4
ข้าวหอมจัดการเอาผ้าสกปรกเข้าเครื่องซักผ้าเก็บกวาดเช็ดถูทำความสะอาดที่อยู่และเนื้อตัวจนกระทั่งสำเร็จเรียบร้อยใช้เวลาไม่นานจึงได้ออกไปเดินเล่น
“พี่เพลิงออกไปทำงานแล้วหรือคะป้าจันทร์...” หญิงสาวเดินมาที่บ้านหลังใหญ่ไม่มีใครห้ามหล่อนนี่นา เรื่องอะไรจะนั่งเป็นซอมบี้อยู่ในบ้านนั้นคนเดียวขนาดแต่งหน้าทาแป้งทับไว้ยังปกปิดร่องรอยสงครามเมื่อคืนไม่ค่อยมิด
“ออกไปตั้งแต่เช้าแล้วค่ะ....แล้วนี่คุณข้าวกินอะไรมาหรือยังคะ” นางจันทร์เห็นหญิงสาวเข้ามาถึงในครัวก็กุลีกุจอจะจัดหาอาหารให้
“เรียบร้อยแล้วค่ะ” ข้าวหอมหมายถึงโกโก้ร้อนกับขนมปังปิ้งที่หล่อนกินกันตาย เพราะรู้สึกลำคอตีบตันกินอะไรไม่ลงทั้งที่ตอนนี้ก็สายมากแล้ว
ที่หล่อนเดินมาที่นี่ก็เพราะจักรยานสีชมพูคันเล็กน่ารักที่เห็นจอดอยู่หลังบ้านต่างหาก ข้าวหอมนึกอยากออกไปปั่นจักรยานชมไร่แสงจันทร์คงจะดีกว่านั่งจับเจ่าเอาแต่หายใจทิ้งไปวัน ๆ แน่นอน
“จักรยานนั่นของใครจ๊ะป้าจันทร์”
“อ๋อ...ของหลานป้าเอง...นังแวว พอดีว่าวันนี้มันไปโรงเรียนพร้อมเพื่อนก็เลยจอดทิ้งไว้ที่นี่
“เอ่อ....ข้าวขอยืมขี่ไปในไร่หน่อยได้ไหมคะ”
“ได้ค่ะ....ว่าแต่คุณข้าวจำทางได้หรือคะ”
“แฮร่...ไม่ได้หรอกค่ะ....แต่ตั้งใจว่าจะขี่เล่นตามทางในไร่นี่แหละยังไงก็คงไม่หลงมั้งคะ” คิดถึงเมื่อครั้งก่อน เด็กหญิงตัวกะเปี๊ยกนั่งซ้อนท้ายกอดเอวเด็กชายตัวโตไปไหนไปกันขอเพียงบอกพี่เพลิงคะพี่เพลิงขา...พี่ชายที่แสนดีก็จะพาน้องน้อยไปทุกที่....เฮ้อ....ตอนนี้ แค่พูดด้วยยังไม่พูดเลยหญิงสาวเตือนตัวเองให้เลิกเพ้อเจ้อในที่สุด
“งั้นก็ระวังหน่อยนะคะแดดช่วงนี้มันแรง”
“ขอบคุณค่ะป้าจันทร์”
นางจันทร์ยังไม่ทันจะพูดต่อก็เห็นนายหญิงของไร่วิ่งปรู๊ดออกไปแล้ว....ดูเผิน ๆ ราวกับเด็กมัธยมเสียมากกว่า ยิ่งใส่เอี๊ยมแบบนี้แล้วยิ่งดูน่ารัก....ไม่รู้ว่าเจ้านายคิดอะไรอยู่
“นาย....นายเพลิง...นางฟ้าบุกไร่” เปียกหนึ่งในลูกน้องคนสนิทของเพลิงที่สติปัญญาโตไม่ทันร่างกายที่ใหญ่โตราวยักษ์ปักหลั่นถลันเข้ามาหาผู้เป็นนายด้วยความตื่นเต้นพร้อมกับโทรศัพท์เครื่องจิ๋วในมือที่เพิ่งจะได้รับมรดกมาจากผู้เป็นนาย
“อะไรของมึงไอ้เปียก ไปเล่นไกล ๆ ตีน นายเพลิงกำลังอารมณ์ไม่ดีไม่เห็นหรือมึง” เปี๊ยกคู่หูที่ตัวเล็กกว่าแต่ปัญญาล้ำกว่ามากตำหนิไอ้ตัวยุ่ง
“นางฟ้า กูเห็นนางฟ้าขาวโอโม่จริง ๆ ” เปียกยืนยัน
“มึงไปแอบหลับที่ไหนมา” เปี๊ยกไม่เชื่อถือ บ่อยครั้งที่มันพูดจาหาสาระไม่ได้แต่ก็ไม่มีใครถือสาทั้งนี้เพราะตอนวัยรุ่นมันเข้าต่อยตีกับคู่อริของนายเพลิงแบบไม่คิดชีวิตแต่เพราะฝ่ายนั้นมีคนเยอะกว่าหลายเท่าจึงโดนรุมซ้อมเสียน่วมรวมทั้งตัวเขาและเจ้านายด้วยแต่เปียกโชคร้ายที่โดนตีหัวจนสลบไปหลายวันพอฟื้นขึ้นมาก็เป็นอย่างที่เห็น
“เปียกมีหลักฐาน ดูสินาย โทรศัพท์ของนายถ่ายติดนางฟ้าด้วย” เปียกมั่นใจมาก ตั้งแต่มันได้โทรศัพท์ไปก็เอาแต่ถ่ายต้นไม้ใบหญ้า บางทีก็อัดคลิปดอกไม้ผีเสื้อตามประสาผู้ชายอ่อนไหว
“เอามา....ถ้าไม่มีมึงโดนกระทืบแน่” เพลิงตัดปัญหาด้วยการยื่นมือไปรับโทรศัพท์จากมือดำ ๆ ของลูกน้อง แล้วเปิดคลิปวีดีโอล่าสุด ทันทีที่เห็นภาพเคลื่อนไหว ใบหน้าคมเข้มเปลี่ยนเป็นขึ้งเครียดก่อนจะลบคลิปนั้นทันที.....
“อ้าว......ลบนางฟ้าของเปียกทำไม...นายกลับมาก่อน.....” เปียกมองตาค้างกว่าจะรู้ตัว นายเพลิงก็เดินดุ่ม ๆ กลับไปขึ้นรถกระบะแล้วออกตัวกระชากออกไปอย่างรวดเร็ว
“ไอ้เปียกมึงไปถ่ายอะไรมา....นายถึงได้โกรธขนาดนั้น” เปี๊ยกหันมาเค้นถามไอ้ตัวก่อเรื่อง
“นางฟ้า.....”
“เฮ้อ...กูปวดตับ” เปี๊ยกส่ายหัวแล้วเดินจากไปอีกคน ........
ธารน้ำตกท้ายไร่
ข้าวหอมปั่นจักรยานหลงเข้ามาถึงธารน้ำใส ท่ามกลางหมู่ไม้ยืนต้นอายุเกือบร้อยปีหรืออาจจะมากกว่านั้นหล่อนจำได้เลา ๆ ว่าที่ตรงนี้พี่ชายที่แสนดีเคยพาหล่อนแอบมาเที่ยว เล่นน้ำด้วยกันที่นี่บ่อย ๆ เห็นแล้วก็อดใจไม่ไหว หญิงสาวตัดสินใจลุยลงไปเล่นน้ำท่ามกลางธรรมชาติที่ห่างหายไปหลายปีสายน้ำชื่นฉ่ำเย็นทำให้หล่อนหลงเพลิดเพลิน โดยไม่ทันเห็นคนมาใหม่ที่ยืนกอดอกกางขาตีหน้ายักษ์อยู่บนโขดหินริมฝั่งไม่ไกลจากตรงที่หล่อนเล่นน้ำเท่าใดนัก
“ขึ้นมาเดี๋ยวนี้ !”
เสียงดังแผดก้องป่าขนาดนั้นทำให้ข้าวหอมตกใจราวกับโดนฟ้าผ่ากลางวันแสก ๆ หล่อนหันหน้าไปมองต้นเสียงอย่างสยดสยอง
