บท
ตั้งค่า

19 หัวอกพ่อแม่

ลันตาปิดปากหัวเราะอย่างมีความสุขแล้วตวัดผ้าห่มเหวี่ยงลงไปกองที่พื้น วิ่งซอยเท้าเร็ว ๆ ลงมาข้างล่าง หาอาหารรับประทาน ลัดดามองด้วยสายตาเอ็นดู แม้ว่าลูกทำตัวไม่ดีอย่างไร แต่ความรักหาได้ลดน้อยลงไปไม่ เธอโทรศัพท์รายงานสามีเป็นระยะ

“ลันตา วันนี้มีไส้กรอกชีสจากเยอรมันเชียวนะ เอาไหม”

“ก็ดี ขอไข่ดาวด้วย อย่าสุกนะ”

“ซุปข้าวโพดก็น่าสนใจเหมือนกันนะ ยี่ห้อใหม่เพื่อนแนะนำว่าอร่อยมาก ชอบไหมล่ะ แม่จะอุ่นให้ องุ่นดำไร้เมล็ดจากมวกเหล็กหวานมาก”

“พอแล้วคุณแม่ จะขุนให้เป็นหมูหรือไง แค่นี้ก็อ้วนเสียจนก้นเบ้อเร่อแล้ว”

“ลันตา เย็นนี้จะออกไปไหนอีกไหม”

ลัดดาถามเสียงแผ่ว ไม่มีความมั่นใจในตัวเองเอาเสียเลย กลัวคำตอบที่ได้รับจะทำให้ปวดใจ ซึ่งก็เห็นลูกสาววางช้อนลงกับขอบจาน ยกแก้วน้ำส้มคั้นขึ้นดื่ม ได้แต่ภาวนา อย่าให้ลูกไปไหน อยากเห็นอยู่บ้านและหยิบหนังสือเรียนขึ้นมาอ่าน

ถ้าลูกทำเช่นนั้นได้ ไม่ว่าต้องการอะไรก็จะถวายให้ทันที

“ว่าไงลันตาออกไปไหนไหม”

“ยังไม่รู้เลย บางทีอาจจะนอนยาว ๆ ก็ได้”

“ดีแล้วล่ะ พักซะบ้าง เที่ยวเยอะแล้ว อย่าลืมอ่านหนังสือ ติดตามการบ้านจากเพื่อนด้วยล่ะ ยังไงก็ให้เรียนจบ ม.6 จากนั้นจะเรียนต่อหรือทำอะไรก็ตามใจ”

“รู้แล้วน่า ไหนซุปข้าวโพดกับองุ่นล่ะ”

“จ้ะ ๆ เดี๋ยวแม่เอามาให้เดี๋ยวนี้ล่ะ ตุ่มเอาองุ่นที่ล้างเสร็จแล้วมาให้คุณลันตาด้วยนะ ฉันจะเข้าไปทำงานที่ห้องสักหน่อย”

“ค่ะ คุณผู้หญิง”

เมื่อรู้ว่าลูกอยู่บ้าน ไม่ออกไปไหน ลัดดาสบายใจ เข้าไปทำงานในห้องเล็กด้านล่าง แต่ไม่วายที่จะโทรศัพท์ไปรายงานสามีอีกเช่นเคย แต่ฤกษ์ไม่เชื่อว่าลันตาจะไม่ออกไปข้างนอก ในเมื่อรับปากอย่างนี้ทุกครั้ง สุดท้ายก็ไป

ไม่เคยอยู่บ้าน มีความสุขต่อการได้ออกไปตะลอนข้างนอก พบปะกับผู้คนในเวลาค่ำคืน ดื่มเหล้า สูบบุหรี่หรือไม่นั้นเขายังไม่รู้ แต่คิดว่าน่าจะมีบ้าง

“ผมไม่เชื่อหรอกว่าลันตาจะไม่ออกไปไหน”

“คุณอย่าพูดอย่างนี้สิคะ ใจฉันเสียหมดเลย”

“โธ่คุณ ทำราวกับว่าไม่รู้สันดานมันงั้นแหละ นังลูกคนนี้ร้ายกาจเกินไป จิตใจโหดเหี้ยมผิดมนุษย์ ทำร้ายได้แม้กระทั่งพ่อแม่ที่รักมันปานดวงใจ คุณร้องไห้เพราะมันกี่ครั้งแล้ว”

“พอ ๆ เถอะค่ะ ฉันไม่อยากฟัง ไม่ว่าลูกเป็นอย่างไร ขอแค่ให้อยู่กับเรา เท่านั้นก็พอแล้ว”

“คุณกับผมก็ไม่ต่างจากกันหรอก ทุกวันนี้ต้องกลืนเลือดตัวเอง หวานอมขมกลืน เวลามีคนถามลูกเป็นอย่างไร เราก็บอกว่าดี ไม่มีปัญหา ถ้ารู้ว่าทำตัวอย่างนี้คงพากันรังเกียจ เมื่อไหร่น๊า ถึงจะสำนึกได้ เอาเถอะคุณทำงานต่อ ผมก็จะประชุมลูกน้องแล้วเย็นนี้เจอกันผมจะซื้อของอร่อยไปทานกัน”

“ค่ะ ฉันจะรอและภาวนาให้ลันตาอยู่บ้าน”

ลัดดากล่าวเสียงแผ่ว น้ำตาซึมต่อคำพูดของสามีที่ตำหนิลูกสาวแล้วสรุปว่าเจ็บปวดเพราะการกระทำตัวที่ไม่ได้เรื่อง สุดท้ายก็ต้องอยู่ในสภาพชอกช้ำ พูดไม่ออก บอกใครไม่ได้ อับอายถ้าหากว่ามีคนนอกล่วงรู้ถึงความประพฤติของลูกที่ไม่รักดี

หลังจากทำงานไปสักพักลัดดาออกมาเพื่อดูแลความเรียบร้อยในครัว เห็นตุ่มกำลังล้างผัก อดที่จะถามหาลูกสาวไม่ได้

“ลันตาล่ะ ลงมาหรือยัง”

“หนูเห็นแต่งตัวออกไปข้างนอกแล้วค่ะ”

เพียงได้รับรู้จากปากสาวใช้ว่าลูกสาวออกจากบ้านไปแล้ว หัวใจเหมือนถูกกระชากออกไปจากอก หมดสิ้นเรี่ยวแรง น้ำตาคลอด้วยความเจ็บปวด ได้แต่รำพึงออกมาว่า อีกแล้วหรือนี่ ทัพพีในมือร่วงลงไปที่พื้น ตุ่มก้มลงไปเก็บแล้วมองด้วยความสงสาร

“ให้มันได้อย่างนี้สิ นังลูกเลว ต่อจากนี้ไป ผมจะไม่เชื่อคำพูดมันอีกแล้ว มีแต่คำลวง โกหกไปวัน ๆ ทำไมมันไม่มีสมองคิดในเรื่องดี ๆ บ้าง ให้ผมเดานะ คงติดผู้ชาย ต้องไปหาทุกวัน”

“คุณฤกษ์คะ คงไม่เลวร้ายขนาดนั้นหรอกค่ะ”

“เชื่อผมสิ ต้องเป็นอย่างนั้น ผมอยากจ้างนักสืบตามดู ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง ๆ จะแจ้งตำรวจจับ โทษฐานล่อลวงเด็ก ลันตายังไม่ถึงสิบแปด ไอ้นั่นติดคุกหัวโตแน่”

ฤกษ์โมโหหัวฟัดหัวเหวี่ยงเมื่อลัดดาโทรศัพท์ไปบอกว่าลันตาไม่อยู่บ้าน เจ็บยิ่งกว่านั้นก็คือ ปิดโทรศัพท์ กลัวพ่อแม่ตาม เท่ากับว่าตั้งใจออกไปข้างนอก โดยวางแผนล่วงหน้าเอาไว้ ลัดดาหมดสิ้นแรงที่จะจัดเตรียมอาหารเมื่อฤกษ์บอกว่าเซ็ง ไม่กลับบ้าน

“ผมเบื่อชีวิตแล้ว ลูกมันลิดรอนความสุขให้หายไป ขออนุญาตดื่มคนเดียว คุณหาอะไรทานคนเดียวไปก่อนนะ มันหมดอารมณ์จริง ๆ ขอโทษด้วย”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel