ตอนที่หนึ่ง ต้องหาทางเอาเองแล้ว
ตอนที่หนึ่ง
ต้องหาทางเอาเองแล้ว
ซ่งฮูหยินเอกมีบุตรสาวและบุตรชายอย่างละคนจึงรักใคร่ทะนุถนอมเป็นอย่างยิ่ง
“เจ้างดงามเพียงนี้ อีกหน่อยต้องมีชายหนุ่มส่งแม่สื่อมาสู่ขอมากมายแน่ๆ หนิงเอ๋อร์ เพียงคลอดบุตรชายตัวอวบอ้วนสักหลายคน ชีวิตภายหน้าของเจ้าก็นับว่าดียิ่งแล้ว”
ได้ยินประโยคนี้ ซ่งอี้หนิงย่อมยินดีเพราะความหมายก็คือนางจะมีชีวิตแสนสบายไปอีกนาน
แม้ว่าจวนกั๋วกงจะไร้ผู้ปกครองมานานปีด้วยบิดาของนางเสียชีวิตไปด้วยโรคภัย
แต่ด้วยสมบัติที่สะสมไว้มีไม่น้อยกับร้านค้าที่ยังทำเงินอยู่ตลอดจึงทำให้ผู้เป็นภรรยาเอกสามารถเลี้ยงดูบุตรชายหญิงด้วยความเอาอกเอาใจ ทั้งยังเลี้ยงดูอนุกับบุตรสาวของนางอีกสองคนได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง
กระทั่งสองปีก่อนที่ซ่งอี้หนิงเริ่มผิดสังเกตอาหารที่นำมาขึ้นโต๊ะในแต่ละวัน นางจึงไต่ถามพ่อบ้านซึ่งคอยดูแลบัญชี จากนั้นจึงเอ่ยขอดูแลบัญชีด้วยตนเอง
และนั่น...จึงกลายเป็นการค้นพบหายนะอันยิ่งใหญ่ ด้วยจวนสกุลซ่งเป็นหลุมกลวงที่ขาดแคลนเงินทองมาหลายปีแล้ว
หลังจากเข้าควบคุมการเงินและจัดการร้านค้าหลายแห่งตามความถนัดของร่างเดิม ซ่งอี้หนิงจึงต้องเจรจากับมารดาตามความเป็นจริง
“ที่ผ่านมา ท่านแม่ไม่เคยแก้ไขปัญหาจากต้นเหตุ เพียงแก้ไขปลายเหตุด้วยการขายของมีค่าเพื่อซื้อเวลาไปในแต่ละวัน หากพวกเราไม่ได้ใช้เงินมาก วิธีนั้นก็คงพอพยุงอยู่ได้อีกหลายปี
แต่อาหยางใช้เงินราวเบี้ยเช่นนี้ ต่อให้ขายของมีค่าหมดทั้งจวน ยามนี้ก็คงไม่พอแล้ว”
“แต่หยางเอ๋อร์กำลังจะเป็นขุนนาง เจ้าจะให้เขาหมกตัวอยู่ในจวนไม่ได้นะ หนิงเอ๋อร์” มารดาย่อมเห็นแก่หนทางของบุตรชายคนเดียวโดยไม่เหลียวมองความเป็นจริง
“นั่นก็ด้วยเขาไร้ความสามารถเอง สอบอันใดก็ไม่ผ่าน จึงต้องใช้เส้นสายใช้เงินกรุยทางเช่นนี้” บุตรสาวเอ่ยว่าตามตรงจนจี้ต่อมน้ำตาของมารดาให้ไหลออกมาไม่ขาดสาย
“เสียดายที่บิดาของเจ้าตายเร็วเกินไป หาไม่ คงพอติดต่อหาผู้ช่วยเหลือได้ ฮือๆๆ” เห็นน้ำตาของอีกฝ่าย ซ่งอี้หนิงย่อมต้องหยุดเจรจาด้วยไม่อยากกลายเป็นบุตรอกตัญญู
เฮ้อ!...คุยกันทีไรก็ร้องไห้ทุกครา
เห็นทีต้องหาทางเอาเองแล้ว
ในเมื่อการค้าไม่อาจทำเงิน ข้าวของมีค่าก็ล้วนขายไปแล้ว ดังนั้นหนทางเดียวคือต้องหาที่พักพิงซึ่งมั่นคงดุจดั่งขาทองคำเพื่อพยุงทั้งครอบครัวและการค้า
แต่ก่อนที่จะหาได้ นางต้องสร้างรายได้จากร้านค้าที่เหลือเพียงน้อยนิดนั่นเสียก่อน ไม่เช่นนั้นคงต้องเด็ดหญ้ามาต้มกินแทนข้าวจริงๆ
เฮ้อ!...เหตุใดนางจึงต้องเหน็ดเหนื่อยสายตัวแทบขาดเช่นนี้ คิดว่าเป็นบุตรสาวของกั๋วกงจะได้ใช้ชีวิตสุขสบายเสียอีก
