23
ชายหนุ่มเดินหน้าสายตาจับจ้องอยู่ที่เป้าหมายตาไม่กระพริบ จนอีกฝ่ายถอยกรูดชนเข้ากับเตียงกลางห้องจนเสียหลักหงายหลังลงไปไม่เป็นท่า ทำให้ร่างหนาตามลงมาทาบทับร่างบางที่พยายามดิ้นหนีพลางหัวเราะอย่างพึงใจแต่มันกลับเขย่าขวัญสั่นประสาททำให้คนที่อยู่ใต้ร่างหน้าตาตื่นร้องไม่ออก
“ใจร้อนเหมือนกันนะเรา ลงทุนนอนยั่วกันเลยเหรอ” ปลายนิ้วแกร่งค่อย ๆ ลากไล้ไปตามสันจมูกโด่งเลยมาที่กรอบหน้าวนช้า ๆ ก่อนจะวกมาบีบปลายจมูกโยกเบา ๆ อย่างหยอกเอิน
“บ้า...ถอยไปนะ” ข้าวหอมถอนหายใจออกมาหลังจากกลั้นใจลุ้นด้วยความหวาดเสียว โล่งอกเมื่อเขาไม่ได้ใช้กำลังกระทำรุนแรงอย่างที่นึกกลัว....หญิงสาวตัดสินใจผลักไสร่างใหญ่ที่นอนทาบทับอยู่ด้านบนถึงแม้มันจะไร้ผลก็ตามที
ครืด...ครืด.....เสียงโทรศัพท์ของเขาสั่นอยู่บนที่นอนนี่เองทำให้หญิงสาวได้ทีหลีกเลี่ยงเบี่ยงเบนความสนใจ
“พี่เพลิงรับโทรศัพท์ก่อนสิ” ข้าวหอมบอกพร้อมกับควานมือไปหยิบโทรศัพท์มายื่นส่งให้ ด้วยระยะใกล้แค่นี้เขาคงเห็นชื่อที่ขึ้นหน้าจอชัดแจ๋วแล้วจึงขมวดคิ้ว....แต่ก่อนที่ร่างหนาจะลุกออกไปยังจะกดจมูกลงมาหอมแก้มอีกฟอดใหญ่เป็นการมัดจำไว้อีกต่างหาก
ข้าวหอมถือโอกาสลุกขึ้นนั่งยังไม่ทันได้ขยับไปไหนก็ได้ยินแต่คำว่า....ครับพิม......ครับพิม........เพราะเขานั่งรับโทรศัพท์อยู่ที่ปลายเตียงนี่เอง... ต่อมเผือกเริ่มทำงานโดยไม่รู้ตัว อยากรู้ว่าอีพี่เพลิงมีอะไรกับคนชื่อพิมนักหนา....หรือว่าจะเป็นพี่พิมสงสัยจะไม่ใช่พนักงานธรรมดาเสียแล้ว ไม่อย่างนั้นคงไม่กล้าโทรหาเขาในเวลาแบบนี้แถมอีตานี่ยังรับสายเสียงอ่อนเสียงหวานอีกต่างหาก....เอิ่มจะว่าไปก็ไม่หวานเท่าไหร่หรอกหล่อนคงจะหูฝาดไปเอง......
“ทีหลังจะพูดอะไรก็คิดดี ๆ ก่อนเพราะฉันจะไม่ปล่อยผ่านเหมือนวันนี้เข้าใจไหม” เพลิงยังไม่วายหันมาข่มขู่ข้าวหอมหลังจากที่คุยโทรศัพท์แล้วทำเป็นใจดี......แต่เปล่าเลยเพราะวันนี้เขามีธุระแต่เช้า.....หมดเวลาเล่นสนุกแล้วไม่อย่างนั้นอย่าหวังว่าจะรอดไปได้เลย...ยัยตัวแสบ..........
ข้าวหอมยู่หน้าใส่อย่างลืมตัวทั้งที่นั่งประจันหน้ากันอยู่
“ข้าวหอม !”
“เอ่อ......ค่ะ” ดุจริงดุจัง ดุอย่างกับหมาพิทบูลอันนี้ได้แต่บ่นในใจขืนพูดออกไปอีตานี่ได้หาเรื่องกลั่นแกล้งอีกจนได้
พอเขาออกไปแล้ว หญิงสาวจึงได้เข้าไปอาบน้ำแต่งตัวอย่างอ้อยอิ่งประวิงเวลาเพื่อจะได้ไม่ต้องเจอกับเขาบนโต๊ะอาหารอีก ดังนั้นกว่าหล่อนจะลงมาด้านล่างก็สายมากแล้ว ข้าวหอมเดินเข้าไปในครัวเป็นอันดับแรก....หล่อนเห็นป้าจันทร์กำลังสั่งเด็ก ๆ ขนอาหารสดจากบ้านหลังเล็กกลับมาเพราะคงไม่มีใครไปอยู่แล้วทิ้งไว้ก็เสียของเปล่า ๆ …เพราะคนบ้าท่าเยอะคนนั้นเชียว ทำให้คนอื่นต้องพลอยลำบากกันไปหมด
“หิวหรือยังคะ” นางจันทร์สั่งเด็ก ๆ ตั้งโต๊ะทั้งที่อีกฝ่ายยังไม่ทันตอบด้วยซ้ำ
“หิวมากเลยค่ะป้าจันทร์ จะลงมากินก่อนก็ใช่ที่ ก็เลยจัดของให้เสร็จ ๆ ไป” หญิง สาวพูดให้อีกฝ่ายเข้าใจอย่างนั้นเพราะเกรงว่าป้าจันทร์จะเข้าใจผิดไปอีกทาง
“นายสั่งให้ทำอาหารตั้งหลายอย่างแน่ะค่ะ แถมยังบอกว่ากลางวันนี้จะ กลับมากินข้าวที่บ้านด้วยนะคะ” ผู้สูงวัยเล่าด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสสบายใจที่เจ้านายทำอะไรให้มันถูกต้องอย่างที่ควรจะเป็น คงถึงเวลาหมดทุกข์หมดโศกเสียที
“เหรอคะ งั้นเดี๋ยวข้าวจะกินให้พุงกางเผื่อกลางวันด้วยเลยดีกว่าค่ะ”
“อ้าวทำไมล่ะคะ...คุณข้าวไม่ดีใจเหรอคะที่เจ้านายจะกลับมากินข้าวกลางวันด้วย ปกติไม่ค่อยจะมาหรอกนะคะจะขลุกอยู่ในไร่เสียส่วนใหญ่”
“ฮึ...เจ้านายของป้าน่ะปากร้ายจะตายอยู่ไกล ๆ ดีกว่าค่ะ” ข้าวหอมบอกอย่างนั้นแต่ก็ยิ้มกับผู้สูงวัย
ป้าจันทร์เข้าใจว่าคุณข้าวของนางคงจะพูดไปอย่างนั้นเอง เป็นเรื่องแง่งอนของหนุ่ม ๆ สาว ๆ แค่นั้น หล่อนดีใจที่เจ้านายจะมีครอบครัวที่สมบูรณ์สักทียิ่งถ้ามีคุณหนูตัวน้อย ๆ ด้วยยิ่งดีใหญ่ แต่นายสาวทำอย่างที่พูดจริง ๆ คือจัดการอาหารจนอิ่มแปล้ก่อนจะคว้าจักรยานที่หล่อนตั้งชื่อมันว่าไอ้สางเขียวขี่ออกไปที่สำนักงานต้องการพิสูจน์อะไรบางอย่างที่รบกวนจิตใจหล่อนไม่ได้หึงหวงใครสักหน่อย.......ข้าวหอมย้ำกับตัวเองซ้ำ ๆ
ไอ้สางเขียวพาเจ้านายมาถึงจุดหมายได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง ความจริงมันก็น่ารักดีเบาะก็นิ่มด้วยแต่เพราะหมั่นไส้คนซื้อที่เจตนาไม่ซื่อจึงได้รังแครังคัดทุกครั้งที่ใช้มัน
ข้าวหอมเห็นผู้ชายตัวสูงใหญ่นั่งถอนหญ้าอยู่หน้าสำนักงานรูปร่างคุ้นตา ต่อเมื่อเขาเงยหน้าขึ้นยิ้มให้จึงได้รู้ว่าเป็นเพื่อนต่างวัยนี่เอง
“หวัดดีจ้ะนายหญิง” ชายหนุ่มฉีกยิ้มกว้างขวาง
“เปียกมาทำอะไรที่นี่จ๊ะ......แล้วมาคนเดียวเหรอ” หญิงสาวอยากถามว่าเจ้านายของเขาไปไหนปกติเห็นอยู่ด้วยกันตลอด...แต่ก็เปลี่ยนใจไม่พูดดีกว่า
“นายให้เปียกมาเฝ้าบัวตองครับ”
“หืม....ทำไมต้องเฝ้า”
“เอ.....เปียกลืมถามนาย เดี๋ยวนายกลับมาเปียกจะถามให้นะครับ” ชายหนุ่มเกาหัวแกรก ๆ เหมือนเพิ่งจะสงสัยเหมือนกันว่าทำไมตัวเองต้องมาเฝ้าบัวตองด้วยวะ
ข้าวหอมเดินเลี่ยงออกมา รู้สึกผิดนิด ๆ ไม่น่าปากไวถามเลยจริง ๆ ขนาดออกมาตั้งไกลยังเห็นผู้ชายตัวโตทำท่าครุ่นคิดอยู่เลย
“นายหญิงมาแล้วหรือจ๊ะ บัวตองนึกว่าจะไม่มาแล้วซะอีก” หญิงสาวดีใจ เพราะวันนี้หล่อนต้องอยู่โยงเฝ้าสำนักงานคนเดียวจึงรู้สึกเหงา ๆ ตามประสาคนช่างเจรจา จะลงไปหาไปคุยกับพี่เปียกก็เท่ากับอู้งานไม่น่าจะดีสักเท่าไหร่
“บัวตองอยู่คนเดียวเหรอ.....แล้วพี่พิมล่ะจ๊ะ” ข้าวหอมมองหาตั้งแต่มาถึงทีแรกไม่เห็นรถสามีอุตส่าห์โล่งใจคิดว่าคนละพิมกัน แต่ตอนนี้พี่พิมดันไม่อยู่ด้วยนี่สิ มันน่าสงสัยจริง
