บท
ตั้งค่า

15

“ยะ...อย่าค่ะ” ดวงตากลมโตเบิกโพลงพร้อมกับเอ่ยห้ามปากคอสั่น….

“เฮ้อ...เสียดาย..นึกว่าจะได้แก้ผ้าตรวจดูสินค้าชัด ๆ เสียหน่อย” ชายหนุ่มทำท่าเสียดายแต่ก็ลุกขึ้นนั่งและติดกระดุมเสื้อคืนให้ด้วยท่าทางนุ่มนวลต่างจากวาจาร้าย ๆ นั่นลิบลับ

“ไปล้างหน้าล้างตาซะ...ฉันจะออกไปรอที่รถ”

“จะไปไหนคะ”

“เดี๋ยวก็รู้......หรือไม่อยากไปก็มาต่อกันให้จบ ๆ”

“ไปค่ะไป” ข้าวหอมกระวีกระวาดลุกขึ้นไปข้างนอกก็ยังดีกว่าถูกกลั่นแกล้งอยู่ที่นี่ ทั้งเครียดทั้งเกร็งจนปวดหัวไปหมด

“ชักช้าไม่ได้เรื่อง”

ทันทีที่เปิดประตูรถขึ้นมาก็โดนต้อนรับด้วยวาจาร้าย ๆ ก็พุ่งเข้ามารับหน้า ทั้งที่ข้าวหอมรีบสุด ๆ แล้ว ถ้าเร็วกว่านี้ก็ต้องเร็วกว่าแสงแล้วล่ะ....เฮอะ...อยากโขกสับก็ตามสบายถ้าไม่คลุกวงในข้าวหอมสู้ตายจ้า...หัวใจสาวกลับมาเริงร่าอีกครั้งหลังจากรอดปากเหยี่ยวปากกามาได้

“เราจะไปไหนกันหรือคะ” หญิงสาวลองถามอีกครั้ง

“..................” เพลิงไม่ตอบเขาก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมถึงได้คิดจะทำสิ่ง นี้หรืออาจจะเป็นเพราะน้ำตาเป็นเผาเต่านั่นก็ได้...บ้าชะมัด..มึงอย่ามาทำเป็นใจอ่อนไม่ได้ นะไอ้เพลิงชายหนุ่มได้แต่ปรามตัวเองที่นับวันยิ่งจะควบคุมยากขึ้นทุกที

สองหนุ่มสาวต่างนั่งกันมาเงียบ ๆ จนกระทั่งถึงตัวเมืองเชียงราย เพลิงขับรถเข้าจอด เทียบหน้าร้านขายจักรยาน ซึ่งเป็นร้านใหญ่โตกินพื้นที่ถึงสี่คูหา ข้าวหอมเห็นแล้วยิ้มร่ารีบ ตามสามีลงไปทันทีโดยไม่ต้องรอให้เขาบอกเมื่อเห็นชายหนุ่มเดินดุ่ม ๆ เข้าไปภายในร้านราวกับคุ้นเคยดี….

ข้าวหอมชะงักเท้าเมื่อเห็นหญิงสาวขาวหมวยสวยอึ๋มเกาะแขนสามีของตัวเองโดยที่เขาก็ไม่คิดปัดป้องทั้งที่มากับหล่อนแท้ ๆ ถึงจะไม่ได้รักก็อดขวางหูขวางตาไม่ได้รอยยิ้มเต็มหน้าพลันหายวับทำท่าจะหันหลังกลับแต่ก็โดนเรียกไว้เสียก่อน

“จะรีบไปไหน”

“ไปรอที่รถค่ะ” เสียงที่ตอบแม้จะมีหางเสียงแต่ก็แข็งสะท้อนอารมณ์คนพูดได้ดี

“รอที่นี่แหละ” หากมีใครสักคนสังเกตดี ๆ จะเห็นรอยยิ้มนิด ๆ กับดวงตาฉายแววพึงใจบนใบหน้าเคร่งของเพลิงก่อนจะเลือนหายไปกลายเป็นเฉยชาดังเดิม

“พี่เพลิงซื้อจักรยานไปให้ใครหรือคะ หรือว่าเด็กในไร่” หญิงสาวปรายตามองเหยียด ๆ ไปที่ผู้หญิงที่มากับพี่เพลิงของหล่อนอย่างไม่ค่อยชอบใจนัก......หลินเป็นลูกสาวเจ้าของร้านที่แอบชอบชายหนุ่มอย่างนายเพลิงเจ้าของไร่แสงจันทร์อันโด่งดังมาหลายปี ตั้งแต่นมเพิ่งเริ่มจะตั้งเต้าก็ว่าได้ จนกระทั่งตอนนี้หล่อนอุตส่าห์เรียนจนจบจากมหาวิทยาลัยด้วยเกรดที่ย่ำแย่แค่หวังให้เขามองเห็นคุณค่าแต่จนแล้วจนรอดก็ยังไม่มีอะไรคืบสายตาที่เขามองมาไม่ต่างจากเมื่อหลายปีก่อน

ชายหนุ่มไม่ตอบ เขาเดินไปมองจักรยานสีสวยที่ตั้งเรียงรายเป็นแถวซึ่งน่าจะเหมาะกับผู้หญิงมากกว่า........ ข้าวหอมมองตามแล้วลืมความขุ่นข้องหมองใจชั่วขณะ คิดว่าเขาต้องซื้อให้หล่อนแน่ ๆ หล่อนกวาดตามองตั้งแต่คันแรกถึงคันสุดท้ายก่อนจะเดินเข้าไปยืนจ้องจักรยานสีชมพูตาเป็นมัน

“ชอบคันนี้เหรอ”

เพลิงหันมาถามเรียบ ๆ ในขณะที่แขนอีกข้างก็ยังมียัยหลินเด็กแก่แดดเกาะเอาไว้แน่นหนึบอย่างกับตุ๊กแกตัวเมีย

“ค่ะ” ข้าวหอมลืมตัวพยักหน้ารัว ๆ ดวงตาเป็นประกายไม่ปิดบัง

“งั้นพี่เอาคันนี้” เพลิงหันไปบอกกับหลินลูกสาวเจ้าของร้าน

“.......”

ความเงียบเข้าปกคลุมทั่วบริเวณนั้นมีเพียงหลินเท่านั้นที่ยิ้มหน้าบานจัดการทุกอย่าง ให้พร้อมส่วนลดพิเศษ ดูหล่อนช่างสุขใจเหลือเกิน

หลังจากใช้เวลาอยู่ในร้านไม่นาน รถจักรยานสีเขียวมะนาวคันกะทัดรัดก็ถูกยกขึ้น มาไว้บนท้ายกระบะเรียบร้อย......แต่คนที่นั่งด้านหน้าคู่กับคนขับกลับทำหน้างอง้ำอย่างไม่ สบอารมณ์รู้ทั้งรู้ว่าอะไรเป็นอะไร แต่ดันพลาดได้ไงวะ....ข้าวหอมเจ็บใจตัวเอง

“คันนี้” ของหล่อนกับ”คันนี้” ของเขาคนละสีกัน...เฮ้อ...ลืมไปจริง ๆ ....หล่อนนึกถึงก่อนหน้านี้ที่เดินตามสามีเข้าไปในร้านเพียงแค่เขาถามว่าชอบจักรยานคันนี้เหรอ หล่อนก็ตอบไปโดยไวไม่ทันยั้งคิดว่าสีชมพู...ฮึ...แล้วผลเป็นยังไง....อีพี่หมีดันชี้เอาสีเขียว มะนาวที่หล่อนเกลียดเอามาก ๆ เสียด้วย...ฮึ่ย.....น่าเจ็บใจนักและยิ่งช้ำหนักที่ยังโดนยัยตุ๊กแกตัวเมียเยาะเย้ยเอาได้อีก.......

“มีปัญหาอะไรนักหนา ไม่พอใจอะไรอีก” เพลิงจำได้ว่ายัยตัวเล็กชอบหรือไม่ชอบสีอะไร แต่ครั้งนี้เขาไม่แน่ใจว่าหล่อนโกรธเรื่องอะไรกันแน่

“เปล่านี่คะ”

“แต่หน้าเธอมันฟ้อง”

“อะไรจะรู้ลึกรู้จริงขนาดนั้น หรือว่าพี่เพลิงตั้งใจแกล้งคะ”

“ไร้สาระ” คล้ายจะผิดหวังนิดหน่อยเมื่อสาเหตุไม่ได้มาจากหลิน.....เขาจะหวังอะไรเมื่อทำกับเจ้าหล่อนขนาดนั้น

“ไหน ๆ จะทำดีทั้งทียังจะแกล้งกันอีก” หญิงสาวบ่นอุบอิบไม่นึกว่าคนข้าง ๆ จะได้ยิน

“ฉันไม่ได้ซื้อให้เธอ”

“ห๊ะ.....อย่าบอกนะคะว่าพี่เพลิงซื้อมาใช้เอง” โดนแกล้งเรื่องสีนี่ก็ว่าหนักแล้ว ยังจะต้องมาเก้อเพราะละเมอไปเองว่าเขาซื้อให้อีกเหรอเนี่ย

“เปล่า......ฉันแค่สงสารไอ้เปียกมัน ที่ถูกคนใจร้ายกลั่นแกล้งให้วิ่งตามรถจักรยานกลางวันแสก ๆ” เพลิงบอกเรียบเรื่อยเดาไม่ออกเหมือนเคยว่าพูดจริงหรือพูดเล่น

“ข้าวไม่ได้ตั้งใจให้เปียกทำแบบนั้นนะคะ”

“เธอจะพูดยังไงก็ได้ แต่การกระทำมันฟ้องอยู่ทนโท่”

ข้าวหอมนิ่งเงียบ พูดไปก็เจ็บคอเปล่า ๆ อยากจะแกล้งอะไรอีกก็เชิญ...ฮึ....หญิงสาวกอดอกหันหน้ามองข้างทางเลิกสนใจคนใจร้ายอีกต่อไป

เพลิงปรายตามองคนข้าง ๆ ที่เงียบไปอย่างขัดใจ ไม่เข้าใจตัวเองว่าทำไมถึงได้ชอบต่อปากต่อคำกับหล่อน ทั้งที่ปกติแค่พูดเขายังไม่อยากพูดหากไม่จำเป็น

“ไอ้เปียกมึงมาเสนอหน้าทำไมที่นี่” ทันทีที่เพลิงจอดรถ สิ่งแรกก็ด่าลูกน้องระบายความหงุดหงิดก่อนเป็นอันดับแรก

“ผมเอาของมาให้นางฟ้า..เอ้ย...นายหญิง” ชายร่างยักษ์ส่งยิ้มกะลิ้มกะเหลี่ย

“อะไรของมึง”

“เห็ดโคน” เปียกชูถุงเห็ดที่อัดแน่นเกือบเต็มถุงให้นายเพลิงดู เหมือนจะอวดนิด ๆ

“เอาไปทิ้งเลยไอ้ห่า...เปียก...กูขอสั่งห้ามเลยนะ ต่อไปนี้มึงไม่ต้องไปสรรหาอะไรมาให้เมียกูกิน แล้วถ้ามึงไม่อยากตายก็ทิ้งเห็ดเมาพวกนี้ไปซะ” เพลิงอยากจะเตะมันสักป๊าบแค่มองปราดเดียวก็รู้แล้วว่ามันกินไม่ได้ ไอ้เวรนี่ช่างขยันหาเรื่องจริง ๆ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel