บทย่อ

ลันตาหญิงสาวผู้พร้อมทุกอย่าง แต่เธอขาดซึ่งความพอดี สิ่งที่เร้าภายนอกสอนให้เธอกร้านโลก สอนให้เธอกลายเป็นคนหลงตัวเองอย่างร้ายกาจและสุดท้ายเธอขาดซึ่งความรับผิดชอบต่อความเป็นคนของตัวเอง นวนิยายโรมานซ์- ดรามาเข้มข้นนำเสนอเรื่องราวการดำเนินชีวิตของหญิงสาวผู้หนึ่งในสังคมปัจจุบัน เธอกำลังถูกความทะเยอทะยานย้อนมาเล่นงานตัวเองด้วยเหตุผลของกาลเวลา อีกหนึ่งผลงานของ ฟ้าใส ไอรดา ที่บรรจงเรียงร้อยความเข้มข้นผ่านตัวอักษรส่งมอบความสุข ลันตาจึงเป็นอุทาหรณ์สอนใจแก่ผู้ที่กำลังหลงระเริงอยู่กับภาพมายา ความสนุกสนานของผู้ที่ถลำลึกลงไปในกามตัณหาและไม่รู้จักพอ สุดท้ายของจุดจบที่ไม่เหลืออะไรเลย นอกจากความทุกข์กลางใจที่จะต้องหาทางดับให้ได้ ขอขอบคุณทุกท่านที่ติดตามผลงานของ ฟ้าใส ไอรดา มาด้วยดี ด้วยความปรารถนาดี ฟ้าใส ไอรดา

นิยายปัจจุบันโรงแรม/มหาลัยนักศึกษาฟินๆ

1 ลันตา ผู้ไม่แคร์ใด ๆ

ร่างบางในชุดนักเรียนมัธยมต้นวิ่งลงมาจากบันไดเวียน ด้านข้างต่ำลงมาจากราวจับเป็นเหล็กดัดลายเครือเถาใบไม้สีเขียวสลับทอง ปลายเท้าเรียวยังคงก้าวเร็ว ๆ เข้ามาในห้องรับประทานอาหารซึ่งอยู่ด้านในสุดของบ้าน ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์หรูหรา แต่ละชิ้นบิวท์เข้าชุดกันได้อย่างลงตัว ทันทีที่เปิดประตูเข้าไป กลิ่นหอมจากอาหารโชยคลุ้ง เด็กหญิงใบหน้าสวยทำปากขยับไปมาแล้วส่งยิ้มให้กับหญิงชายวัย 30 กลาง ๆ ที่กำลังสนทนาด้วยท่าทางสดชื่น

“สวัสดีค่ะ คุณพ่อ คุณแม่”

“สวัสดีจ้ะสาวน้อยลันตา ขอให้มีความสุขกับโรงเรียนใหม่ที่มีชื่อเสียงของกรุงเทพฯ”

“แม่ดีใจนะลันตา ลูกสอบเข้าเรียนที่นี่ได้ ไม่เสียแรงที่อุตส่าห์เรียนกวดวิชาตั้งหลายเดือน เสียเงินไม่เท่าไหร่ ถ้าไม่ได้เราจะเสียความรู้สึกมาก”

ฤกษ์กับลัดดาต่างมีความสุขที่ได้เห็นลันตาบุตรสาวคนเดียวแต่งชุดนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ซึ่งเป็นการเข้าเรียนด้วยการสอบได้ด้วยตัวเอง ไม่ต้องพึ่งอำนาจเงินของพ่อแม่ที่เป็นถึงเจ้าของบริษัทสินค้าส่งออก

“เรื่องแค่นี้จิ๊บ จิ๊บค่ะ ลันตาซะอย่าง ไม่กลัวอยู่แล้ว ถ้าตั้งใจจะทำอะไรต้องสำเร็จ”

“แม่รู้จ้ะ ว่าลูกเป็นคนมีความมั่นใจในตัวเองสูง แต่อย่าแข็งกระด้าง อย่าก้าวร้าว เดี๋ยวจะอยู่ในสังคมไม่ได้”

“ลันตาไม่แคร์ ในเมื่อมีทุกอย่างแล้วนี่คะ”

“พอ ๆ เถอะลูก พ่อว่าทานข้าวเสียก่อน เดี๋ยวจะไปโรงเรียนสาย ให้จำนงขับรถไปส่งนะ”

“ไม่ค่ะ ลันตาโตแล้วไปเองได้”

สิ้นเสียงเข้ม ๆ จากลูกสาวแสนสวย ฤกษ์กับลัดดาหันมามองหน้ากันเป็นเชิงปรึกษาแล้วสบตากับลันตาเห็นถึงความเด็ดเดี่ยวในดวงตากลมโตคู่นั้น รู้แล้วว่าลูกเริ่มที่จะไม่อยู่ในการปกครอง คงต้องค่อย ๆ ตะล่อมให้อยู่ในกรอบ

“ลันตา ฟังพ่อนะ ไปเรียนวันแรก เรายังไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไร ให้จำนงไปส่งก่อน เดี๋ยวไปสายโดนทำโทษนะ”

“ลองดูสิคะ ถ้าอาจารย์คนไหนทำอย่างนั้นล่ะก็จะร้องเรียนในระดับสูงให้รู้เรื่อง”

“เฮ้อ เรานี่นับวันมีความมั่นใจในตัวเองสูงเกินไปแล้วนะลูก ลดเพดานให้ต่ำลงมาหน่อยเถอะ สูงไปเดี๋ยวตกลงมาเจ็บมากนะ”

“คุณพ่อกับคุณแม่รู้เอาไว้ด้วยเถอะว่าคนอย่างลันตาไม่มีวันเจ็บ”

ไม่ว่าจะบอกหรือสอนอะไร ลันตาเถียงคอเป็นเอ็น สิ่งเดียวที่ช่วยให้สงบปากสงบคำลงได้นั่นก็คือให้รับประทานอาหารเช้าซึ่งเป็นเบรคฟัสต์เหมือนในโรงแรมชั้นนำ มีหลายอย่างให้เลือก ลันตาตักอาหารรับประทานด้วยใบหน้าบึ้งตึงเพราะกรุ่นในอารมณ์ที่ผู้ให้กำเนิดเตือนเรื่องมีความมั่นใจในตัวเองสูงเกินไป

แต่คนอย่างเธอไม่เคยแคร์ใครแม้แต่สังคม อยากทำอะไรก็ได้ตามใจต้องการ ใคร ๆ ต่างพากันพูดว่าเป็นคนแรง ซึ่งเธอก็ยอมรับว่าจริง

ทันทีที่รถราคาเกือบสิบล้านแล่นเข้ามาจอดใกล้ ๆ กับประตูทางเข้าโรงเรียน เรียกร้องความสนใจจากอาจารย์ ผู้ปกครองที่มาส่งลูกหลานและนักเรียนตั้งแต่รุ่นเดียวกันยันรุ่นพี่ รู้ว่าผู้ที่ได้ครอบครองรถคันนี้จะต้องเป็นมหาเศรษฐี

ลันตาเปิดประตูลงมาซึ่งกลายเป็นจุดเด่นยิ่งกว่ารถเสียอีกเพราะหน้าตาสวยมาก ผิวขาวอมชมพู ดวงตากลมวาวทอประกายวาววับ รุ่นพี่ผู้ชายเห็นพากันคิดในใจว่าจะต้องหาทางจีบให้ได้ ต่างจากเด็กสาวบางคนที่มองด้วยความหมั่นไส้

ลันตาสวยและรวย ต่อจากนี้ไปคงจะเป็นดาวของโรงเรียน อาจารย์ที่ยืนอยู่หน้าประตูส่งยิ้มให้และรับไหว้เมื่อลันตาเดินเข้ามาหยุดยืนพร้อมกับทำความเคารพ

“สวัสดีค่ะลูก เรียนอยู่ชั้นไหนคะ”

“ม.1/4 ค่ะ”

“ตั้งใจเรียนนะ หนูจะเป็นเด็กที่สมบูรณ์แบบที่สุด”

“ค่ะ อาจารย์”

ไม่ใช่เรื่องแปลกที่คนสวย บุคลิกดี ฐานะร่ำรวยย่อมเป็นที่สนใจแก่ทุกคน เช่นเดียวกับลันตาเมื่อรู้ว่าอาจารย์เอ็นดู เริ่มผยองในตัวเอง ปรายตาคมวาวมองไปรอบ ๆ ตัวเห็นเด็กนักเรียนหญิงรุ่นเล็กรุ่นใหญ่ต่างแสดงอาการริษยาอย่างเห็นได้ชัด เธอไหวไหล่เบะปากเหยียด ๆ แสดงให้รู้ว่าไม่แคร์แต่อย่างใด

เดินเชิด ๆ เข้าโรงเรียนอย่างรวดเร็ว เท่ากับว่าสร้างศัตรูขึ้นมาด้วยความตั้งใจ ธยานีรุ่นพี่ ม.6 หน้าร้อนชาวาบ อารมณ์ปรี๊ดขึ้นมาทันที

“นี่เธอเห็นมั้ย นังเด็ก ม.1 คนเมื่อครู่มันปรายตามองเราอย่างเหยียด ๆ เดี๋ยวเถอะ รู้จักนังนีน้อยไปแล้ว”

“ช่าย นี เราเห็นเต็มตาเลย มันคงคิดว่าตัวเองสวย รวย ก็เลยทำตัวเชิด ๆ เริด ๆ โดนฝ่ามือเธอไปซักฉาดสองฉาดคงหายซ่า”