ตอนที่7.2ซิงเกิ้ลมัม
“ครับ คุณวัฒน์”
“ฉันจะคิดดู ขอบใจนายมากนะ”
หนึ่งสัปดาห์แล้วที่คุณแม่ยังสาวใช้ชีวิตที่เชียงใหม่ เธอทำหน้าที่ได้ดีในด้านการงานและผู้นำครอบครัว ถึงจะไม่ร้อยเปอร์เซนต์ แต่ก็ดีในระดับนึงสำหรับผู้หญิงตัวเล็กๆอย่างน้ำตาล
“วันนี้อลิสของแม่ใส่ชุดไหนดีนะ อืม…” น้ำตาลหยิบเสื้อผ้าเฟ้นหาให้อลิสนานเกือบชั่วโมง หนูน้อยมองคุณแม่ตาละห้อย เพราะรอนานแล้วแต่ยังไม่ได้ชุดสวยใส่
“คุณแม่ชุดนี้ค่ะ” นิ้วน้อยๆชี้ไปที่ชุดกระโปรงลายดอกไม้ทั้งตัวสีส้มอ่อน
“อลิสชอบชุดนี้เหรอคะ”
“ค่ะ"
“แต่คุณแม่ว่า ไม่ค่อยสวย ชุดนี้ดีกว่านะคะ สีครีมทั้งตัว มีดอกไม้ติดที่หน้าอก” พูดจาหว่านล้อม แต่ทว่าหนูน้อยนั้นไม่ชอบ
“โอเค อลิสของแม่ใส่ชุดไหนก็สวยค่ะ มาค่ะแต่งตัวสวยๆไปเที่ยวห้างกันดีกว่า วันนี้คุณแม่จะพาไปกินไอศครีมอร่อยๆ แล้วก็ดูการ์ตูนที่อลิสชอบ ตกลงไหมคะ”
“ตกลงค่ะ เย้!!” ดวงตาของอลิสเป็นประกายรีบวิ่งเข้าหาแม่เพื่อแต่งตัวออกไปข้างนอก
สองแม่ลูกเตรียมพร้อม น้ำตาลคว้ากระเป๋าสะพายบ่า จับมืออลิสเดินลงบันไดบ้าน เสียงน้าต่ายร้องทัก
“อย่ากลับจนค่ำนักละตาล”
“ค่ะ" น้ำตาลขานรับ
“อลิส คุณยายรอทานข้าวเย็นกับอลิส บอกแม่ตาลให้รีบกลับนะอลิส”ยายต่ายคุยกับหลานตัวเล็ก
“ค่ะคุณยาย บ๊ายบาย จุ๊บ” ส่งจูบหวานๆให้คนเป็นยาย นางยิ้มกว้างให้กับความน่ารักสดใส
น้ำตาลจับมือลูกไว้แน่น เดินไปไม่นานก็ถึงถนน พอดีกับที่รถสองแถวผ่านมาด้วยความเร็ว มือบางยกขึ้นโบกไม่ทัน รถเคลื่อนไปข้างหน้าไม่จอดรับผู้โดยสาร เธอกลัวต้องรอนานตัดสินใจอุ้มอลิสวิ่งตาม อีกมือก็พยายามโบก แขนข้างเดียวก็กระชับอุ้มลูกแน่น
...“นี่หยุดก่อน!! ปัดโธ่โว๊ยจะรีบไปไหน หยุดก่อน ฉันต้องได้ไปคันนี้ หยุด!!”
“เอี๊ยด!!!” น้ำตาลดีใจที่รถสองแถวจอดให้ เธออุ้มอลิสวิ่งไปจนได้ขึ้น พร้อมเสียงหายใจหอบเหนื่อย เดชะบุญมีที่นั่ง เพราะคนลงพอดี
“ขอโทษนะคะ” เดินชนขาผู้โดยสารท่านอื่น ขยับเข้าไปจนได้ที่นั่ง อลิสนั่งตักแม่ตาล ระหว่างทางที่รถสองแถวเคลื่อนไปในตัวเมือง ยิ่งเข้าเมืองกว่าจะถึงห้างใหญ่ รถก็ติดเป็นธรรมดา
บนถนนเส้นเดียวกัน รถคันหรูเคลื่อนไปอย่างช้าๆกว่าจะผ่านไฟแดงมาแต่ละจุดได้ ทำเอาพ่อเลี้ยงอภิวัฒน์หัวเสีย หน้าตาอันหล่อเหลาดูไม่ค่อยสบอารมณ์เท่าไหร่นัก
“แหม วันนี้วันหยุด นึกยังไงถึงได้ออกจากรีสอร์ทล่ะครับ”
“ฉันจะไปธุระ”
“ธุระอะไรครับ”
“พรุ่งนี้วันเกิดภรรยาท่านผู้ว่า จะไปหาซื้อของขวัญให้ภรรยาท่านซะหน่อย แล้วก็จะแวะไป เอ่อ...หา...อลิส”
"อ๋อ ครับ” คนสนิทยิ้ม
“พูดถึงงานวันเกิด เสียดายที่ท่านผู้ว่าไม่เลือกสถานที่จัดงานเป็นรีสอร์ทของเรานะครับ แต่เลือกรีสอร์ธารภูผา ได้ข่าวว่าเพิ่งเปิดใหม่สดๆร้อนๆ”
“หึ ของใหม่คนก็เห่อเป็นธรรมดา นี่เดี๋ยวนายไปเลี้ยวยูเทิร์นข้างหน้า ซ้ายมือมีทางลัด”
นายยอดขับรถไปยูเทิร์นตามคำสั่งของเจ้านาย ขับไปได้ไม่ไกลนักรถก็ติดไฟแดง รถคันหรูจอดเทียบกับรถสองแถว อภิวัฒน์อารมณ์เสียทั้งที่หนีการจราจรติดขัด สายตาคมวาวกวาดมองออกนอกรถ
“อลิส” อภิวัฒน์รีบลดกระจกลง แล้วส่งเสียงเรียกหนูน้อย
“อลิส!! อลิส!!”
หนูน้อยได้ยินเสียงเรียกคุ้นหู แววตาอันสดใสเป็นประกายเมื่อเห็นคุณอา เพื่อนเล่นตุ๊กตาด้วยกันโดยบังเอิญ
“คุณอา!! คุณอา คุณแม่ คุณอาเพื่อนอลิสค่ะ” หนูน้อยบอกแม่ น้ำตาลหันไปมองตามลูก ดวงตากลมสวยเบิกกว้าง
ร่างเล็กชาทั่วกาย มือเย็นเฉียบ เธอจำเขาได้ดี แล้วรีบหลบก้มหน้าเบียดบ่าป้าข้างๆ
“คุณแม่ คุณอาวัฒน์” อลิสยกมือจุ๊บส่งจูบให้เพื่อนคนโปรด คนตัวโตยิ้มกว้าง เขาอยากรู้จักแม่เด็ก ส่งเสียงทักทายให้แม่ของอลิสหันมามอง
“คุณ!! คุณเป็นแม่ของอลิสใช่ไหมผมชื่ออภิวัฒน์เฮ้!! คุณ !! จะไปไหน!!เดี๋ยวผมไปส่ง!! คุณ!!ๆวู้ว”
น้ำตาลหลบหน้า ในใจเธอเดือดยิ่งกว่าภูเขาไฟลาวา แต่ก็เก็บอาการเพื่อลูก
“อลิสคะ อย่าเสียงดังค่ะ อลิส...” น้ำตาลดุลูก
“ค่ะคุณแม่”
สัญญาณไฟเขียว รถเคลื่อนตัวอย่างรวดเร็วทุกคัน สถานะการณ์ทำให้รถเขาคลาดเคลื่อนกับรถสองแถว
อภิวัฒน์รีบบอกคนสนิทให้จอดรถเข้าข้างทาง เขาลงจากรถ มองสองแถวที่มีหนูน้อยโบกมือส่งจูบให้จนลับสายตา
“มีอะไรครับคุณวัฒน์ ถึงให้ผมจอดรถกระทันหันแบบนี้”
“เมื่อกี้ทำไมไม่แซงเล่า นายขับรถยังไง”
“ก็รถอีกคันเขาไม่ให้ทางนี่ครับ ถ้าผมแซงก็เกิดอุบัติเหตุ”
“ไปออกรถ กลับทางเดิม”
“อ้าวไม่ไปหาหนูอลิสแล้วเหรอครับ”
“อลิสไม่อยู่ ออกไปกับแม่ แต่อะไรรู้มั้ย แม่ของอลิส”
“ทำไมครับ”
“เธอไม่หันมามองหรือทักทายฉันเลย ฉันตะโกนจนเจ็บคอ ที่สำคัญฉันเป็นเพื่อนกับอลิส แม่ของอลิสมนุษยสัมพันธ์แย่มาก ฉันสางสารอลิส”
“คุณวัฒน์ ผมว่าคุณอยากมีลูกแล้วล่ะครับ” ยอดยิ้ม
“ลูก” อภิวัฒน์ทวนคำพูด แล้วรีบขึ้นรถปิดประตูทันที หน้าเรียบขรึม นั่งนิ่งราวรูปปั้น
“เอ่อ...สรุปไปไหนครับ”
“กลับรีสอร์ท ส่วนของขวัญนายไปหาซื้อ” อภิวัฒน์นั่งเงียบตลอดทาง อยู่ๆก็นึกถึงดวงหน้าหวานๆที่อยู่ใต้ร่างของเขายามราตรีที่ไม่เคยเลือนหายไปจากความทรงจำถึงแม้เวลาจะผ่านมาถึงห้าปีแล้วก็ตาม
น้ำตาลจับมืออลิสเดินเที่ยวในห้างดัง พาลูกสาวไปดูการ์ตูนที่ชอบ ต่อด้วยกินไอศครีมอร่อย ๆตลอดทั้งวันจวบจนเกือบเย็นจึงกลับบ้าน ได้เวลาทานข้าวกับน้าต่ายพอดี แต่ทว่าเธอกลับไม่ค่อยเจริญอาหาร คนตัวเล็กเขี่ยกับข้าวในจาน แววตาเหม่อลอย
“ตาล...ตาล...น้ำตาล!!”
“คะ ค่ะ น้าต่าย” เธอสะดุ้งตกใจ
“ไม่สนุกหรือไง ที่พาอลิสไปเที่ยว”
“เอ่อ...สนุกค่ะ ใช่ไหมคะ อลิส” น้ำตาลหันไปถามลูก
“ค่ะ สนุก คุณยาย อลิสเห็นคุณอาวัฒน์” หนูน้อยบอกยาย นางหมดความอดทนในสิ่งที่นางกำลังสงสัย
“ตาล!! ตาลรู้จัก อภิวัฒน์ รัตนกุลใช่ไหม”
“ไม่ค่ะ!! ตาลไม่รู้จักคนเลวแบบนั้น!!”
“น้าจะรอวันที่ตาลพูดความจริง” นางลุกจากเก้าอี้เดินหายเข้าห้อง น้อยใจหลานสาวที่ไม่ยอมปริปากพูดอะไรออกมาเลย
“น้าต่ายคะ ตาลขอโทษ น้าต่าย !! น้าต่าย!!” เสียงเรียกของเธอไม่ได้ทำให้น้าต่ายหันกลับมา อลิสค่อยๆลงจากเก้าอี้ เดินมาจับมือแม่น้ำตาล”
“คุณแม่ขา คุณยายเป็นอะไรคะ”
“ไม่มีอะไรหรอกค่ะ ไปแปรงฟันกันดีกว่านะคะ คุณแม่มีนิทานเรื่องใหม่เล่าให้อลิสฟังเยอะแยะเลยค่ะ”
“ค่ะ อลิสอยากฟังนิทาน”
น้ำตาลจับมือลูกเดินเข้าห้อง จัดการกับกิจวัตรประจำวัน เล่านิทานให้ลูกฟังก่อนนอนจนอลิสนอนหลับสนิทอยู่ในอ้อมกอดอันแสนอบอุ่นจนถึงเช้าวันใหม่
รีสอรท์ธารภูผา ห้องทำงานพ่อเลี้ยงปราชญ์ น้ำตาลยืนนิ่ง รอฟังคำสั่งจากเจ้านาย เพราะสายตาคมวาวมองมาที่เธอนั้นแปลกๆ
“เอ่อ…คุณน้ำตาลครับ”
“ค่ะ คุณปราชญ์ ไม่ทราบว่า ตาลมีอะไรผิดปกติหรือเปล่าคะ คุณถึงได้มองตาลซะละเอียดเลย”
“ไม่มีครับ ผมอยากจะชวนคุณมางานเลี้ยง”
“อะไรนะคะคุณปราชญ์ ตาลได้ยินไม่ผิดใช่ไหมคะ”
“ไม่ผิดครับ คืนนี้แต่งตัวสวยๆ เดี๋ยวผมไปรับที่บ้าน ผมรับรองว่าไม่ดึก”
“แต่ว่าตาล เอ่อ...ไม่สะดวกจริงๆค่ะ”
“ผมขอร้องละครับ งานนี้สำคัญนะครับ คุณช่วยทุกแผนกจัดงานวันเกิดภรรยาท่านผู้ว่า ก็ต้องช่วยผมด้วยสิครับ นะครับ ผมอยากให้คุณตาลผ่อนคลายบ้าง พาอลิสมาด้วยก็ได้ครับ”
“อลิสต้องไปโรงเรียนค่ะ เอ่อก็ได้ค่ะ แต่ห้ามดึกนะคะ”
“ครับ ผมรับรอง นี่ครับผมซื้อชุดมาให้ ผมว่าคุณตาลใส่แล้วต้องสวยมากแน่ๆ”
“คือว่าตาล... เอ่อ”
“รับไปเถอะครับ ผมรู้ว่าคุณไม่ชอบของฟรี ผมหักจากเงินเดือนคุณเดือนล่ะห้าร้อยบาท”
“ขอบคุณค่ะ” เธอรับกล่องกระดาษเรียบหรูจากคุณปราชญ์
“ตอนนี้บ่ายสามครึ่ง เดี๋ยวผมไปส่งคุณตาลกลับบ้าน คุณตาลจะได้มีเวลาแต่งตัว แล้วอีกสามชั่วโมงผมไปรับ ตกลงไหมครับ” คุณปราชญ์ออกความเห็น
“ไปรับก็พอค่ะ ตาลกลับเลยนะคะ”
“ขอบคุณครับคุณตาล” คุณปราชญ์ยิ้มกว้าง เขาหาทางใกล้ชิดกับเธอสำเร็จ
น้ำตาลรีบกลับบ้านไปอาบน้ำแต่งตัวใหม่ เธอสวมชุดราตรียาว คล้องคอ คอวี ลึก สีเทาเงินได้อย่างสวยสง่า อวดทรวดทรงที่ดูเป็นสาวสะพรั่ง ขับผิวพรรณขาวอมชมพูโดดเด่น ผมยาวเกล้าขึ้นด้านหลังถักเปียสวยหวาน อลิสนั่งจ้องคุณแม่ตาไม่กระพริบ
“โอ้โห...คุณแม่สวยที่สุดในโลกเลยค่ะ” เสียงใสเอ่ยชมแม่ไม่หยุดปาก น้ำตาลหันมาหาลูก อุ้มหนูน้อยนั่งบนตักหอมแก้มทั้งสองข้างจนชื่นใจ
“อลิส วันนี้หนูนอนกับคุณยายนะคะ พอคุณแม่เสร็จธุระแล้วคุณแม่จะมานอนด้วย”
“ค่ะ คุณแม่สวยที่สุด”
“ขอบคุณค่ะอลิส”
พ่อเลี้ยงอภิวัฒน์มาถึงรีสอร์ทธารภูผาในเวลาหนึ่งทุ่ม เขาเดินเข้าไปในงานที่จัดอย่างยิ่งใหญ่ แขกผู้มีเกีรยติที่มาร่วมฉลองงานวันเกิดภรรยาท่านผู้ว่ามีทั้งคนในจังหวัดและเดินทางมาจากต่างจังหวัดอย่างคับคั่ง เสียงเพลงล้านนาเปิดดังจังหวะสนุกสนานยิ่งทำให้บรรยากาศภายในงานยิ่งครึกครื้น ตื่นตาด้วยแสงไฟนับร้อยดวง
“หึ...ใหญ่โตดีนี่ไหนว่าจัดแค่เล็กๆไง” อภิวัฒน์กวาดสายตาคมวาวมองจนทั่วงาน
“ผมก็ไม่ทราบครับ สงสัยจะปิดข่าว” ยอดกระซิบข้างหูเจ้านาย
“อ้าว!!สวัสดีครับพ่อเลี้ยงอภิวัฒน์ เป็นเกียรติมากที่พ่อเลี้ยงมาที่รีสอร์ทของผม” ปราชญ์กล่าวตามมารยาท เมื่อเผชิญหน้ากัน
“ครับ รีสอร์ทดูใหญ่โตกว้างขวางดีนะครับ เหมาะที่จะจัดงานวันเกิดภรรยาท่านผู้ว่า” สายตามองอย่างประชดของอภิวัฒน์ทำให้คนสนิทต้องรีบสะกิด
“คุณวัฒน์”
“ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกครับ ผมว่าท่านผู้ว่ามองเห็นมากกว่า ว่าสมควรจะจัดงานที่ไหนดีที่ไม่ซ้ำซาก จำเจ” พ่อเลี้ยงปราชญ์ยืดอก มือปรับเนคไท
“คุณปราชญ์! คุณปราชญ์คะ!! ท่านผู้ว่าอยากพบคุณค่ะ เสียงใสพยายามตะโกนแข่งกับเสียงเพลงบอกเจ้านายมาแต่ไกล เธอเดินเข้ามาใกล้ในระยะสายตาของอภิวัฒน์ เช่นเดียวกับน้ำตาลที่เห็นว่าเขายืนอยู่กับปราชญ์
“อภิวัฒน์!” น้ำตาลหยุดนิ่งชะลอฝีเท้าเข้าใกล้ เช่นเดียวกับสายตาคมเข้มเบิกกว้างจ้องมองเธออย่างตกตะลึง ที่เห็นร่างอรชรอยู่ไม่ไกลตรงหน้า เรือนกายบอบบางในชุดราตรีที่ทำให้ร่างกายอวัยวะทุกส่วนหยุดชะงัก แต่ที่ไม่หยุดคือหัวใจเต้นรัว ริมฝีปากหยักสีเข้มเอ่ยเบาๆกับตัวเอง
“นางฟ้า ผมไม่ได้ตาฝาด"
