงแรมก่อนนะคะ…”
“เย็นนี้พามาร์คมาทานข้าวที่บ้านเราสิ…พี่จะทำอาหารที่มาร์คเขาชอบไว้รอ”
สมรเป็นคนบอก นภาพรพยักหน้าก่อนจะคว้ากระเป๋าสะพายเดินออกไป ในขณะที่ปรางทองกับสมร หันมาพยักหน้ายิ้มแบบรู้กัน
