3 ชายในดวงใจ
“พี่ ภูริช ไม่มีอะไรค่า”
นภัสสรตาไวอ่านชื่อที่ปักอยู่บนหน้าอกภูริชทันที ส่งสายตาหวานฉ่ำไปให้ เด็กหนุ่มเริ่มหายใจไม่ทั่วท้อง รู้ว่าเด็กรุ่นน้องคนนี้พยายามที่จะสานความสัมพันธ์ แต่เขารู้ตัวดีว่าไม่อาจกล้าที่จะทำอย่างนั้นได้
ไม่ต่างจากลันตา จ้องภูริชตาไม่กะพริบ รู้ว่านี่คือชายในดวงใจ ส่งยิ้มให้ ถลันเข้าหา แหงนหน้าทำปากยื่นแบบยั่ว ๆ
“ขอบคุณมากนะคะพี่ภูริชที่เข้ามาห้ามทัพ”
“เราเรียนห้องเดียวกัน อย่าทะเลาะกันเลยนะ เสียชื่อสถาบันหมด”
“ลันตาถูกกลั่นแกล้งก่อนนี่คะ”
สาวน้อยน้ำตาคลอ เรียกร้องความสนใจ พยายามที่จะให้ปลายก้อยสัมผัสกับนิ้วเขา ทำเหมือนว่าไม่ได้ตั้งใจ ขยับร่างเข้าหา แพรพิไลจับสังเกตอากัปกิริยาของเพื่อนใหม่ รู้แล้วว่าไม่ธรรมดา แต่เธอจะดึงให้กลับมาเป็นเด็กสาวที่น่ารักให้ได้
“ลันตา กลับมานั่งเถอะจ้ะ ขอบคุณมากนะคะพี่ภูริช คงไม่มีอะไรแล้วค่ะ”
“น้องแพรพิไลหรือ ดูแลลันตาด้วยนะ”
“ค่ะพี่ ลันตาทานข้าวเช้าหรือยัง หิวไหม เรามีแซนด์วิชหมูหยองกับนมสดนะ”
“ทานแล้วล่ะ คุณแม่จัดให้แต่เช้าแล้วให้คนขับรถมาส่งที่โรงเรียน”
แม้ว่าแพรพิไลดีกับตัวเองขนาดนี้ ไม่วายที่จะพูดจาข่มทับ เพื่อให้รู้ว่าเหนือกว่า แทนที่แพรพิไลจะโกรธกลับยิ้มหวาน นภัสสรเสียอีกเดือดพล่าน พูดเสียงดังให้เพื่อน ๆ ได้ยินไปทั้งห้อง
“แพร ไม่รู้เลยเหรอว่ายัยนี่อวดร่ำอวดรวยแล้วข่มเธอ ยังจะดีกับมันอีก”
“พอเถอะจ้ะนภัสสร เราเพื่อนกัน ลันตาไม่ใช่คนอย่างนั้นหรอก ทุกคนในห้องดีหมด”
“โอ๊ย! แม่คนจิตใจงาม ระวังเถอะ สักวันมันจะแว้งกัด ทำให้เธอเจ็บ แต่สำหรับฉันถ้าหือล่ะก็โดนเหยียบจมธรณีแน่”
นภัสสรใส่ไม่ยั้ง หาได้มีความกลัวเกรงแต่อย่างใด ลันตาอ้าปากค้างด้วยความโกรธเพราะเถียงไม่ทัน ทันทีที่ตั้งสติได้ ทำท่าจะพุ่งเข้าหา แต่สาวน้อยจอมแสบกับเพื่อนร่วมแก๊งพากันเผ่นพรวดออกไปจากห้องเพราะได้เวลาเข้าแถวเตรียมตัวเคารพธงชาติพอดี
“เห็นไหม มันด่าเรา คงญาติดีไม่ได้แล้วล่ะ”
“ไม่เอาน่าเพื่อนกัน”
“แต่มันไม่เป็นเพื่อนกับเราหรอกนะแพร หาเรื่องจิกกัดตลอดเวลา พี่ภูริชได้ยินใช่ไหมคะว่ายัยผีนั่นมันว่าลันตาเป็นคนไม่ดี”
“เราอย่าเก็บมาใส่ใจ ใครคิดไม่ดี ทำชั่วก็ย่อมได้รับผลกรรมตอบสนองเองนั่นแหละ เชื่อพี่เถอะ”
เด็กหนุ่มไม่คล้อยตามคำชักจูงของลันตาให้เกลียดชังนภัสสร กลับเอาคติธรรมเข้ามาสอนให้ได้คิด แต่ลันตาหาได้สนใจแต่อย่างใด สะบัดหน้าพรืด คิ้วเรียวเข้มขมวดเข้าหากันทันที แพรพิไลจับข้อมือเรียวเล็กเอาไว้แน่น ยิ้มให้ด้วยความจริงใจ
“ไปเข้าแถวดีกว่านะ”
“ไม่ เดี๋ยวก็ไปเขม่นกับนังผีนรกนภัสสรอีก”
“เราอยู่ในโรงเรียนจะต้องทำตามกฎระเบียบนะจะได้ไม่มีปัญหา”
“สำหรับเรา กฎมีไว้แหก”
“อ้าว น้องลันตา ทำไมพูดอย่างนั้นล่ะครับ”
ภูริชอุทานอย่างตกใจที่ได้ยินลันตาโพล่งออกมาอย่างนั้น เริ่มไม่ชอบใจต่อนิสัยแย่ ๆ พยายามหาเรื่องเดือดร้อนเข้าหาตัว ต่างจากแพรพิไลเป็นเด็กมีเหตุผล เรียบร้อยน่ารัก แม้ว่าสวยน้อยกว่าลันตาแถมผิวยังคล้ำ
แต่จิตใจสะอาดบริสุทธิ์และงดงาม
โทรศัพท์รุ่นใหม่ล่าสุด ราคาแพงนำมาวางบนโต๊ะเขียนหนังสือ นิ้วเรียวขาวจับพลิกไปมาแล้วยื่นให้แพรพิไลที่ยังคงก้มหน้าก้มตาทำงานที่อาจารย์มอบหมายให้เสร็จทันก่อนหมดชั่วโมงเรียน แพรพิไลมองแล้วยิ้มตามสไตล์คนใจดีไม่คิดอะไรมาก
“มีอะไรหรือจ๊ะลันตา”
“รุ่นใหม่ มีลูกเล่นเยอะมาก แม่เพิ่งซื้อให้เมื่อวานนี้เอง เธอเปิดดูสิเราไม่หวงหรอก”
“ขอบใจนะ เอาไว้ก่อนเถอะ เราขอทำงานให้เสร็จก่อนหมดชั่วโมง ส่งไม่ทันอาจารย์ไม่รับตรวจให้นะ เราจะไม่ได้คะแนนเก็บ ลันตารีบทำเลย”
“ไม่ล่ะ เราเบื่อ จารย์สอนไม่รู้เรื่อง เอาเป็นว่าแพรทำเสร็จแล้วให้เราลอกดีกว่า”
“ลันตาต้องหัดทำเองบ้างนะ เวลาสอบจะได้รู้เรื่อง เดี๋ยวตกหรอก”
แพรพิไลพยายามเตือนด้วยความเป็นห่วง ตั้งแต่คบหาเป็นเพื่อนกันมา รู้เลยว่าลันตาไม่เคยสนใจการเรียน นั่งหลับบ้าง แอบอ่านหนังสือการ์ตูนหรือไม่ก็เล่นโทรศัพท์มือถือที่มีแอปปิเคชั่นตื่นตาตื่นใจ เน้นเฉพาะทักทายกับเพศตรงข้าม จากพูดคุยธรรมดากลายเป็นจีบแล้วนัดเจอกันข้างนอกในช่วงวันหยุด แพรพิไลเคยเตือนหลายครั้งแต่ลันตาไม่ฟัง บอกแต่เพียงว่าดูแลตัวเองได้
