21
“ข้าวหอม !” ชายหนุ่มเพิ่งจะรู้สึกตัว สำนึกได้ว่าพูดรุนแรงเกินไปแค่อยากเอาชนะคะคานไม่ได้หมายความตามนั้น...เขาจึงรีบตามหล่อนไปแต่ก็ไม่ทันเมื่อข้าวหอมปิดประตูใส่หน้าเสียงดังปัง..........
เพลิงได้แต่ยืนนิ่งอยู่กับที่เนิ่นนานก่อนจะค่อย ๆ ทรุดตัวลงนั่งหลังพิงประตู......การจะดึงดันเข้าไปตอนนี้ไม่ใช่เรื่องยาก แต่เสียงร้องไห้ที่ดังแว่วออกมาจากในห้องนั้นทำให้หัวใจแกร่งไหวยวบ ชายหนุ่มไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน...ทำไมเขาต้องเจ็บหรือเพราะคำว่าเกลียดจากปากของคนเป็นเมีย.......
เรือนร่างบอบบางนอนคว่ำหน้าน้ำตาเปียกหมอน.....หล่อนหยุดน้ำตาตัวเองไม่ได้เลยถึงแม้เวลาจะล่วงเลยมานานนับชั่วโมงแล้วก็ตาม .....ความพยายามที่จะปลุกปลอบใจตนเองอย่างที่เคยทำได้ผลมาตลอดกลับสูญเปล่าราวกับทำนบเขื่อนกั้นในใจได้พังทลายลงอย่างย่อยยับ .....จากที่คิดว่าสามารถรับมือได้สบาย ๆ ก็ทำท่าจะไม่ไหวเสียแล้วหล่อนไม่ใช่หญิงเหล็กมาจากไหนชีวิตที่ผ่านมาก็แสนจะเรียบง่าย ข้าวหอมเติบโตมาท่ามกลางความรักของคนในครอบครัวถึงแม้ลุงอุทัยเป็นแค่พ่อเลี้ยงแต่ท่านก็เติมเต็มจนไม่รู้สึกว่าขาดพ่อ......หล่อนมีเพื่อนดี เพื่อนสนิทมาก ๆ ทั้งสองคนต่างก็ช่วยกันประคองผ่านช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของชีวิตมาได้อย่างสวยงามไม่เคยพากันออกนอกลู่นอกทาง.....บททดสอบในชีวิตที่ผ่านมามันจึงง่ายมากไม่เคยต้องใช้ความพยายามอย่างหนักด้วยซ้ำ ครั้นพอมาเจอโจทย์ยากเข้าหน่อยก็เริ่มจะไปไม่เป็น........ถึงได้รู้ว่าจิตใจของตัวเองเปราะบางกว่าที่คิด.......
หญิงสาวทบทวนกลับไปกลับมาถึงอนาคตข้างหน้า ระหว่างอดทนหรือเลือกที่จะเดินจากไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่ไม่มีคนใจร้ายมาบั่นทอนกำลังใจกันอยู่ทุกวี่วัน.....ถ้าจะอยู่ต่อ...หล่อนรออะไร รอให้เขาดีด้วยอย่างนั้นหรือคนเกลียดกันเขาเปลี่ยนใจกลับมารักกันได้ง่าย ๆ หรือยังไง.....ข้าวหอมตั้งคำถามกับตัวเองและก็ตอบได้เลยว่ายาก.....หากจะเลือกเดินจากไปหล่อนก็คิดไม่ออกว่าจะไปที่ไหนในเมื่อที่บ้านก็กลับไปไม่ได้......คิดไปคิดมาก็หาทางออกไม่เจอเหมือนพายเรือในอ่าง จนกระทั่งผล็อยหลับไปด้วยความอ่อนเพลีย
เมื่อทุกอย่างรอบตัวเงียบสงัดรวมทั้งเสียงร้องของคนในห้องก็เงียบไปนานแล้ว ชายหนุ่มใช้เวลาคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่นานจึงตัดสินใจลุกขึ้นและกลับไปค้นกุญแจสำรองก่อนจะนำมันกลับมาไขเข้าไปจากทางด้านหลังเพราะเจ้าหล่อนปิดประตูลงกลอนด้านหน้าเสียแน่นหนาคิดว่าเขาไม่มีปัญญาเข้าไปล่ะสิท่า......
เพลิงจัดท่านอนคนที่หลับไปทั้งน้ำตาให้มานอนในอ้อมกอดที่โอบรัดหล่อนไว้หลวม ๆ เขารู้ว่าข้าวหอมนั้นนอนขี้เซาเพียงใดหลังจากที่แอบเข้ามานอนด้วยทุกคืนจนกลายเป็นความเคยชินของเขาไปแล้วเช่นกัน…....
เช้านี้ข้าวหอมตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกเวียนหัวสมองหนักอึ้งแถมลำตัวยังหนักขยับไม่สะดวก....แต่แล้วก็เข้าใจในนาทีต่อมาว่าเป็นเพราะอะไร
“ออกไปนะ.....” สองมือผลักไสเต็มแรง แต่ไม่ได้ทำให้คนหน้ามึนที่นอนมองหล่อนอยู่ก่อนแล้วขยับเขยื้อนเลยแม้แต่น้อย
“อะไรกัน........ฉันนอนทำอะไรต่อมิอะไรเธอตั้งนานเพิ่งจะมาผลักไสเอาตอนนี้... รู้สึกตัวช้าไปหรือเปล่าแม่คุณ” ชายหนุ่มตั้งใจพูดกำกวมพร้อมกับอมยิ้มนัยน์ตาพราวหวังเพียงแกล้งหยอกเย้าสาวเจ้าให้อารมณ์ดี
“ทุเรศ !....”
“หึหึ....นี่ไม่รู้ตัวจริง ๆ เหรอ”
“ปล่อยสิ......ข้าวเกลียดพี่เพลิง ข้าวจะไม่ขอทนอีกต่อไปแล้วได้ยินไหม” ยิ่งเห็นหน้า ยิ่งทำให้นึกถึงคำที่เขาพูดเมื่อคืนน้ำตาก็พาลเอ่อคลอขึ้นมาอีกครา ความรู้สึกเสียใจตีตื้นขึ้นมาระลอกแล้วระลอกเล่าทำนบน้ำตาทำท่าจะพังลงมาอีกรอบ
“ขอโทษ......พี่ขอโทษ”
ข้าวหอมชะงักไม่แน่ใจว่าหูฝาดหรืออีพี่เพลิงนรกเมาขี้ตากันแน่...ดวงตากลมโตยัง คลอครองด้วยหยาดน้ำใสแวววาวแหงนเงยขึ้นมองหน้าคนพูดแต่ก็ได้เห็นแค่คางที่มีไรเคราเขียวครึ้มเพราะโดนกอดกระชับจนแทบจะจมหายเข้าไปในอก....หล่อนไม่เชื่อเด็ดขาดว่าเขาจะรู้สึกและพูดคำนั้นออกมาจากใจ
“ข้าวจะไม่อยู่ที่นี่แล้ว..ปล่อย” ข้าวหอมดิ้นหลุดออกไปโดยง่ายเพราะเขายอมปล่อยแต่โดยดีนั่นเอง
“อืม...ไปเก็บของสิ” เพลิงคลายอ้อมกอดผละมานอนหงายเอามือรองศีรษะพลางทอดสายตามองเงียบ ๆ
ความน้อยใจตีตื้นขึ้นจนอัดอั้นในอกอีกแล้ว.........ข้าวหอมเกิดแรงฮึดขึ้นมาหล่อนปาดน้ำตาลวก ๆ ก่อนจะลากกระเป๋ามาเปิดออกรวบเสื้อผ้าข้าวของยัดลงไปในกระเป๋าใบใหญ่อย่างกระแทกกระทั้น
เพลิงดีดตัวลุกขึ้นทันทีเมื่อเห็นยัยจอมพยศเดินคอแข็ง ลากกระเป๋าแกรก ๆ ไปเปิดประตูออกจากบ้านทั้งที่ยังใส่ชุดนอนกางเกงขายาวเนื้อนิ่มสีชมพูหวานเจี๊ยบลายการ์ตูนแมวเหมียวยอดฮิตที่หล่อนใส่ตั้งแต่ตอนไปกินอาหารค่ำแล้วด้วยซ้ำ...…เขาเดินตามมาเรื่อย ๆ ไม่รีบร้อนต่อเมื่อหล่อนลากกระเป๋าเลยออกไป.....ฮึ....ใจคอยัยเด็กแสบจะเดินออกจากไร่ทั้งแบบนี้เลยหรือไงวะ แถมยังไม่หันมาขอร้องสักคำเดียว ใจเด็ดเสียด้วย…..
“เล่นสนุกพอหรือยัง” มือใหญ่ยื่นออกไปกระตุกแขนเรียวนิดเดียวก็เซแซ่ด ๆ ๆ
“ใครกันแน่ที่เล่นสนุก......ข้าวจะไปจริง ๆ ส่วนใบหย่าจะส่งมาให้ทีหลังก็แล้วกันนะคะ........วะ......ว้ายยยย.......” หญิงสาวตกใจที่โดนตวัดรัดเอวจากทางด้านหลัง หล่อนเสียหลักขาลอยขึ้นจากพื้นดิ้นด็อกแด๊กจึงดูเหมือนโดนหิ้วเอาไว้ด้วยแขนข้างเดียวของคนตัวใหญ่กว่า
“คุณข้าว !” นางจันทร์มองเห็นจากในครัวหล่อนกำลังจะเดินเข้าไปถามพอดี จึงทันได้เห็นนายสาวโดนหิ้วถึงกับเผลออุทานพร้อมกับตบอกผาง…เฮ้อ...ผัวเมียคู่นี้เขาเล่นอะไรกันแต่เช้านะ....
“ป้าจันทร์ฝากลากกระเป๋าตามมาให้หน่อย” เพลิงสั่งเสียงเรียบ เขาปล่อยคนตัวเล็กลงเพราะหล่อนเริ่มตะโกนโวยวายเสียงดังลั่น แต่เปลี่ยนมาจูงให้ตามไปหรือจะเรียกว่าลากก็ได้ไม่ผิดนักเพราะดูทุลักทุเลจากการขัดขืนฝืนตัวเอาไว้ของข้าวหอมที่ไม่ยอมตามไปง่าย ๆ
“ปล่อยข้าวนะพี่เพลิง......ข้าวจะไปไม่อยู่แล้วคนใจร้าย...บอกให้ปล่อยไงเล่า......” ข้าวหอมแผดเสียงไม่เกรงกลัวใครเพราะระดับความโกรธที่พุ่งพรวด ๆ ๆ หล่อนพยายามแกะมือแข็งนั่นไปตลอดทางทั้งหยิกทั้งกัดแต่ก็ไม่เป็นผล
“หุบปาก !” นอกจากไม่ปล่อยยังหันมาตะคอกใส่อย่างขัดใจ
“ก็ปล่อยข้าวไปก่อนสิ” นาทีนี้ไม่ต้องถามหาเหตุผลใด ๆ ทุกอย่างเกิดจากอารมณ์หลากหลายที่ถูกกักเก็บไว้จากความร้ายกาจของเขาทั้งสิ้น ....มันอัดแน่นจนระเบิดออกมาราวกับลาวาร้อน
“ไม่อายคนอื่นหรือไงหึ.......”
ข้าวหอมเพิ่งจะนึกได้หล่อนเหลียวมองไปรอบ ๆ นอกจากป้าจันทร์ที่หิ้วกระเป๋าตามมาก็ยังมีเด็กสาวอีกสองคนที่กำลังทำงานบ้านอย่างขะมักเขม้น ถึงแม้ทั้งคู่ไม่ได้มองมาคงเพราะเกรงจะเสียมารยาทแต่ดูก็รู้ว่าหูผึ่ง..... หญิงสาวจึงกัดฟันยอมสงบลงชั่วคราว หล่อนเดินตามเขาขึ้นบันไดไปแต่โดยดีเดี๋ยวค่อยเคลียร์กันก็ยังไม่สาย......
นางจันทร์เอากระเป๋าเข้าไปวางให้แล้วรีบออกไปอย่างรู้งานเพราะดูท่าทางแต่ละคนพร้อมบวกมาก
“พาข้าวมาที่นี่ทำไม”
“ก็เธอบอกเองไม่ใช่เหรอ ว่าจะไม่ทนอยู่ที่นั่นแล้ว ก็พามานี่แล้วไงยังจะโกรธอะไรนักหนา” ยังเล่นลิ้นกวนประสาทไม่เลิก
“ก็บอกแล้วไงว่าข้าวไม่ใช่.......ฮึ้ย....” หล่อนไม่อยากจะพูดมันออกไปพูดเองก็เจ็บเอง
“ไม่ใช่ก็ไม่ใช่สิ.......เธอพูดเองเออเองทั้งนั้นแล้วก็ร้องไห้จะเป็นจะตายมีใครว่าเธอเป็นโสเภณีสักคำไหม” ร่างสูงยืนกอดอกประจันหน้าด้วยท่าทีคุกคามข่มขวัญราวกับราชสีห์กับกวางน้อยไม่มีผิด ทั้งคู่ไม่มีอะไรสูสีพอที่จะสู้รบตบมือกันได้เลยด้วยซ้ำ
ข้าวหอมคิดตามที่เขาพูดมันก็ถูก แต่ด้วยอากัปกิริยาโดยรวมแล้วเขาตั้งใจเหยียบย่ำให้หล่อนช้ำใจแน่นอน
“ข้าวเกลียดพี่เพลิง...กะ............”
คำว่าเกลียดถูกกลืนหายไปในลำคอเมื่อริมฝีปากหนาทาบทับลงมาอย่างรวดเร็ว...บดขยี้รุนแรงจนแทบจะขาดใจไร้ความวาบหวามมีแต่ความเจ็บแสบและรสแปร่งปร่าเท่านั้นที่หล่อนสัมผัสได้มันคือการลงทัณฑ์ หาใช่ความพิศวาส.......
