17
“ข้าวก็กำลังจะไปทำงานอยู่นี่ไงคะ”
“รู้เหรอว่าต้องไปทำอะไร”
“เดี๋ยวถามเปียกเอาก็ได้”
“ไอ้เปียกมันเป็นเจ้าของไร่หรือไง” เพลิงกระแทกเสียงอย่างหงุดหงิดคำก็เปียกสองคำก็เปียก ไอ้ติงต๊องนั่นมันมีดีอะไรว่า ขนาดเขานอนด้วยทั้งคืนยังสู้มันไม่ได้ เพลิงคิดพาลไปถึงลูกน้องคนสนิท
“แล้วคุณเจ้าของไร่จะให้ข้าวทำอะไรล่ะคะ”
“ตามฉันมานี่” เพลิงพูดจบก็เดินอาด ๆ ไปที่รถ ยัยเด็กบ้านี่ช่างหาเรื่องกวนอารมณ์ได้ทุกวันสิน่า
ข้าวหอมยิ้มกริ่มแอบแลบลิ้นใส่หลังคนเจ้าอารมณ์แล้วซอยเท้าตามไปติด ๆ
เพลิงพาเรือนร่างสูงใหญ่เดินนำข้าวหอมขึ้นไปบนอาคารไม้สักหลังเล็กกะทัดรัดซึ่งปลูกยกพื้นบรรยากาศร่มรื่นท่ามกลางต้นไม้ใหญ่และดอกกล้วยไม้หลากหลายพันธุ์เกาะกับต้นไม้เป็นพุ่มใหญ่ด้วยฝีมือคน แรกเห็นก็ประทับใจถ้าได้ทำงานที่นี่ก็คงจะดีแต่หญิงสาวจะยังไม่เซ้าซี้สงวนท่าทีมิเช่นนั้นอาจจะชวดได้ง่าย ๆ
พอเข้ามาด้านในจึงได้เห็นโต๊ะทำงานวางอยู่สามชุดและห้องใหญ่ด้านในซึ่งก็น่าจะ เป็นของเจ้าของไร่อย่างพี่เพลิง.....ชายหนุ่มพาข้าวหอมเข้าไปหยุดที่หน้าโต๊ะตัวใหญ่ ในขณะที่เจ้าของโต๊ะสาวสวยเงยหน้าละสายตาจากหน้าจอพอดี
“สวัสดีจ้ะเพลิง พาใครมาด้วยน่ะ” หญิงสาวเอ่ยทักคนที่เคยเป็นเพื่อนสนิทมากและเป็นเจ้านายในตอนนี้..….ถึงแม้อายุจะรุ่นราวคราวเดียวกับเจ้าของไร่หนุ่มเพราะจบการศึกษามาพร้อมกันแต่หล่อนยังแลดูอ่อนเยาว์กว่าหลายปีเพราะการดูแลตัวเองอย่างพิถีพิถันจนเป็นประจำ
“สวัสดีพิม.......ฝากเด็กฝึกงานหน่อยครับ”
ข้าวหอมไม่แปลกใจที่อีพี่เพลิงไม่แนะนำหล่อนกับใครเหมือนจงใจบอกให้รู้ว่าไม่ให้ความสำคัญ...เชอะ...อยากจะแกล้งให้ช้ำใจตายกันให้ได้ใช่ไหม..แล้วอย่ามาง้อทีหลังก็แล้วกัน หญิงสาวได้แต่จดบัญชีแค้นเอาไว้เงียบ ๆ
“ได้สิ.....ให้เริ่มที่อะไรก่อนดีเอ่ย”สาวสวยแลดูปราดเปรียวเหลือบมองข้าวหอมนิดเดียวก่อนจะหันกลับไปพูดคุยยิ้มแย้มแจ่มใสกับชายหนุ่มอย่างสนิทสนม
“แล้วแต่พิมเลยครับ....ไปก่อนนะ” เพลิงบอกเสียงอ่อนก่อนจะกลับลงไปโดยไม่หันมาพูดอะไรกับคนเป็นเมียที่ยืนหัวโด่เด่สักคำ
“สวัสดีค่ะพี่พิม....ข้าวหอมฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ” หญิงสาวยกมือไหว้พร้อมทั้งแนะนำตัวเองเสร็จสรรพให้เกียรติอีกฝ่ายที่อายุมากกว่า.....หล่อนรู้สึกอึดอัดอย่างบอกไม่ถูก ถึงแม้ว่าใบหน้าของอีกฝ่ายจะระบายยิ้มตลอดเวลาแต่แววตาของพี่พิมยามที่แลมาดูแข็ง ๆ ชอบกล...เฮ้อ...แกไม่ใช่คนคิดมากนี่นาข้าวหอมหญิงสาวสลัดความคิดนั้นออกไปอย่างรวดเร็ว
“สวัสดีค่ะ ทำอะไรเป็นบ้างล่ะ...เอ...พี่ว่าเรานั่งจัดแฟ้มไปก่อนดีกว่านะ” พิมรู้ข่าวตั้งแต่เมื่อวาน..... คนงานพูดกันทั่วไร่ว่านายเพลิงมีเมียเด็ก.....เด็กคนนี้ก็หน้าตาน่ารักดี เพลิงถึงได้คิดผูกปิ่นโตยาวหน่อยล่ะมั้ง....หญิงสาวเข้าใจเอาเองว่าอย่างนั้นเพราะชายหนุ่มก็ไม่ได้แนะนำนี่ว่าหล่อนเป็นใครให้ทำงานง่าย ๆ น่าจะเหมาะสมแล้วเพราะคนแบบนี้น่าจะถนัดใช้เรือนร่างมากกว่าสมองอยู่แล้ว
ข้าวหอมยอมทำตามที่หล่อนบอกอย่างไม่อิดออดเอาไว้ค่อยขยับขยายก็แล้วกัน เพราะพี่พิมคนนี้เหมือนจะอัธยาศัยดีไม่มีอะไร....แต่...แต่อะไรก็ไม่รู้เหมือนกัน..สงสัยวิญญาณเมียหลวงเข้าสิงหรือไงวะข้าวหอมคิดขำ ๆ........
อีกครึ่งชั่วโมงต่อมา.....สาวหน้าอ่อนนามว่าบัวตองซึ่งน่าจะเป็นคนพื้นเพแถวนี้ หญิงสาวเข้ามาพร้อมกับทักทายสวัสดีพี่พิมและส่งรอยยิ้มสดใสให้กับคนมาใหม่ก่อนจะเดินเข้ามาใกล้ ๆ
“เธอเพิ่งเข้ามาทำงานใหม่หรือจ๊ะ....เราชื่อบัวตองนะ” ด้วยความอยากรู้ บัวตองจึงขยับมาใกล้ ๆ พร้อมกับแนะนำตัวเอง
“ข้าวหอมจ้ะ...ยินดีที่รู้จักบัวตองนะ” ข้าวหอมยิ้มให้รู้สึกสนิทใจกว่าพี่พิมเสียอีก...หล่อนแอบเปรียบเทียบในใจ
“เราเป็นเพื่อนกันนะข้าวหอม แล้วนี่พักที่ไหนจ๊ะไปพักกับเราไหม บัวตองอยู่กับพี่เปี๊ยกแค่สองคนบ้านกว้างกว่าของคนงานคนอื่นน่ะ เพราะพี่ชายเราเป็นคนสนิทของเจ้านาย” บัวตองเอ่ยอย่างมีน้ำใจ ในขณะเดียวกันก็แสดงถึงความภูมิใจในตัวพี่ชาย
“แหม...ยัยบัวตองไม่ต้องห่วงเขาหรอกจ้ะ ข้าวหอมเขาอยู่กับนายเพลิง” พิมพูดขึ้นมาอย่างหมั่นไส้
