ตอนที่ 3 เกิดอุบัติเหตุ
ตอนที่
3
เกิดอุบัติเหตุ
อัญญารินทร์ตื่นขึ้นมาในห้องสี่เหลี่ยมสีขาวสะอาด กลิ่นยาฆ่าเชื้อลอยอบอวลไปทั่วห้อง ผ้าห่มสีขาวนุ่มคลุมร่างกายของเธอไว้ ภาพสุดท้ายที่จำได้คือเสียงยางรถยนต์ที่เสียดสีกับพื้นถนน เสียงกระจกแตก และความเจ็บปวดที่แล่นไปทั่วร่างกาย
“ผิง!!!”
ชื่อของคนรักผุดขึ้นมาในความคิดทันที อัญญารินทร์พยายามจะลุกจากเตียง แต่ก็ต้องนิ่วหน้าด้วยความเจ็บปวดที่แล่นไปทั่วทั้งตัว แขนซ้ายของเธอเข้าเฝือกอ่อนไว้ และมีรอยฟกช้ำตามร่างกายมากมาย แต่สิ่งเหล่านั้นไม่สำคัญเท่ากับความปลอดภัยของสโรชา
“หมอหลินคะ ยังลุกไม่ได้นะคะ” พยาบาลสาวรีบเดินเข้ามาประคองเธอไว้
“คุณหมอสั่งให้นอนพักก่อนค่ะ”
“ผิงล่ะคะ แฟนของฉันอยู่ที่ไหน” อัญญารินทร์ถามด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความกระวนกระวาย
“เธอเป็นยังไงบ้าง”
“ใจเย็นๆ นะคะ อาการของหมอหลินยังไม่ดีขึ้นเลยนะคะ” พยาบาลพูดพลางจับตัวอัญญารินทร์ให้นอนลงบนเตียงอีกครั้ง
“เดี๋ยวคุณหมอณิชาจะเข้ามาดูอาการนะคะ”
“ฉันเป็นหมอ!!!” อัญญารินทร์ตะคอกเสียงดัง
“ฉันรู้ว่าตัวเองเป็นยังไง บอกฉันมาเดี๋ยวนี้ว่าผิงอยู่ที่ไหน”
พยาบาลสาวตกใจกับท่าทีของเธอ จึงทำได้แค่รีบเดินออกไปตามุคุณหมอ อัญญารินทร์พยายามข่มความเจ็บปวดไว้และมองหาคนที่จะให้คำตอบได้
หมอณิชา เพื่อนสนิทของเธอในชุดกาวน์สีขาวเดินเข้ามาในห้องด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความกังวล อัญญารินทร์จับมือเพื่อนไว้แน่น เมื่อเพื่อนเดินเข้ามาใกล้เตียงที่เธอนอน
“ณิชา!!!” อัญญารินทร์เรียกชื่อเพื่อนรักด้วยเสียงที่สั่นเครือ
“ผิงอยู่ที่ไหน ผิงเป็นยังไงบ้างณิชา”
“หลินใจเย็นๆ ก่อนนะ” ณิชาพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน
“ตอนนี้ผิง อยู่ในห้องไอซียู”
คำว่าห้องไอซียู กรีดลึกลงไปในหัวใจของอัญญารินทร์ เธอรู้สึกเหมือนโลกทั้งใบหยุดหมุนไปชั่วขณะ
“ไม่จริง ผิงต้องไม่เป็นอะไรนะ ณิชาพาฉันไปหาผิงได้ไหม ตอนนี้เลย” อัญญารินทร์พยายามจะลุกขึ้นอีกครั้งแต่ณิชาจับไหล่ของเธอไว้แน่น
“หลินฟังฉันนะ” ณิชาพูดด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น
“ตอนนี้ผิงอยู่ในอาการโคม่า เราต้องรอดูอาการของผิงก่อน”
อัญญารินทร์ได้ยินที่ณิชาพูดเธอกลั้นน้ำตาที่พยายามกลั้นไว้ไหลอาบแก้มของเธออย่างห้ามไม่ได้ เสียงสะอื้นดังขึ้นในลำคอสะท้อนความเจ็บปวดที่ยากเกินจะทนได้ เธอนอนด้วยความรู้สึกที่เหมือนโลกของเธอกำลังจะแตกสลาย เธอได้แต่ภาวนาให้คนรักของเธอปลอดภัย
หลังจากนั้นไม่นาน วิรัชและอรุณี พ่อกับแม่ของอัญญารินทร์ก็เดินทางมาถึงห้องพักฟื้นของลูกสาว ใบหน้าของทั้งสองเต็มไปด้วยความวิตกกังวล
“หลินลูก!!! เป็นยังไงบ้าง” อรุณีเดินเข้ามาหาลูกสาวแล้วโอบกอดเธอไว้แน่น ส่วนวิรัชผู้เป็นพ่อก็ยืนมองลูกสาวด้วยความเจ็บปวดอยู่ในใจ
อัญญารินทร์ร้องไห้ออกมาอีกครั้งเมื่อเห็นหน้าพ่อกับแม่ เธอกอดแม่ไว้แน่นอย่างต้องการที่พึ่งพิง
“แล้วผิงเป็นยังไงบ้างลูก” อรุณีเอ่ยถามลูกสาวขึ้นมาด้วยความเป็นห่วงสโรชาเพราะเธอเองก็รักเหมือนลูกสาวอีกคนหนึ่ง
“หมอบอกว่าผิงอยู่ในอาการโคม่าค่ะแม่” อัญญารินทร์บอกกับแม่ด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ
วิรัชเดินเข้ามานั่งข้างๆ ลูกสาว แล้วจับมือของลูกสาวไว้ “ลูกต้องเข้มแข็งนะหลิน ผิงจะปลอดภัยเชื่อพ่อสิ”
“พ่อกับแม่จะอยู่ข้างๆ ลูกน” อัญญารินทร์มองหน้าพ่อกับแม่ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความอบอุ่นแต่ก็เจ็บปวดเหมือนใจจะขาดเพราะเป็นห่วงสโรชา
เมื่อได้รับอนุญาตให้ออกจากห้องพักผู้ป่วยได้ อัญญารินทร์ก็รีบมุ่งหน้าไปที่ห้องพักผู้ป่วยของสโรชาทันที เธอเดินไปตามทางเดินของโรงพยาบาลด้วยหัวใจที่เต้นรัวอย่างบ้าคลั่ง ประตูบานใหญ่ที่กั้นระหว่างเธอกับคนรักดูเหมือนจะหนักอึ้งกว่าที่เคยเห็น อัญญารินทร์เปิดประตูเข้าไปช้าๆ ภาพที่เห็นทำให้เธอเข่าแทบทรุด
สโรชานอนอยู่บนเตียงคนไข้ในสภาพที่ถูกผ้าพันแผลไว้ทั่วทั้งศีรษะและลำตัว ใบหน้าสวยหวานที่เธอหลงรักบัดนี้เต็มไปด้วยรอยฟกช้ำและมีสายระโยงระยางจากเครื่องช่วยหายใจ อัญญารินทร์เดินเข้ามาใกล้เตียงช้าๆ แล้วใช้มือที่สั่นเทาจับมือของสโรชาไว้เบาๆ
“ผิง...” อัญญารินทร์เรียกชื่อคนรักด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา
“พี่หมออยู่นี่แล้วนะ ผิงได้ยินพี่หมอไหมคะ”
มีเพียงเครื่องช่วยหายใจที่ดังสม่ำเสมอเป็นคำตอบ อัญญารินทร์ก้มลงจูบที่มือของสโรชาอย่างอ่อนโยน น้ำตาของเธอหดลงกระทบผิวของคนรัก
“ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น พี่หลินจะอยู่ข้างผิงเสมอนะค” อัญญารินทรกระซิบเบาๆ ที่ข้างหูของสโรชา แล้วเธอก็เฝ้ารอด้วยความหวังว่าสโรชาจะตื่นขึ้นมาในเร็วๆ นี้
ทันใดนั้น เสียงเปิดประตูก็ดังขึ้น ทำให้อัญญารินทร์ต้องหันไปมอง เธอเห็นปรีชาและมลฤดี พ่อกับแม่ของสโรชาเดินเข้ามาในห้อง
มลฤดีเมื่อเห็นอัญญารินทร์อยู่ข้างเตียงลูกสาว เธอก็แสดงความไม่พอใจออกมาทันที
“หลิน!!! มาทำไมที่นี่” มลฤดีถามอัญญารินทร์เสียงเข้ม
“แม่คะ” อัญญารินทร์เรียกด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ “หลินมาหาผิงค่ะ”
“ไม่ต้องมาเรียกฉันว่าแม่” มลฤดีพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา
“ถ้าเธอดูแลลูกฉันดีพอ เรื่องแบบนี้ก็คงไม่เกิดขึ้น”
“คุณมลใจเย็นๆ ก่อนที่นี่โรงพยาบาล” ปรีชาเอ่ยขึ้นมาเพื่อเตือนสติภรรยา “ไม่ใช่ความผิดของหลินหรอก มันเป็นอุบัติเหตุ”
“ไม่ใช่ความผิดของเธอแล้วจะเป็นความผิดของใคร ถ้าผิงไม่รักเธอแล้วไม่ไปอยู่กับเธอผิงก็คงไม่ต้องเป็นแบบนี้” มลฤดีไม่สนใจคำพูดของใครทั้งนั้น เธอยังคงมองว่าอัญญารินทร์เป็นคนผิดอยู่ดีเพราะเธอไม่เคยชอบอัญญารินทร์อยู่แล้วแค่ขัดใจสโรชาไม่ได้เท่านั้น
“แม่คะ เรื่องมันเกิดขึ้นเร็วมากค่ะ อีกอย่างหลินก็ไม่ได้อยากให้เป็นอย่างนี้ แม่รักผิงแค่ไหน หลินก็รักผิงไม่น้อยไปกว่าแม่เลยนะคะ หลินขอโทษค่ะแม่” อัญญารินทร์พูดด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวด
“คำขอโทษของเธอจะช่วยอะไรได้!!! ลูกสาวคนเดียวของฉันต้องมาเจ็บตัวอย่างนี้ก็เพราะเธอ ผิงตื่นขึ้นมาแล้วหายดีฉันจะเป็นคนทำให้ผิงเลิกกับคนอย่างเธอให้ได้ อัญญารินทร์!!!” มลฤดีพูดออกมาเสียงดังฟังชัด จนอัญญารินทร์แทบหายใจไม่ออก แค่ตอนนี้สโรชายังไม่ฟื้นก็ทำให้เธอเองแทบจะเป็นบ้าแต่ยิ่งมาเจออุปสรรคจากแม่ของสโรชายิ่งทำให้เธอเจ็บปวดแทบขาดใจ
อัญญารินทร์มองไปที่สโรชาด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความรักและความห่วงใย แต่เมื่อหันไปเห็นมลฤดี เธอก็ได้แต่ถอยออกมาเงียบๆ โดยไม่พูดอะไรอีก
