บท
ตั้งค่า

ตอนที่6ซิงเกิ้ลมัม

“เออชั่งเหอะ ฉันก็กรี๊ดไปตามกระแส มาตั้งชื่อหลานของน้าดีกว่า” เกวเสนอชื่ออีกรอบแต่ก็ยังไม่ถูกใจเพื่อน ทว่าอยู่ๆ น้ำตาลก็พูดชื่อขึ้นมา

“อลิสา อลิส ลูกฉัน ชื่อ อลิส”

“เจ๋ง!!ชื่อเพราะมากเลย ผู้หญิงแน่หลานน้า” เกวชมเปราะ

"ผู้หญิง ลูกฉันต้องเป็นผู้หญิง โอ๊ยเจ็บ! เกว เกว” สีหน้าแสดงออกถึงความเจ็บปวด

"อะไรนะ จะ เจ็บเจ็บ เดี๋ยว!! อย่าบอกนะว่าแกปวดท้อง” เกวตกใจทำอะไรไม่ถูก

“อื้อ ใช่ ฉันปวดท้อง ปวดท้อง เกว...ฉันปวดท้อง!!” สองมือเล็กกุมท้องแน่น

“ห๊ะ...จะคลอดแล้วเหรอ ทำไงดี อั้นไว้นะแก อั้นหลานฉันไว้ น้าต่าย! ตาลปวดท้อง!"

“อะไรนะ!! ปวดท้อง” น้าต่ายตกอกตกใจรีบวิ่งออกมาจากห้องครัว

“อ้าวเร็ว !! เกวไปเรียกแท็กซี่ ไปโรงพยาบาล !! หลานยายใจเย็นๆนะหลาน ถึงโรงพยาบาลก่อนนะลูก"

น้ำตาลถูกพยุงขึ้นรถแท็กซี่ โดยมีน้าต่ายและเพื่อนสนิทคอยดูแลอยู่ตลอดจนถึงที่หมาย โรงพยาบาลรัฐ สาวท้องแก่นอนปวดท้องอยู่บนเตียงรอเข้าห้องคลอด น้ำตาคลอเบ้าอยู่ตลอดเพราะความเจ็บปวดตามธรรมชาติของคนที่กำลังจะเป็นแม่ น้าต่ายกับเกวยืนให้กำลังใจอยู่ข้างเตียง ทั้งสองคนบีบมือน้ำตาลเพื่อปลอบโยนไม่ห่าง

“น้ารออยู่ตรงนี้นะ ไม่ต้องกลัวอะไรทั้งนั้น ตาลจะเป็นแม่คนแล้วนะ ตาลของน้าเก่งจะตายไป”

“สู้ๆ นะแก ฉันจะไม่ไปไหน แกจะต้องผ่านไปได้แน่ๆ สู้ๆ” ยิ้มให้กำลังใจ

“ตาลเจ็บ เจ็บเหลือเกิน ฮือ...ไม่เคยเจ็บอะไรขนาดนี้ น้าต่าย เกว” น้ำตาไหลอาบแก้มด้วยควมรักที่มีให้กับเด็กที่กำลังจะออกมาลืมตาดูโลก

“ญาติรอข้างนอกก่อนนะคะ” นางพยาบาลยิ้มให้ด้วยสายตาของความอ่อนโยน

บุรุษพยาบาลเข็นเตียงเข้าห้องคลอด อุปกรณ์เครื่องมือแพทย์ คุณหมอและนางพยาบาลพร้อม

“ตาลเจ็บ!! คุณพยาบาลตาลเจ็บท้องเหลือเกินค่ะ ฮือ...”

“หายใจลึกๆค่ะ ลึก เข้าออก เข้าออก โอเค แบบนั้นล่ะ” นางพยาบาลจับมือบางไว้ให้กำลังใจสาวท้องแก่ ได้เวลาที่แพทย์หญิงทำคลอดให้น้ำตาล

“เบ่งค่ะ ถ้ารู้สึกว่ามีลมเบ่งค่อยเบ่งนะคะ ปากมดลูกเปิดแล้วค่ะ” แพทย์หญิงบอกคนท้อง

“อื้อ!!ค่ะ มีแล้วค่ะ ฮือ ฮึบ!! อื้อ...”

“เห็นหัวเด็กแล้วนะคะ เบ่งค่ะ เบ่ง!!”

“ฮะ ฮึบ !! กรี๊ด!!...” ลมสุดท้ายที่เธอเบ่งสุดกำลัง ลูกน้อยในครรภ์ก็คลอดออกมาได้อย่างน่ามหัศจรรย์

“อุแว้ ..แง่ๆๆ”ทารกร้องเสียงดัง เนื้อตัวเปื้อนเลือด

หยาดน้ำใสไหลอาบแก้มเมื่อน้ำตาลได้ยินเสียงลูก นางพยาบาลอุ้มเด็กทารกมาใกล้วางบนอกของคุณแม่มือใหม่

“ผู้หญิงค่ะ หน้าตาจิ้มลิ้มพริ้มเพราเหมือนคุณแม่เลย ลูกคุณแข็งแรงดีค่ะ ดิฉันขอแสดงความยินดีด้วยนะคะ”

“อลิส อลิสลูกแม่”

รีสอร์ทดุจตะวัน เชียงใหม่ พ่อเลี้ยงอภิวัฒน์กลับเข้าที่พักด้วยความเหนื่อยล้า ใบหน้าคมเข้มมีรอยยิ้มเมื่อระยะเวลา1ปี 9เดือนที่เขาสานต่อธุรกิจ นำที่ดินของครอบครัว ทำธุรกิจรีสอร์ทสำเร็จเสร็จลุล่วงไปด้วยดีและเปิดให้เข้าบริการในวันนี้ ถึงจะไม่ใหญ่มากนัก แต่ทว่ารีสอร์ทดุจตะวันก็ถูกโหวตตามเว็บไซด์ ให้เป็นสถานที่ที่น่าเข้าพักที่สุดในเชียงใหม่ ดีเยี่ยมทั้งการบริการ บรรยากาศ อาหาร และที่พัก พ่อเลี้ยงยังคงขยายธุรกิจต่อไปเรื่อยๆอย่างไม่หยุดนิ่ง

“คุณวัฒน์ต้องการอะไรเพิ่มอีกไหมครับ”

“ไม่ นายไปนอนเถอะ” ร่างสูงกระแทกก้นนั่งบนโซฟาตัวยาว พร้อมโบกมือไล่นายยอด

บรรยากาศรอบกายในยามค่ำคืนที่แสนเงียบงัน ขับกล่อมให้ร่างสูงหลับเข้าสู่ห้วงนิทราได้อย่างง่ายดาย เขานอนฝันถึงค่ำคืนสุขสำราญ ใบหน้าสวยหวาน ร่างเล็กบอบบาง กลิ่นกายตราตรึงใจ

[เธอนี่เอง พาใครมา ..เด็กคนนี้น่ารักดีนี่ ชื่ออะไร ไหนมาให้ฉันดูหน้าใกล้ๆ หน่อยซิ ] ร่างสูงย่อตัวลงนั่งยองๆ จ้องมองดวงหน้าเด็กหญิงด้วยความเอ็นดู แต่ทว่าหญิงสาวกลับอุ้มเด็กหญิงหนี และมีท่าทีขยะแขยงเขา อภิวัฒน์จึงโมโหที่เธอทำท่าทางรังเกียจ

[นี่!! หยุดก่อน หยุด รังเกียจอะไรผมนักหนา ฟังผมก่อนสิ!!]

[แม่หนูไม่ชอบคุณ หนูก็ไม่ชอบคุณ] เด็กหญิงหน้าตาจิ้มลิ้มยกมือโบกไปมาบ๊ายบาย

[เฮ้...มีเหตุผลไหม คุยกันก่อนสิ !! เดี๋ยว !! หยุดก่อน ผมมันน่ารังเกียจนักหรือไง!!]

ทันใดนั้นหญิงสาวก็อุ้มเด็กหญิงเลือนหาย อภิวัฒน์รู้สึกตัวตื่นพร้อมเสียงละเมอ

"หยุด !! อย่าหนีผมไปแบบนี้!! อย่าหนีผม!!" เขาหายใจหอบถี่ รีบขยับตัวลุกขึ้นนั่ง เดินไปหยิบน้ำแร่ในตู้เย็นมาเปิดดื่ม กวาดสายตาฝ่าความสลัว มองออกไปด้านนอก ท้องฟ้าที่มีแสงดาวระยิบระยับทำให้เขานึกถึงนางฟ้ายามราตรีในค่ำคืนอันเร่าร้อน สายตาทอดมองแสงดาวพร่างพราวบนฟ้าอยู่เพียงไม่นาน จึงหันกลับเข้าไปนอนพักผ่อนต่อในกระทั่งหลับสนิทและไม่เคยฝันถึงนางฟ้ายามราตรีอีกเลย

5 ปีต่อมาห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่ บ้านไม้สีขาวชั้นเดียว เสาสูงเมตรครึ่ง มีสองห้องนอน สองห้องน้ำ เนื้อที่ 36ตารางวา อากาศบริสุทธิ์ สดชื่น บริเวณรอบๆบ้านเหลือเนื้อที่ให้ปลูกผัก และต้นไม้ได้อีกมากมา แถมเพื่อนบ้านระยะใกล้เคียงยังมีมิตรไมตรีที่ดีให้กับครอบครัวเรืองเดชที่เพิ่งย้ายมาอยู่ใหม่จากกรุงเทพฯ เพราะหน้าที่การงานของน้ำตาล ตอนนี้เธอกลายเป็นซิงเกิ้ลมัมเต็มตัว

“อลิส!! อลิส!!”

“คุณแม่"เด็กหญิงหน้าตาจิ้มลิ้ม วิ่งออกมาจากห้องครัว แล้วยื่นแขนกอดขาแม่น้ำตาลแน่น

“อลิส อย่าไปกวนคุณยายสิคะ” น้ำตาลอุ้มลูกสาววัยห้าขวบขึ้นแนบอก

“อลิสช่วยคุณยายทำขนมค่ะ”เสียงเล็กใสรีบบอกแม่

“จริงเหรอคะ ไม่ใช่ไปเอาขนมของคุณยายมาเล่นนะ อลิส" น้ำตาลถามลูกสาวอีกครั้ง พร้อมส่งสายตาเค้นความจริง

"หนู....” ดวงตากลมใสหลบสายตาของแม่น้ำตาล

“อลิส ทำผิดต้องขอโทษนะคะ” คุณแม่ยังสาวจ้องดวงหน้าลูก

“อลิส...ขอ..โทษค่ะ” แขนเล็กกอดคออ้อนคุณแม่ยังสาว

“แม่ต้องทำโทษอลิสแล้ว นี่แน่ หื้มๆ หอมจังเลย” เธอหอมแก้มนุ่มนิ่มฟอดใหญ่รัวๆ จนชื่นใจ หนูน้อยอลิสหัวเราะเสียงลั่น

“คริๆๆ”

“เล่นอะไรกันแม่ลูก ยังไม่ไปทำงานอีกเหรอตาลวันนี้ทำงานวันแรก เดี๋ยวก็สายหรอก ยิ่งไม่รู้ถนนหนทางอยู่” น้าต่ายบอกน้ำตาลแล้วยิ้มให้หนูน้อยด้วยความรักและเอ็นดู

“ค่ะน้าต่าย ตาลจะรีบไป อลิส วันนี้คุณแม่สวยหรือยังคะ” น้ำตาลส่งลูกให้น้า คุณยายรีบอุ้มหลานรักไว้ทันที

“สวยค่ะ...คุณแม่สวยที่สุด...” ลูกน้อยชมเปราะ

“คุณแม่ไปทำงานก่อน แล้วจะรีบกลับ อลิสอย่าดื้อกับคุณยาย กับคุณครูนะ คะสัญญากับคุณแม่ก่อน...” น้ำตาลเกี่ยวก้อยลูก

"ค่ะ อลิสสัญญา บ๊ายบาย” จุ๊บมือเล็กส่งให้คุณแม่ น้ำตาลยิ้มกว้างกับความน่ารักของลูก เธอโบกมือให้อลิส แล้วคว้ากระเป๋าสะพายบ่าออกจากบ้านเดินไปถึงถนนใหญ่เพียงสามสิบนาทีเพื่อรอรถสองแถว ไม่นานก็ได้ขึ้น

หลังจากน้ำตาลคลอดอลิสจนร่างกายแข็งแรงดี เธอกลับเข้าไปทำงานที่โรงแรมอีกครั้งเป็นพนักงานประจำ ช่วงเวลาที่น้ำตาลทำงานที่พาราไดซ์ เธอได้พบกับลูกค้าที่มองเห็นความสามารถ เขาเสนองานให้น้ำตาล ด้วยฐานเงินเดือนที่น่าพอใจ เธอจึงตัดสินใจย้ายมาอยู่เชียงใหม่ เพราะอยากให้อลิสได้รับอากาศบริสุทธิ์อีกทั้งบ้านหลังนี้คือบ้านที่เธอทำเรื่องซื้อและผ่อนจ่ายกับธนาคารด้วยตัวเอง

"คุณ ๆถึงแล้ว” ผู้โดยสารสะกิดบอก

"อะ อ๋อ...ขอบคุณค่ะ” น้ำตาลลงจากรถสองแถวได้ก็มองหาป้ายขนาดใหญ่ รีสอร์ทธารภูผา ร่างเล็กอยู่ในชุดสูทเดินเข้าไปในรีสอร์ทด้วยแววตาของความมุ่งมั่น กับการทำงานก้าวแรกในตำแหน่งพนักงานต้อนรับที่เธอได้รับโอกาสจากลูกค้าที่เข้าพักในโรงแรมพาราไดซ์ เขาคือคุณเทวินทร์ เดชาโชติ หรือพ่อเลี้ยงปราชญ์ น้ำตาลเดินมาถึงห้องทำงานของพ่อเลี้ยง "ก๊อกๆๆ”

“เข้ามา” เสียงทุ้มหล่อ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel