5 ผลการเรียนร่วงรูด
“อุ๊ย เกลียดจริง แม่คนดี แม่พระสุดแสนประเสริฐ”
“น้อย ๆ หน่อยนภัสสร เธอนี่ก็กัดจิกได้อีกนะ ไปนั่งได้แล้ว อ้อ งานล่ะ เสร็จหรือยัง”
“ส่งแล้วค่ะ อาจารย์ขา สำหรับนภัสสรการเรียนไม่มีปัญหา ส่งงานทุกชิ้น ในเมื่อเรามาเรียนก็ต้องกอบโกยเอาความรู้ให้มาก ๆ”
เด็กหญิงหน้าเข้มประจบเอาใจอาจารย์ด้วยเสียงที่หวานฉ่ำแล้วเดินเร็ว ๆ ไปที่โต๊ะลันตาตบมือลงไปจนเกิดเสียงดัง ลันตาสะดุ้ง มองด้วยความไม่พอใจ ลุกขึ้นยืนกัดฟันกรอด อาจารย์เห็นดังนั้นตวาดเสียงเขียว
“ลันตา! มานี่”
“อาจารย์ไม่เห็นเหรอว่ายัยนี่หาเรื่องก่อน”
“ไม่ต้องยุ่งกับเค้า ครูบอกให้ออกมาแล้วอธิบายด้วยว่า ทำอย่างนี้ทำไม ในเมื่อเธอเองก็ได้ชื่อว่าเป็นคนสมองดีคนหนึ่ง”
“มีอะไรคะ แพรเธอฟ้องจารย์เหรอ”
“เปล่านะ ไม่มีอะไรหรอก เธอคุยกับอาจารย์เอาเองก็แล้วกัน”
เห็นสายตาลันตาแล้วรู้ว่าน่ากลัวมาก ไม่มีความเป็นมิตรเลย ทั้งที่เธอก็เป็นผู้หวังดี ไม่เคยคิดร้าย ทำไมถึงเป็นอย่างนี้ไปได้ เลี่ยงออกมาเป็นดีที่สุด ให้คุยกับอาจารย์ประจำวิชาให้รู้เรื่องซึ่งก็ได้ยินเสียงอาจารย์ดังกว่าเดิม ทุกคนในห้องพากันมองแล้วยิ้มหยัน
“บอกมาซิว่าเธอลอกงานของแพรพิไลใช่ไหมแล้วทำหนังสือเขาสกปรก”
“แพรฟ้องจารย์หรือคะ”
“แพรไม่ได้ฟ้องหรอกย่ะ คนจิตใจดีอย่างนั้นปกป้องเธออย่างเดียว แต่ฉันทนไม่ไหวต่อสิ่งที่เธอทำก็เลยบอกอาจารย์”
“นภัสสร เธอจะจองล้างจองผลาญฉันไปถึงไหน พูดอย่างนี้ตัวต่อตัวไหมล่ะ”
“หยุด ๆ นี่ต่อหน้าต่อตาฉันนะ ยังกล้า ลันตาเห็นทีว่าจะต้องลงโทษเสียแล้ว เกลียดนักกฎกระทรวงห้ามตีเด็ก เอาอย่างนี้เธอคัดงานวันนี้ทั้งหมดให้ครบสิบครั้ง ส่งภายในพรุ่งนี้เช้า”
เสียงเฮด้วยความดีใจจากเพื่อนนักเรียนดังขึ้น เท่ากับว่าเกลียดลันตาสุดขีด นอกจากผู้ชายบางคนเท่านั้น ที่มีความหวังจะจีบไม่กล้าซ้ำเติม ได้แต่มองด้วยความเห็นใจ ต่างจากลันตาที่ขบกรามแน่น เมื่อรู้ว่านักเรียนเกือบทั้งห้องไม่ชอบเธอ
ดีใจที่ถูกลงโทษ หมายหัวเอาไว้เพื่อหาทางเล่นงาน โดยเฉพาะนภัสสรจะต้องโดนเป็นคนแรก รอให้มีโอกาสเหมาะ ๆ เสียก่อนเธอจะไม่รั้งรออีกต่อไป
“แพรจ๋า รู้ไหมว่าแม่เราก็ซื้อโทรศัพท์รุ่นนี้ให้ด้วย ในฐานะที่เรียนเก่ง ได้คะแนนทะลุเป้าหมายที่วางเอาไว้”
หลังจากผลการเรียนเทอมแรกออกมา นภัสสรยิ้มร่าพร้อมกับโชว์โทรศัพท์รุ่นเดียวกับลันตาให้ดู ขณะที่ลันตากำลังหงุดหงิดที่เห็นผลการเรียนของตัวเอง ไม่ตกแค่วิชาเดียว กลัวว่าถ้าพ่อแม่เห็นผลการเรียนแล้วคงตกใจ
ทั้งที่เธอเป็นเรียนดีมาตั้งแต่ต้น พอขึ้นชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 เท่านั้นกลับตกกราวรูด ไม่รู้ว่าจะหาเหตุผลอะไรไปแก้ตัว ครั้นเห็นนภัสสรเอาผลการเรียนมาอวดอย่างนี้ เจ็บจี๊ดกลางใจทันที จ้องหน้า ตาวาวโรจน์
“ดีใจด้วยนะที่เธอเรียนอยู่ในระดับติดท็อปเทนของห้อง”
“แต่ก็สู้เธอไม่ได้ นัมเบอร์วันเชียวล่ะ เจ๋งสุด ๆ”
“เราก็ไม่ได้คาดหวังว่าจะได้อันดับหนึ่งหรอกนะ แค่เพียงทำให้เต็มที่เท่านั้น”
“แล้วเธอล่ะยะ ลันตา ได้อันดับที่ท่าไหร่ อุ๊ย ไม่ใช่สิ น่าจะถามว่าตกกี่วิชา บอกพ่อแม่หรือยัง หรือว่าไม่กล้า กลัวท่านช็อก”
“หยุดนะ ฉันเกลียดมากพวกที่ชอบเหยียบซ้ำคนอื่นน่ะ ในเมื่อตัวเองเรียนดีก็อย่ามาว่าเค้า ฉันจะตกกี่วิชาไม่ได้หนักหัวเธอนี่”
เริ่มแรงขึ้นทุกที ไม่ยอมลดราวาศอกด้วยซ้ำ แพรพิไลใจเสีย ไม่รู้ว่าจะห้ามอย่างไรเพราะเพื่อนทั้งสองมักจะหาเรื่องแขวะกันตลอด หลายครั้งที่ลงมือลงไม้ แต่ก็ไม่ถึงขั้นเลือดตกยางออก ทางที่ดีก็คือพยายามให้ปรองดองเข้าไว้
รู้ว่ายากต่างแรงด้วยกันทั้งคู่ เห็นจ้องตาวาวราวกับจะขย้ำเข้าใส่เสียเดี๋ยวนั้น มองหน้าเพื่อนร่วมห้องให้เข้ามาช่วย แต่ไม่เห็นใคร
“พอเถอะจ้ะ อายคนเดี๋ยวเอาไปพูด พวกเธอจะเสียนะ”
“ไม่เห็นจะกลัวเลย ไม่ได้ตีกันบนหัวมันนี่หว่า”
“ลันตา พูดเพราะ ๆ สิจ๊ะ เราเป็นผู้หญิงนะ”
“แพรจะบอกอะไรให้นะ เรามีแม่คอยสั่งสอนอยู่แล้ว เธอไม่ต้องพูดแบบนี้ให้เราได้ยินอีก ไม่อย่างนั้นความเป็นเพื่อนของเราจบ”
ขู่ว่าจะไม่คบด้วยเสียงกร้าวจัดแล้วหมุนร่างเดินเชิด ๆ จากไป แพรพิไลอึ้งไปชั่วขณะ คิดไม่ถึงว่าเพื่อนจะร้ายกาจได้ถึงเพียงนี้ ลอบผ่อนลมหายใจออกมา บอกตัวเองว่าอย่าโกรธ ไม่เช่นนั้นจะร้อนเป็นไฟ หาความสุขไม่ได้
มือนุ่มนิ่มบีบลงบนไหล่ เสียงหวาน ๆ จากนภัสสรดังขึ้นเป็นเชิงปลอบใจเพราะเข้าใจว่าเครียดต่อคำพูดของลันตา
