บท
ตั้งค่า

7 พ่อแม่ผิดหวัง

เธอเสียใจที่ทำให้ท่านผิดหวัง แต่จะทำอย่างไรได้ในเมื่อมีสิ่งที่น่าสนใจกว่าการเรียนตั้งเยอะ

“เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นได้ยังไง ลันตา”

“คุณพ่อคะ คุณแม่คะ ขอโทษค่ะ”

“ไม่ต้องมาไหว้ เราไม่รักเรียนเลย เข้าเรียนหรือเปล่าเนี่ย”

“เข้าทุกชั่วโมง ไม่เชื่อถามแพรดูได้เลย”

“ใครแพร อ๋อคงเป็นเพื่อนที่ชวนกันเหลวไหลใช่หรือเปล่าล่ะ อยากเจอหน้าซะจริง จะเล่นงานให้หนักเลย นังเด็กคนนี้นี่”

ท่าทางฤกษ์โกรธจัด คิดว่าแพรพิไลทำให้ลูกสาวตัวเองเสียการเรียน เช่นเดียวกับลันตานั่งเงียบในใจร้อนรุ่ม อยากจะไปบอกพ่อแม่ของแพรพิไลให้รู้ถึงพฤติกรรมไม่ดีของลูกสาว ถ้าเป็นไปได้จะให้เลิกคบ

“อย่าโทษแพรเลย รายนั้นน่ะเรียนเก่งอันดับหนึ่งของห้อง เรานั่งด้วยกัน แพรพยายามช่วยลันตาทุกอย่างนะคะ”

“อ้าว ทำไมไม่บอกล่ะว่าคบเพื่อนดีขนาดนั้น แต่ว่าเราทำให้พ่อแม่ผิดหวังมากเลยนะ ถ้าหากว่าซ่อมไม่ผ่านล่ะ”

“เรียนซ้ำชั้นค่ะ”

กลายเป็นเรื่องใหญ่ขึ้นมาทันที ฤกษ์กับลัดดาเครียด ต่อว่าลันตาเป็นการใหญ่ที่ทำตัวไม่ดี ไม่สนใจเรียนเที่ยวอย่างเดียว เมื่อเจอศึกหนักอย่างนั้น ลันตาอารมณ์เสียวิ่งปึงปังเข้าไปในห้องนอน ปิดประตูขังตัวเอง ไม่ยอมพูดกับใคร แม้แต่ลัดดาพยายามที่จะเข้าไปหา แต่ก็ไร้ผล

“คุณคะ ลูกโกรธใหญ่แล้ว”

“ช่างมัน ทำตัวไม่ดีนี่นา มีหน้าที่เรียนอย่างเดียวยังเอาตัวไม่รอดเลย แล้วมันจะมีชีวิตอยู่ในสังคมได้ยังไง เลวร้ายจะตายไป”

“เราต้องค่อย ๆ พูด อย่าวู่วามนะคะ”

“ค่อยได้ไง คนมันโกรธนี่นา คุณก็รู้ว่าผมเกลียดลูกที่ไหน รักปานดวงใจ ถ้าเราไม่ทำอะไรออกมามันก็จะเคยตัว คิดว่ายังไงพ่อแม่ก็ต้องยอม”

“ฉันกลัวจังเลยว่าลูกจะเรียนไม่จบ”

“เรื่องนั้นก็แล้วแต่เวรแต่กรรมก็แล้วกัน เราก็ทำดีที่สุดได้แค่นี้แล้วล่ะ”

เวลานี้กฤกษ์และภรรยารู้แล้วว่า พ่อแม่ที่มีลูกทำตัวไม่ดีเป็นอย่างไร เจ็บปวดเสียจนแทบทนไม่ไหว อยากจะร้องไห้แต่ทำไม่ได้ เก็บเอาไว้ในอก หวานอมขมกลืน จะไล่หนีก็ทำไม่ได้เพราะเป็นลูก กลัวว่าจะประสบกับอันตราย

ในโลกปัจจุบันนี้นอกบ้านอันตรายสำหรับผู้หญิงที่สุด โดยเฉพาะเด็กอายุแค่เพียงนิดเดียว หากว่าพลาดพลั้งเป็นอะไรไป ผู้ที่เสียใจคือพ่อแม่และกลัวว่าถ้าไล่ออกไปแล้ว ลูกไปลับไม่กลับมาแล้วจะไปตามหาตัวได้จากที่ไหน

จำต้องทน อย่างไรก็เป็นลูก!

เสียงโทรศัพท์บ้านดังขึ้น ลัดดากำลังเตรียมตัวออกไปทำงาน หันไปมองครู่หนึ่งแล้วเดินไปรับด้วยสีหน้าเรียบเฉย ห่างออกไปเล็กน้อยฤกษ์ยืนนิ่ง คอยเงี่ยหูฟังว่าใครโทรมา อาจจะต้องการคุยกับเขาก็ได้

“สวัสดีค่ะ บ้านคุณฤกษ์”

“สวัสดีค่ะ หนูชื่อแพรเป็นเพื่อนกับลันตาค่ะ”

“จ้ะ หนูแพร นี่แม่ของลันตานะ”

“ค่ะ คุณแม่ขา ลันตาตื่นหรือยังคะ คาบแรกสำคัญมาก มาสายไม่ได้เลย จนป่านนี้แพรยังไม่เห็นลันตามาเลยค่ะ”

“ตายจริง นี่แม่ลืมไปเสียสนิท มัวแต่รีบ ลืมปลุกลันตา แม่จะบอกให้เค้าตื่นเดี๋ยวนี้ล่ะ เมื่อคืนคงนอนดึกเพราะเห็นไฟในห้องเปิดเอาไว้ ขอบใจมากนะลูก”

ลัดดาอยู่นิ่งไม่ได้แล้ว วิ่งขึ้นไปชั้นบนของบ้านเพื่อที่จะไปปลุกลูกสาวคนเดียวที่ยังคงนอนหลับอุตุ ไม่ใส่ใจที่จะตื่นไปโรงเรียน ฤกษ์ส่ายหน้าไปมา ระอาต่อความประพฤติของลูกสาว รู้ว่าไม่ดีขึ้นเลย แต่ก็โล่งใจตรงที่ซ่อมผ่านทุกวิชา

“มันจะไหวไหมเนี่ย แค่ตื่นไปเรียนหนังสือยังทำไม่ได้ เบื่อจริง ๆ เด็กที่ไม่รู้หน้าที่เนี่ย ถ้าไม่มีหนูแพรก็คงแย่ ว่าไงคุณ ตื่นหรือยัง”

“ตื่นแล้วค่ะ ให้คนใช้คอยดูแล”

“ชื่นใจแทนพ่อแม่ของหนูแพร มีลูกดี ว่าง ๆ ให้ลันตาชวนมาที่บ้านบ้างจะได้เห็นหน้าเห็นตากันสียที”

“ค่ะ ฉันก็คิดอย่างนั้นเหมือนกัน”

ทั้งสองยังคงสนทนาเกี่ยวกับความน่ารักของแพรพิไล อยากมีลูกดี ๆ อย่างนี้ แต่ความเป็นจริงไม่เป็นเช่นนั้น ในเมื่อลันตาคือเลือดเนื้อเชื้อไขของตัวเองที่จะต้องดูแล แม้ว่าทำตัวเลวร้ายแค่ไหนก็ต้องทนรับสภาพนั้น

ตราบใดที่ยังมีลมหายใจ คงไม่ปล่อยให้ลันตาประพฤติตนเหลวไหล พยายามประคองเอาไว้ให้ดีที่สุด แม้ว่าจะเหน็ดเหนื่อยอย่างไรก็ตาม

เสียงลูกบาสเก็ตบอลกระทบพื้นเป็นจังหวะการเลี้ยงลูกของนักกีฬา สลับกับวิ่งไปมา เสียงกรี๊ดจากเด็กสาว ๆ ดังขึ้นเมื่อภูริชชู้ตลูกไปที่แป้นแล้วร่วงลูกตะกร้า แม่นยำราวกับจับวาง ลันตาเดินเคียงข้างแพรพิไล ชะงักเท้าทันที หันไปมองตามเสียง ยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์เมื่อเห็นหนุ่มในดวงใจยังคงสนุกอยู่กับเกมกีฬา

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel