31
ข้าวหอมยืนมองเหล่าคนงานที่ต่างก็ช่วยกันคนละไม้ละมือโดยมีร่างสูงเด่นเป็นสง่าของสามีที่ทำตัวเป็นนายช่างใหญ่ควบคุมงานก่อสร้างด้วยตัวเอง.......หล่อนเพิ่งจะรู้ว่านอกจากทำไร่แล้วเขายังทำสิ่งเหล่านี้ได้ด้วย เขาจบอะไรมานะหรือเพราะความจำเป็นจึงต้องรอบรู้ ไม่อย่างนั้นจะดูแลไร่แสงจันทร์อันกว้างใหญ่แห่งนี้มาได้ยังไง…….
หญิงสาวเดินเลี่ยงเข้ามาในครัว เพื่อจะขอให้ป้าจันทร์ทำขนมหวานเย็นชื่นใจ เอาไว้ให้คนงานเพราะเดี๋ยวแดดออกหน่อยก็คงจะร้อนกันน่าดู...ข้าวหอมรู้สึกเกรงใจที่ทุกคนต้องลำบากเพราะหล่อนแท้ ๆ จึงอยากตอบแทนพวกเขาบ้าง
“ข้างนอกมีอะไรหรือคะคุณข้าว ป้าเห็นคนงานมากันเยอะแยะเชียวค่ะ” ป้าจันทร์ที่กำลังสาละวนอยู่ในครัวเอ่ยถามเพราะไม่มีเวลาออกไปดูได้แต่สงสัย
“พี่เพลิงให้คนงานมาทำซุ้มค่ะ”
“ทำซุ้ม ศาลาน่ะหรือคะ” ผู้สูงวัยถามอย่างแปลกใจ ปกติเจ้านายไม่ค่อยสนใจเรื่องพวกนี้ หายใจเข้าออกเป็นเรื่องในไร่ทั้งนั้น นาน ๆ จะนั่งว่าง ๆ ที่บ้านสักครั้ง
“ค่ะ.....ไม่รู้ว่าพี่เพลิงเกิดใจดีอะไรขึ้นมา ข้าวแค่ขอโต๊ะเก้าอี้แต่พี่เพลิงสั่งทำซุ้มให้เฉยเลย” หญิงสาวบอกยิ้ม ๆ คนทำดีด้วยใครบ้างจะไม่ชอบแต่ใจดีเกินไปบางครั้งก็ไม่น่าไว้ใจ ว่าเขาต้องการอะไรกันแน่.....
“เหรอคะ.....แสดงว่าเจ้านายรักคุณข้าวมากนะคะ...ถึงได้เนรมิตให้รวดเร็วทันใจแบบนี้” นางจันทร์พูดไปยิ้มไปปลื้มใจเหลือเกินที่คู่สามีภรรยาปรองดองกันได้
“ข้าวไม่กล้าคิดหรอกค่ะ เมื่อวันก่อนยังเป็นอสูรอยู่เลย จู่ ๆ จะเปลี่ยนเป็นเทพบุตรกันได้ง่าย ๆ เลยหรือคะ” นอกจากบอกป้าจันทร์แล้วหล่อนยังพยายามเตือนตัวเองไม่ให้หลงใหลได้ปลื้มไปกับความหวานที่เพิ่มดีกรีขึ้นเรื่อย ๆ จนดูเหมือนปลอม..........การเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วกลับทิศกลับทางจนทำใจให้เชื่อยากเหลือเกิน.....แต่ก็หวั่นว่าตัวเองจะใจแข็งไปได้นานสักแค่ไหน
“ก็ไม่แน่นะคะ ที่เราเห็นว่าเป็นร่างอสูรนั่นน่ะ อาจจะแค่เปลือกนอกก็ได้ค่ะ…..เมื่อตอนเด็ก ๆ พี่เพลิงก็ตามใจน้องข้าวหอมมากกว่าใครไม่ใช่หรือคะ” นางจันทร์ออกเสียงเชียร์อย่างสุดลิ่มทิ่มประตู เพราะหล่อนเห็นทั้งคู่ตั้งแต่เล็กแต่น้อย ที่ห่างกันไปก็ไม่เกี่ยวกับคุณข้าวหอมสักหน่อย เป็นเรื่องของผู้ใหญ่แท้ ๆ
“ถ้าเป็นแบบนั้นก็ดีน่ะสิคะ” ข้าวหอมยิ้มแต่ดวงตายังแฝงด้วยแววหมองเศร้า....ไม่รู้ว่าเวรกรรมอะไรของหล่อน จะสุขก็สุขได้ไม่เต็มที่หรืออาจจะเป็นเพราะหล่อนใช้โควตา ความสุขนั้นหมดไปแล้ว เพราะตลอดเวลาที่เติบโตมาพร้อมหน้าทั้งแม่ทั้งลุงอุทัยถึงแม้ไม่ใช่พ่อแท้ ๆ แต่ท่านก็ทำให้หล่อนไม่ได้รู้สึกขาดกลับมีความสุขมาก ๆ ด้วยซ้ำ....จริงสิ...ในขณะที่หล่อน มีความสุขแล้วพี่เพลิงซึ่งเป็นลูกแท้ ๆ เป็นคนที่ถูกทิ้งไว้ข้างหลังคงจะเหงาและเศร้าไม่น้อย.....หรือหล่อนจะต้องทำดีกับพี่เพลิงมาก ๆ เพื่อชดเชยให้เขา....ข้าวหอมสับสนคิดไม่ตก
“อะไรดีหรือครับ” เรือนกายสูงใหญ่ก้าวเข้ามาในครัวได้ยินผู้หญิงต่างวัยคุยกันอยู่พอดี…
“อ๋อ.....ป้ากำลังบอกคุณข้าวหอมว่าที่เจ้านายทำแบบนี้แสดงว่ารักคุณข้าวหอมมากไงคะ”
“ป้าจันทร์” ข้าวหอมเรียกอาย ๆ
“เขาคงไม่เชื่อหรอกครับป้า” ชายหนุ่มพูดเหมือนน้อยใจแต่ก็เข้าสวมกอดแล้วก็หอมแก้มเมียสาวโชว์คนในครัวอีกฟอดใหญ่ ทำเอาเหล่าบรรดาสาว ๆ ก้มหน้าเอียงอาย ซ่อนยิ้มกันเป็นแถว
“พี่เพลิง !” ข้าวหอมตกใจ.....ไม่คิดว่าเขาจะทำรุ่มร่ามน่าไม่อายทั้งที่ป้าจันทร์กับคนทำงานในครัวนั่งอยู่ด้วยตั้งหลายคน
“อายทำไม ใคร ๆ ก็รู้ว่าหนูน่ะเมียพี่” ชายหนุ่มบอกหน้าตาย
“เดี๋ยวเหอะ....ว่าแต่พี่เพลิงเข้ามาทำไมหรือคะ”
“ตามหาเมีย” ชายหนุ่มบอกยิ้ม ๆ พลอยทำให้คนอื่น ยิ้มตาม
“นาย...นายคร๊าบบบบ” เสียงเปียกตะโกนเรียกเจ้านายมาแต่ไกลก่อนที่จะได้เห็นคนตัวใหญ่หน้าตาเนื้อตัวมอมแมมเต็มไปด้วยดินด้วยทราย วิ่งทะเล่อทะล่าเข้ามาในครัว
“อะไรของมึงไอ้เปียก” เพลิงถามอย่างหงุดหงิด ไอ้นี่มันเกิดมาเพื่อขัดขวางความสุขจริง ๆ
“นางอิจฉามาจ้านาย” คนตัวใหญ่กระซิบเสียงดัง
“นางอิจฉาอะไรของมึง” คนเป็นนาย แม้จะชินแต่ก็อดดุลูกน้องไม่ได้ก็เพราะความเคยชินอีกนั่นแหละ....พักหลัง ๆ มันมักจะมีศัพท์แปลก ๆ มาคุยแทบทุกวัน
“ก็นางอิจฉามาหาพระเอกถึงบ้านไงนาย เมื่อคืนนายไม่ได้ดูละครเหรอ...เหมือนเปี๊ยบเลย....น้องบัวตองบอกว่าคนนี้แหละนางอิจฉา ส่วนนายหญิงเป็นนางเอกจ้ะ” เปียกอธิบายพลางหันมายิ้มหวานกับนางเอก
“ไอ้เปียก.....ถ้ามึงยังพูดไม่รู้เรื่องก็รีบไสหัวไปก่อนที่กูจะยั้งมือยั้งเท้าเอาไว้ไม่ไหว”เพลิงปวดหัวกับไอ้เปียกที่นับวันจะเพ้อเจ้อไปกันใหญ่
“ก็คุณพิมไงจ๊ะ....คุณพิมมาหานาย...แหะ ๆ ๆ” เปียกบอกเขิน ๆ เพิ่งจะรู้สึกว่าอินกับละครมากไปหน่อย
คนเป็นนายเดินออกไป แต่ก็ยังไม่วายมองคาดโทษลูกน้องคนสนิทที่ช่างจินตนาการเหลือเกิน
“นางเอก...เอ้ย...นายหญิงตามไปดูดีกว่าจ้ะ ....เดี๋ยวหมาคาบไปแดกนะจ๊ะ.....” เปียกบอกซื่อ ๆ ด้วยคำที่จำมาจากในละครเมื่อคืนนี้เอง
