18
“ห๊า......นายหญิงนี่เอง บัวตองขอโทษค่ะ” หญิงสาวรู้เรื่องจากพี่ชายตั้งแต่เมื่อวานจึงยกมือไหว้ปลก ๆ ๆอย่างรู้สึกผิด ที่ตัวเองตาไม่มีแววแถมยังคุยอวดปล่อยไก่อีกต่างหาก
“ไม่เป็นไรหรอกบัวตอง เราเป็นเพื่อนกันแล้วนะ” ข้าวหอมเข้าไปจับมือบัวตองเอาไว้พลางยิ้มให้ไม่ได้ปฏิเสธว่าหล่อนคือนายหญิง ก็ในเมื่อความจริงมันเป็นเช่นนั้นหล่อนก็ไม่รู้จะปิดบังไปเพื่ออะไร แต่คนบางคนเหมือนไม่เข้าใจเองต่างหาก
“เอาล่ะไปทำงานได้แล้วบัวตอง ข้าวหอม” พิมบอกเสียงเข้ม...จะอะไรกันนักหนาก็แค่ของเล่น......หญิงสาวแอบเบ้ปากนิด ๆ ฮึ...บ้าทั้งคู่...
พิมเดินจากไปด้วยมาดนางพญาหลังจากกดใครบางคนลงต่ำทำราวกับว่าหล่อนนั้นสูงส่งเสียเต็มประดา ในขณะที่บัวตองเลิกคิ้วตาโตทำปากจู๋คิดไม่ถึงว่าพี่พิมจะกล้าพูดแบบนี้ทำอย่างกับว่าตัวเองนั้นเป็นนายหญิงของที่นี่....เมื่อก่อนบัวตองก็เข้าใจแบบนั้นเหมือนกัน แต่นี่ก็สามปีมาแล้วก็ไม่เห็นเจ้านายเพลิงจะมีท่าทีรักใคร่เฉกเช่นชายหญิง จะมีก็แต่พูดดีด้วยคงเพราะเห็นแก่ความเป็นเพื่อนกระมัง...หล่อนเคยถามพี่เปี๊ยกซึ่งก็ตอบมาแบบนั้น
“พี่พิมแกเป็นแบบนี้มานานแล้ว นายหญิงอย่าถือสาเลยนะจ๊ะ” บัวตองป้องปากกระซิบบอกเพื่อนใหม่ที่เป็นถึงนายหญิง
“ไม่เป็นไรหรอกจ้ะบัวตองคนเหมือนกัน...ไปทำงานเถอะ” ข้าวหอมบอกยิ้ม ๆ หล่อนคิดอย่างนั้นจริง ๆ ออกจะขำด้วยซ้ำเมื่อเห็นใครทำตัวเจ้ายศเจ้าอย่าง ไม่รู้ว่ามีปมด้อยอะไรนักหนาถึงต้องอยากให้ทุกคนก้มหัวให้
นับว่าข้าวหอมยังโชคดีอยู่บ้าง ถึงจะต้องทำงานที่น่าเบื่อชนิดที่หลับตาเสียข้างหนึ่งก็ยังทำได้เลยแต่ได้บัวตองนี่แหละที่คอยดูแลแวะเวียนมาพูดคุยด้วยเสมอ จนกระทั่งได้เวลาเลิกงาน
“นายหญิงรอนายมารับหรือจ๊ะ” บัวตองยังไม่กลับแม้จะเลยเวลางานมานานแล้วหล่อนตั้งใจจะอยู่เป็นเพื่อนจนกว่านายเพลิงจะมารับนายหญิงกลับ ไม่อยากให้หล่อนต้องอยู่ตามลำพังกับพี่พิมที่พักอยู่ด้านหลังนี้เอง
“เปล่า ไม่ได้รอหรอกจ้ะฉันกำลังจะกลับพอดี” ข้าวหอมตั้งใจอย่างนั้น นึกโมโหที่ดันไปเข้าใจเอาเองว่าเขาจะมารับแต่ระยะทางจากสำนักงานถึงบ้านก็ไม่ไกลมาก ประมาณสองสามกิโลเองหล่อนเดินไหวอยู่แล้ว พรุ่งนี้ค่อยเอาไอ้สางเขียวมาใช้ก็แล้วกัน
“งั้นบัวตองไปส่งนะจ๊ะ” หญิงสาวอาสาอย่างเต็มใจเพราะหล่อนดูแล้วว่าไม่มีรถอยู่บริเวณนี้สักคัน
“อ้าวน้องข้าวหอมยังไม่กลับหรือคะ” พิมถามเหมือนเพิ่งออกมาเห็น หญิงสาวยิ้มเย็น
“กำลังจะกลับแล้วค่ะ”
“ปกติคนงานที่นี่ใช้จักรยานกันทั้งนั้น พรุ่งนี้พี่จะบอกเพลิงให้ก็แล้วกัน” พิมยิ้มแสดงความมีน้ำใจแต่ดูยังไงก็เหมือนยิ้มเยาะมากกว่า
“ไม่รบกวนพี่พิมดีกว่าค่ะ พี่เพลิงซื้อให้แล้ว”
“นั่นสิคะพี่พิม เมียนายถ้าอยากได้อะไรก็ขอกันเองง่ายกว่าไหมคะ” บัวตองสนับสนุนด้วยท่าทางซื่อ ๆ แต่เหมือนหนามแหลมทิ่มแทงให้อีกฝ่ายหน้าหงาย หล่อนเห็นพี่พิมคนสวยสะบัดก้นเดินจากไปอย่างไม่ค่อยสบอารมณ์จึงหันมาหัวเราะคิกคักกับนายหญิง
“ร้ายไม่เบาเหมือนกันนะบัวตอง” ข้าวหอมยกนิ้วให้เพื่อนใหม่สวยใสแต่ไม่ไร้พิษสง
18.00 น.
“นายจะกลับบ้านแล้วหรือจ๊ะ” เปียกถามเจ้านายที่เพิ่งออกมาจากใต้ท้องรถไถซึ่งปกติจะมีช่างประจำแต่วันนี้ช่างใหญ่ลาป่วย เพลิงถึงต้องลงมือเองเพื่องานจะได้ไม่สะดุดหยุดชะงัก
“เออ มีอะไร” เพลิงออกมาปัดเนื้อตัวที่เต็มไปด้วยฝุ่นและน้ำมันเครื่องเป็นหย่อม ๆ พลางเอ่ยถามคนที่ทำหน้ายิ้มเขิน ๆ แลดูมีพิรุธ…ไอ้นี่นับวันจะเพี้ยนไปใหญ่แล้ว
“นายอย่าสนใจเลยครับ กลับไปเถอะเดี๋ยวผมกับไอ้เปียกช่วยกันเก็บของเอง” เปี๊ยกรู้ดีว่าเพื่อนจะทำอะไรเขาพยายามห้ามแล้วแต่ไอ้เปียกก็หาได้เชื่อฟังไม่...เฮอะ...อยากโดนเตะก็เรื่องของมึง
“เปียกฝากดอกไม้ไปให้นายหญิงจ้ะ” ผู้ชายร่างยักษ์ที่แสนจะมุ้งมิ้งแอบเอากล้วยไม้ที่เลี้ยงไว้ที่บ้านพักมาเตรียมไว้ตั้งแต่เช้า ดอกไม้งามก็ต้องคู่กับนางฟ้าที่งดงาม
“ไอ้เปียกมึงนี่วอนโดนตีนกูจริง ๆ”
“ทำไมล่ะจ๊ะ นายโกรธที่ไม่มีของนายเหรอ เอาไว้เปียกจะหามาให้ใหม่”
“เฮ้ย !........ฉิบหายแล้ว” เพลิงเพิ่งจะนึกได้ว่าทิ้งเมียไว้ที่สำนักงานจึงรีบวิ่งขึ้นรถแล้วขับออกไปอย่างรวดเร็ว
“ไอ้เปี๊ยก....นายโกรธกู” เปียกหันมาหาเพื่อนทำหน้าเหมือนจะร้องไห้
“กลับเถอะ เอาไปให้นังบัวตองแทนก็ได้” เปี๊ยกทั้งสงสารทั้งหมั่นไส้ที่ต้องดูแลมันก็เพราะยัยน้องสาวฝากฝัง ไม่รู้ว่าถูกใจอะไรไอ้ติงต๊องนี่นักหนา...
“ได้ ๆ ๆ ให้บัวตองก็ได้”ชายหนุ่มยิ้มแป้น เมื่อนึกถึงน้องบัวตอง
เพลิงกำลังจะรีบกลับไปรับข้าวหอมก็พอดีกับป้าจันทร์โทรมาบอกว่าหลินมารออยู่ที่บ้าน เขาจึงได้ถามถึงข้าวหอมได้ความว่ากลับถึงบ้านแล้วก็โล่งใจ....ไม่ได้เป็นห่วง แค่ไม่อยากให้ยัยตัวแสบเที่ยวได้ไปสร้างปัญหาที่ไหนอีก ชายหนุ่มย้ำกับตัวเองอย่างนั้น
“พี่เพลิงขาทำไมกลับช้าจังคะ” หลินปรี่เข้ามาหาชายหนุ่มทันทีที่เห็นเขาก้าวเข้ามาในบ้านเพราะหล่อนนั่ง ๆ นอน ๆ รอจนเบื่อ ยัยป้าแม่บ้านก็น่ารำคาญจะขอยืมกุญแจรถเพื่อจะขับเข้าไปหาเขาถึงในไร่ก็ไม่ให้ครั้นหล่อนจะไม่สั่งให้คนขับรถกลับไปก่อนก็กลัวว่าทุกอย่างจะไม่เป็นไปตามแผน......เฮอะ......ถ้าได้เป็นนายหญิงของที่นี่เมื่อไหร่ แม่จะปลดให้หมดเชียว
“มีอะไรกับพี่หรือเปล่าจะมืดค่ำอยู่แล้วมาทำไมกัน เป็นสาวเป็นแส้ไม่ใช่เด็ก ๆ เหมือนเมื่อก่อนแล้วนะ” ชายหนุ่มตำหนิอย่างตรงไปตรงมา ยังไม่รวมกับชุดกระโปรงเกาะอก ที่เกาะเอาไว้อย่างน่าหวาดเสียวมิหนำซ้ำด้านล่างยังสั้นอวดเรียวขาขาวอย่างกับพวกหางเครื่องงานวัด
“วันนี้วันอะไรเอ่ย.....พี่เพลิงจำได้ไหมคะ” แทนที่จะตอบหล่อนกลับตั้งคำถามกับเขาราวกับคำตำหนิก่อนหน้าไม่ได้เฉียดเข้าหูเลยสักนิด...หล่อนเอียงคอรอคอยคำตอบในท่าที่คิดว่าน่ารักที่สุด
คิ้วของชายหนุ่มขมวดเป็นปม คิดไม่ออกจริง ๆ ว่าเขามีวันสำคัญที่ควรจะจำได้ร่วมกับหล่อนตั้งแต่เมื่อไหร่
“วันจันทร์” เพลิงตอบอย่างพาซื่อไม่คิดว่าจะมีความสำคัญอะไรนักหนา
