6
“ใครเป็นอะไรวะไอ้เพลิง” หมอทัพพ์เยี่ยมหน้าเข้ามาในฮาเร็มของไอ้เพื่อนตัวร้ายเขาเองก็ไม่ได้เยี่ยมกรายมาหลายปีไม่นึกว่ามันยังจะใช้สถานที่แห่งนี้อยู่อีก....หลังจากป้าจันทร์เดินมาส่งยังอดแปลกใจไม่ได้ว่าใครคือนางในฮาเร็มคนล่าสุดของไอ้เพลิง
“ไม่รู้ มึงก็มาตรวจเอาสิ” เพลิงตอบไม่ตรงคำถาม
หมอหนุ่มเห็นคนที่นอนอยู่บนเตียงเป็นหญิงสาวใบหน้าอ่อนใสราวกับสาวแรกรุ่นหรือว่าไอ้เพื่อนเวรนี่สร้างเรื่องอะไรขึ้นมาอีกแล้ว เขาหันมามองหน้าเพื่อนรักพลางหรี่ตามองจับจ้องหาพิรุธ
“มึงล่อลวงลูกสาวบ้านไหนมาทำมิดีมิร้าย....ไอ้เพลิง” หมอทัพพ์ถามเสียงแข็ง
“เปล่า”
“หลักฐานเห็นอยู่ทนโท่เนี่ยนะ”
“เมียกู” เพลิงตอบเสียงเรียบ
“กูไม่เชื่อ...ถ้าเป็นเมียมึงจริงก็ต้องอยู่กับมึง จะพามาซุกไว้ที่นี่ทำไม มึงสารภาพมาดี ๆ แล้วนี่อายุเกินสิบแปดหรือยัง” หมอทัพพ์ยิงคำถามไม่ยั้ง เขาไม่ยอมเชื่อเด็ดขาด เพราะบ้านหลังนี้เขารู้ดีว่าเพื่อนมีไว้ทำอะไรเป็นไปไม่ได้ที่มันจะให้คนเป็นเมียมานอนที่นี่นอกจากผู้หญิงชั่วคราว หรือว่าไอ้นี่ริอ่านจะมีเมียเก็บ นางบำเรอ
“มึงรีบตรวจรีบไปดีกว่าไอ้ทัพพ์ ถามมากน่ารำคาญ” ชายหนุ่มมองเพื่อนตาขวาง
“งั้นมึงก็ออกไปเสียทีสิ กูจะได้ตรวจคนไข้”
“ไม่จำเป็น”
“อ๊าว ! ไอ้นี่กวนตีนแล้วไหมล่ะ” คนเป็นหมอขากระตุกอยากจะฟาดปากไอ้จระเข้ที่ทำเป็นเท่ห์นั่งขวางคลอง
เพลิงทำเป็นไม่สนใจ เขายังนั่งนิ่งอยู่อย่างนั้น เพราะไม่อยากทิ้งให้ข้าวหอมอยู่กับผู้ชายคนอื่นตามลำพังเขาผิดตรงไหนวะ
“อืม...รักเมีย หวงเมียว่างั้น” หมอทัพพ์ทำเป็นว่าเข้าใจ ส่วนคนที่รับไม่ได้ลุกพรวดเดินหน้าหงิกกระทืบเท้าออกไปไม่เหลียวหลัง
“ไอ้เพลิงมันไปแล้ว พอจะลืมตาขึ้นมาคุยกับหมอได้ไหมครับ” หมอหนุ่มถามเสียงนุ่มนวล เขารู้ว่าเธอรู้สึกตัวนานแล้วแต่ที่ยังไม่ลืมตา อาจจะเป็นเพราะไอ้บ้านั่นก็ได้
ข้าวหอมลืมตาขึ้นมายิ้มอาย ๆ ให้กับคนเป็นหมอ ความรู้สึกเหมือนโดนจับโกหกได้ อายจัง.....
“โดนไอ้เพลิงมันทำร้ายหรือเปล่า.....บอกหมอได้เลยนะครับ” หมอหนุ่มถามด้วยน้ำเสียงที่เปี่ยมไปด้วยความเมตตา
“เอ่อ.....เปล่าค่ะ.....ข้าวคิดว่าตัวเองเป็นลมเพราะหิวน่ะค่ะ” หญิงสาวตอบตามตรง
“หืม....ไอ้เพลิงมันทรมานถึงขนาดให้อดข้าวเลยหรือครับ”
“ไม่ใช่นะคะ...คืออย่างนี้ค่ะ....” ข้าวหอมเล่าเรื่องตั้งแต่เช้าให้คุณหมอฟังคร่าว ๆ ความจริงสาเหตุของความอ่อนเพลียก็มีส่วนมาจากเรื่องเมื่อคืนด้วยเหมือนกัน แต่หล่อนไม่กล้าเล่าให้ใครฟังทำเป็นข้าม ๆ ไป
หมอทัพพ์นั่งฟังเงียบ ๆ วัดไข้วัดความดันตรวจหัวใจ แล้วจึงวินิจฉัยว่าเป็นเพราะหล่อนตากแดดนานเกินไป ร่างกายปรับอุณหภูมิไม่ทันบวกกับความอ่อนเพลียจากการได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ จึงอาจทำให้น้ำตาลในเลือดต่ำทำให้เป็นลมหมดสติ คุณหมอหนุ่มฉีดยาบำรุงให้พร้อมทั้งแนะนำให้รับประทานอาหารอ่อนและพักผ่อนมาก ๆ ไม่มีอะไรน่ากังวล
ข้าวหอมกล่าวขอบคุณหมอทัพพ์อยากจะแก้ไขความเข้าใจของอีกฝ่ายว่าหล่อนเป็นภรรยาตามกฎหมายของพี่เพลิงจริง ๆ แต่ก็ไม่รู้จะเริ่มต้นยังไงและอีกอย่างหล่อนก็ไม่ค่อยรู้ความนัยที่คุณหมอคุยกับสามีของหล่อนสักเท่าไหร่จึงได้แต่นิ่งเฉย....รู้สึกสะดุดหูกับชื่อหมอทัพพ์ที่รู้สึกคุ้น ๆ แต่นึกไม่ออก.......
หลังจากเดินหนีวาจาเสียดแทงของเพื่อนรักออกมาเพลิงไม่ลืมที่จะแวะสั่งให้แม่ครัวทำอาหารให้คนป่วยก่อนจะมานั่งรอส่งไอ้หมอปากเสีย มันพูดได้ยังไงว่าคนอย่างเขารักเมียหลงเมีย ไม่มีทางเป็นไปได้เด็ดขาด ยิ่งกับผู้หญิงที่ชื่อข้าวหอมลูกสาวของคนที่ทำให้แม่ของเขาต้องจากไปครอบครัวต้องล่มสลายถ้าเขาจะเอาคืนด้วยการทำให้ยอดดวงใจของคนทั้งคู่อยู่อย่างเจ็บปวดเหมือนที่มารดาเคยได้รับมันก็สมควรแล้ว…
“ไอ้เพลิงมึงมานั่งทำอะไรตรงนี้ไม่อยู่คอยดูแลเมียมึงล่ะ” หมอทัพพ์กำลังจะกลับรู้ว่าเพื่อนมารอส่งแต่ก็อดแซวไม่ได้
“เรื่องของกู”
“มึงคิดจะทำอะไรกันแน่ไอ้เพลิง....แล้วน้องข้าวคนนี้ใช่คนเดียวกับน้องข้าวหอมลูกสาวของแม่เลี้ยงมึงหรือเปล่าวะ” หมอหนุ่มรู้เรื่องราวแต่หนหลังดีว่าเกิดอะไรขึ้นที่นี่ ตอนนั้นทั้งพ่อและแม่ของเขาต้องเข้ามาช่วยประคับประคองชีวิตของเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่อยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อเพื่อให้ก้าวข้ามผ่านช่วงเวลาแย่ ๆ นั้นไปให้ได้
“มึงไม่ต้องรู้ทุกเรื่องก็ได้มั้ง” เพลิงตอบเสียงสะบัดต่างคนต่างก็รู้นิสัยกันดี
“เออกูไม่ยุ่งก็ได้ แต่กูขอเตือนมึงด้วยความหวังดี ว่าการแก้แค้นไม่ใช่หนทางนำไปสู่ความสุขของใครเพราะผลลัพธ์ที่ได้มีแต่ความร้อนรุ่มและความสุขจอมปลอมเท่านั้น” ยิ่งเห็นท่าทางของเพื่อน หมอทัพพ์ก็พอจะเดาได้ว่ามันคิดจะทำอะไร สงสารก็แต่หญิงสาวที่ต้องตกเป็นเหยื่อของเรื่องนี้โดยไม่รู้ตัว
