18 ลันตาคบกับใครก็ได้คนนั้น
“ไม่มีแรงไปทำงานหรอกนะ ในเมื่อลูกหายไปทั้งคืนอย่างนี้”
“อะไรอีกล่ะ ในเมื่อลันตากลับมาแล้ว หรือว่าจะให้หายไปตลอดเลยล่ะ”
“ปีกกล้าขาแข็งขนาดนั้นเลยหรือ คิดว่าไปรอดหรือไง อยากรู้นักถ้าไม่มีพ่อแม่คอยดูแล เราจะรอดไหม ใช้เงินเก่งขนาดนี้ เพื่อนที่บอกว่ารักนักรักหนา เวลาเราไปขออยู่ด้วยจะให้อยู่เกินสามวันไหม”
ใส่ไม่ยั้งเหมือนกัน เมื่อลูกยั่วโมโหทั้งที่ทำความผิด แต่ไม่สำนึก กลับเถียงฉอด ๆ เจ็บปวดสุดจะทนไหว ระเบิดอารมณ์ออกมาบ้าง ลันตามองเหมือนไม่ชอบใจ สะบัดหน้าพรืด ลัดดาผ่อนลมหายใจออกมา
มองสำรวจตั้งแต่เส้นผมจรดปลายเท้ารู้ว่าโทรมมาก แทบไม่มีสง่าราศี อยากรู้เหลือเกินว่าเมื่อคืนไปทำอะไร ที่ไหน กับใคร แต่ไม่กล้าคิดไปในทางที่เสื่อมเสีย
“บอกแม่มาซิว่าทำไมไม่ไปโรงเรียน”
“ตื่นสาย ไปไม่ทัน”
“ไปนอนกับใคร”
“ไม่รู้จะอยากรู้ทำไม รู้แต่ว่าอยู่ที่ปลอดภัยก็แล้วกันน่า”
“ไม่ได้นอนกับหนูแพรใช่ไหม โธ่ลูก บ้านเราหลังใหญ่ หรูหรามีทุกสิ่งทุกอย่างที่ต้องการ ทำไมถึงไม่อยากอยู่บ้าน อยากให้พ่อกับแม่ตายเร็วใช่ไหม”
พยายามคร่ำครวญเพื่อให้ลูกเห็นใจ เข้าไปทำท่าจับมือ แต่ลันตาถอยออกห่าง มองด้วยสายตากร้าว ลัดดาเจ็บช้ำไปทั้งอก คิดไม่ถึงว่าลูกสาวจะร้ายกาจถึงเพียงนี้ เช็ดน้ำตาป้อย ๆ เมื่อไม่รู้ว่าทำอะไรไม่ได้ นั่งร้องไห้อยู่กับพื้น
ลันตาปรายตามองแล้ววิ่งขึ้นบันไดชั้นบน กระชากประตูเปิดออกแล้วปิดงับเสียงดังสนั่น สาวใช้ได้แต่มองลัดดาด้วยความเห็นใจ ไม่กล้าเข้ามาปลอบ ได้แต่นึกชังน้ำหน้าลันตาเด็กสาวผู้ไม่รู้จักบาปต่อการทำร้ายผู้ให้กำเนิด
“พี่นทีอยู่ที่ไหน”
“กำลังไปฝึกงาน ลันตาถึงบ้านแล้วใช่ไหม”
“ใช่ ถึงแล้ว พี่เข้าร้านกี่โมง”
“ก็สามทุ่ม มีอะไรหรือจ๊ะ อย่าบอกนะว่าจะไปหาน่ะ”
“ใช่ ขอนอนพักก่อน เย็น ๆ จะไปรอพี่ที่หน้าบริษัท เราไปร้านด้วยกัน โชคดีพรุ่งนี้มีกีฬาสีไม่เข้าโรงเรียนก็ได้”
ลันตากลายเป็นคนชอบเที่ยวมากกว่าเรียน กิจกรรมต่าง ๆ ไม่เคยสนใจ ไปโรงเรียนแค่ให้คนทั่วไปรู้ว่ายังไม่ถูกไล่ออก อาศัยเงินหว่านให้เพื่อนช่วยทำการบ้าน ทำรายงานและช่วยติวข้อสอบ ได้บ้าง ไม่ได้บ้าง แต่ก็พอกล้อมแกล้มผ่านไปได้
ลันตาหลับไปสักพัก ตื่นขึ้นมา มองนาฬิกาเห็นว่าได้เวลาพักเที่ยง นักเรียนรับประทานอาหารกลางวัน โทรหาแพรพิไลทันที
“แพร แพร ทานข้าวหรือยัง”
“กำลังจะไปซื้อ วันนี้ไม่มาเรียนใช่ไหม”
“ใช่ พรุ่งนี้ก็ไม่ไป เราจะเฝ้าพี่นที”
“เธอไปนอนกับเขาน่ะสิ”
“แน่นอน ผู้ชายแบบนี้หาไม่ได้ง่าย ๆ นะ เขาดีกับเรามาก เอาใจทุกอย่าง ไม่แปลกที่เราจะตอบแทนเขาด้วยเรื่องนั้น”
ลันตาเล่าให้แพรพิไลฟังอย่างไม่กระดากปาก เห็นว่าสิ่งที่ตัวเองกำลังกระทำอยู่นี้เป็นเรื่องปกติ คบกับผู้ชายคนไหนก็ได้เสียกับคนนั้นและเล่าให้แพรพิไลรับรู้ทุกครั้ง ไม่สนใจต่อคำเตือนของเพื่อนให้รู้จักรักตัวเอง อย่าทำในสิ่งที่เสี่ยง
แพรพิไลกลัวเพื่อนท้องก่อนเรียนจบหรือไม่ก็เป็นโรคร้าย มีวัยรุ่นหลายคนกระทำตัวเช่นลันตา สุดท้ายจบไม่สวย กลายเป็นว่าทำลายอนาคตตัวเอง
“ลันตา คบเป็นแฟนเฉย ๆ ไม่ได้หรือไง”
“สมัยนี้เขาไม่คิดอย่างนั้นแล้ว ถ้ามัวแต่รักนวลสงวนตัว เขาก็ไปมีคนใหม่ที่ให้ในเรื่องนั้น เราต้องมัดใจเขาเอาไว้ด้วยวิธีนี้แหละ”
“ในเมื่อคบกับเราแค่เพียงเรื่องอย่างว่า อย่าคบเลยนะลันตา เราเองก็มีดี สวย รวย ชาติตระกูลก็ดี เธอเหนือกว่าคนอื่นมาก”
“เอาอีกแล้วแม่แก่ เบื่อจริง ชอบสั่งสอนอยู่เรื่อยเลย เราบอกให้รู้นะว่าเบื่อมากกับความคิดเชย ๆ ของเธอ สงสัยชาตินี้ขึ้นคานซะม้าง เพื่อนฉัน”
ลันตาเสียงขุ่นไม่พอใจที่แพรพิไลเตือนด้วยความหวังดี แต่ลันตาไม่ชอบ ต่อว่าให้เสียใจ ถนัดที่สุดต่อการใช้ถ้อยคำทำร้ายน้ำใจคนอื่นให้เจ็บ แต่แพรพิไลไม่ถือสา เพราะรู้นิสัยลันตาเป็นอย่างดีว่ารั้น ไม่แคร์สังคม
ขอให้ได้ทำตามที่ตัวเองชอบใจเป็นพอ แม้แต่ผู้ชายที่มีแฟนอยู่แล้วยังกล้าที่จะแย่งมาครอบครอง ใช้เล่ห์มารยาทุกอย่าง เมื่อสมใจแล้วทิ้ง เคยถูกผู้หญิงดักทำร้ายมาแล้ว แต่ลันตาสู้ไม่ถอย อาศัยเครื่องทุ่นแรง กระทั่งผู้ที่คิดร้ายกระเจิดกระเจิง
“เงียบไปเลย กลัวไหมคำว่าขึ้นคานน่ะ”
“ไม่กลัวหรอก หากว่ามีแฟนแต่ว่าไม่ดี อยู่กันไม่ยืด อย่ามีดีกว่า”
“ความคิดไม่เหมือนเรา มีจนกว่าจะพอใจ หากว่านับผู้ชายที่เราได้เป็นเส้นขีดบนหน้าผาก ป่านนี้คงไม่มีที่ว่างแล้วล่ะ ช่างมัน อย่าได้แคร์ เกิดมาเพื่อมีความสุขก็พอ เธอกินข้าวเถอะ แค่รายงานผลว่าพี่นทีเรียบร้อยเราแล้ว หุ หุ”
