บท
ตั้งค่า

12

“เชิญจ้า...หมอดูแม่น ๆ ดูฟรีมีค่าครูแค่ห้าสิบเก้าบาทเองจ้า.....” เปียกร้องชักชวนเสียงอ่อนเสียงหวานในขณะที่ตัวเองก้มหน้าก้มตานับเงินในมือซึ่งอัดแน่นไปด้วยธนบัตรในละยี่สิบนับไปยิ้มไปดีใจนักหนา บังเอิญสายตาของเปียกสะดุดเข้ากับรองเท้าหนังกลับสีน้ำตาลเข้มของลูกค้ารายใหม่ที่มาหยุดยืนอยู่ตรงหน้า....จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก.......

“นะ....นาย....มาแล้วหรือจ๊ะ” เปียกยิ้มแฉ่งอวดฟันเว้นวรรค

“มึงพาเมียกูมาทำอะไรที่นี่....ห๊ะ....” เพลิงถามเสียงต่ำพลางมองไปด้านหลังที่อยู่สุดมุมด้านใน......จึงได้เห็นคนที่ตั้งตัวเป็นแม่หมอดูทำนายทายทักคนงานสาว ๆ ที่กำลังถามไถ่กันอย่างกระตือรือร้น

“โธ่นาย.......นายหญิงทายแม่นอย่างกับตาเห็น เราจะรวยกันใหญ่แล้วนะนาย” เปียกชูเงินในมือโบกไปมาข้างหน้าคนเป็นนายท่าทางภูมิอกภูมิใจเสียเหลือเกิน แถมยังรวมตัวมันกับนายเข้าเป็นเราได้หน้าตาเฉย

“ไอ้เปียก !” เพลิงโกรธจนรู้สึกเหมือนแก้วหูลั่นเปรี๊ยะ....ข้าวหอมกับไอ้เปียกตกลงใครชวนใครกันแน่วะ

“นายก็....งานที่แปลงมะเขือเทศเสร็จแล้วเปียกทำแป๊บเดียวก็เสร็จจ้ะ” องครักษ์พิทักษ์นายหญิงยืดอกบอกอย่างภูมิใจ

“กูให้มึงคุมคนอื่นทำ ไม่ใช่ให้มึงทำเองมึงฟังคำสั่งไม่รู้เรื่องหรือไงวะ”

“เปียกแค่สาธิตวิธีถอนหญ้าให้นายหญิงดูแป๊บเดียวก็หมดแปลงแล้วนี่จ๊ะ....ไม่เหลือให้นายหญิงถอนเลยจ้ะ....เปียกก็เลยพาขี่จักรยานมาที่นี่” เปียกอธิบายเจื้อยแจ้ว

“มึงว่าอะไรนะไอ้เปียก” คราวนี้สายตาของคนเป็นนายวาวโรจน์ เพราะจักรยานของไอ้เปียกไม่มีเบาะนั่งซ้อน ถ้ามาสองคนก็ต้องนั่งข้างหน้า.....ฮึ่ย....คิดแล้วหงุดหงิด ยัยเด็กบ้านี่คิดยังไงถึงได้กล้านั่งในอ้อมแขนไอ้เปียกมาที่นี่ผู้คนเยอะแยะคงได้นินทากันสนุกปาก....

“นายหูตึงเหรอจ๊ะ” เปียกก้าวเข้ามาใกล้ชะเง้อดูหูของผู้เป็นนายด้วยความห่วงใยกระทั่งไอ้เปี๊ยกต้องมาดึงตัวออกไปเพราะเห็นเจ้านายใบหน้ามืดครึ้มใกล้ระเบิดเต็มที

“ไอ้เปียก...มึงนี่มันพิเรนทร์คนจริง ๆ มึงขี่จักรยานพานายหญิงมาได้ยังไงคันนิดเดียว” เปี๊ยกทนไม่ไหวเห็นนายเพลิงหน้าตึงเปรี๊ยะสติคงใกล้จะขาดผึงเต็มที

“นายหญิงเป็นคนขี่ ส่วนข้าวิ่งตามเป็นองครักษ์โคตรเท่ห์เลยว่ะไอ้เปี๊ยก”

“ฟู่ววววววววววว.....” เพลิงเป่าลมออกจากปากโล่งใจอย่างบอกไม่ถูก จากนั้นจึงเดินเข้าไปหากลุ่มสาว ๆ ที่พอเงยหน้ามาเห็นนายเพลิงก็แตกฮือต่างคนต่างเดินเลี่ยงกลับเข้าครัวเหลือไว้แต่แม่หมอคนสวยที่ส่งเสียงร้องเรียกลูกค้าไว้คอแทบแตกแต่ก็ไม่มีใครรั้งรออยู่ต่อสักคนไม่เหมือนก่อนหน้านี้ที่เบียดเสียดยื้อแย่งกันเข้ามาให้เธอทำนายทายทัก หลังจากหล่อนแกล้งทักแม่สมพรแม่ครัวใหญ่ว่าระวังสามีจะมีเล็กมีน้อย...เท่านั้นแหละ คำว่าแม่นอย่างกับตาเห็นก็ถูกกระจายไปอย่างรวดเร็วไม่ต่างกับอุปาทานหมู่ พอมีช่วงเวลาว่างนิด ๆ หน่อย ๆ ถึงได้แย่งกันมาให้หล่อนดูดวงกันเป็นแถวทั้งที่ข้าวหอมก็มีความรู้นิด ๆ หน่อย ๆ แต่ใช้จิตวิทยาเสียมากกว่า

“อ้าว...พี่เพลิงอยากดูดวงด้วยหรือคะแต่ต้องรบกวนไปจ่ายค่าครูก่อนนะคะ” แม่หมอเลิกคิ้วกลั้นยิ้มแก้มแทบแตกที่เห็นพี่หมียักษ์กำลังโกรธเกรี้ยวอย่างหนักหัวฟัดหัวเหวี่ยง

“กลับบ้าน” ชายหนุ่มเค้นเสียงลอดไรฟัน

“พี่เพลิงรีบเหรอคะ......เดี๋ยวข้าวกลับกับเปียกก็ได้ค่ะ แหม....ธุรกิจกำลังไปได้สวยเชียว” หญิงสาวส่งยิ้มยั่วทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้กับหน้าตาเหมือนกาต้มน้ำที่ใกล้จะเดือดเต็มทีอีกนิดเดียวก็ควันออกหูแล้ว.....ยิ่งเห็นยิ่งสะใจอารมณ์ดีเป็นพิเศษ.......

“ไปคุยในรถ” เพลิงกดเสียงต่ำ อย่างไรเสียหล่อนก็เป็นเมีย.....ป่านนี้ไอ้เปียกมันคงป่าวประกาศให้รู้กันทั่วไร่แล้วมั้งดังนั้นเขาจะทำอะไรตามใจตัวเองนักก็ไม่ได้ .....แต่เพลิงก็ไม่ใจเย็นพอที่จะรอให้หล่อนมัวโยกโย้เล่นลิ้น จึงคว้าข้อมือเล็กกึ่งลากกึ่งจูงออกไปที่รถพอไปถึงก็จับเธอยัดเข้าไปไม่มีความนุ่มนวลสักนิด แต่ข้าวหอมยังมีแก่ใจลดกระจกลงมาเหมือนไม่รู้สึกรู้สา...เพื่อเอ่ยลาบรรดาเพื่อนใหม่ ๆ

“พรุ่งนี้เจอกันนะปียก...ไปล่ะ” หญิงสาวโบกไม้โบกมือให้คู่หู พลางส่งยิ้มหน้าระรื่นแถมยังเผื่อแผ่รอยยิ้มไปให้สาว ๆ ในครัวซึ่งแต่ละนางก็โบกมือตอบกลับมาด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มเช่นกัน

“นายหญิงรักษาเนื้อรักษาตัวดี ๆ นะครับระวังหมียักษ์ตะปบหัว” เปียกไม่วายเตือนนายสาวด้วยความเป็นห่วงเหราะหล่อนบอกว่าหมียักษ์แถวบ้านดุ

“ไอ้เปียก.....มึงไม่ต้องเสือ...ก” เพลิงหมั่นไส้ไอ้ติงต๊องนี่เต็มทีด่ามันก็ไม่เคยกลัวเพราะเขาไม่เคยทำมันจริง ๆ สักที

“นายก็อีกคน ดูแลนายหญิงของเปียกดี ๆ ด้วยล่ะ”

“ไม่ต้องห่วงนะเปียก...พี่หมีขี้โมโหคงไม่กล้ามากวนฉันแล้วล่ะ” ข้าวหอมยิ้มกว้าง

“เดี๋ยวค่ะนาย อย่าเพิ่งไป” ป้าพรหัวหน้าแม่ครัวพาร่างอุ้ยอ้ายวิ่งตุบตับมาที่รถพร้อมกับส่งถุงใส่น้ำพริกเผาให้นายหญิง......เพราะเมื่อกลางวันนายสาวหน้าตาจิ้มลิ้มมากินข้าวที่โรงอาหารของคนงาน แล้วถูกใจน้ำพริกเผารสเด็ดของนางนอกจากเอ่ยชมไม่ขาดปากแล้วยังกินข้าวตั้งสองจานกินไปเป่าปากไปน่าเอ็นดูจริง ๆ ......นางพรยิ้มหน้าบานถึงกับลงมือตำน้ำพริกครกใหม่เอาใจนายหญิงเพื่อให้เอากลับไปกินที่บ้าน.......

“ขอบคุณนะคะป้าพร...เห็นแล้วหิวข้าวอีกแล้วสิ” ข้าวหอมยิ้มแป้นพลางคลำท้องกลม ๆ ของตัวเองเพราะเมื่อกลางวันซัดเข้าไปจนเต็มกระเพาะ

ชายหนุ่มปรายตามองการกระทำของข้าวหอมแล้วหงุดหงิดใจ .....เจ้าหล่อนเข้ามาที่นี่ไม่ทันไรทำไมใคร ๆ ถึงได้ทำราวกับรู้จักสนิทสนมรักใคร่ยัยแม่มดกันขนาดนี้วะ...ทีกับเขากลับทำเป็นกลัวจนหัวหด นอกจากไอ้เปี๊ยกกับไอ้เปียกที่เป็นเหมือนเพื่อนกันมาแต่เด็กแล้วคนอื่น ๆ ไม่ค่อยมีใครอยากเข้าใกล้

ข้าวหอมหันมาชื่นชมน้ำพริกเผาในมือไม่สนใจว่าคนที่นั่งขับรถจะอยู่ในอารมณ์ไหน จะจุดไฟเผาใจตัวเองก็เรื่องของเขาสิ คนแบบนี้สามารถหาเรื่องร้อนรุ่มกลุ้มใจได้ตลอดเวลานั่นแหละ เรื่องเล็กเรื่องใหญ่ทำเป็นโมโหโกรธาเสียทั้งหมด

“กล้าดียังไงถึงได้ทำตัวเป็นพวกสิบแปดมงกุฎในไร่ฉัน” เพลิงถามเสียงเครียด

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel