บท
ตั้งค่า

11

ข้าวหอมโหนตัวขึ้นมานั่งบนรถกระบะยกสูงที่คนหน้าตูมทำหน้าที่ขับรถเข้ามาในไร่อย่างเงียบเชียบ ไม่มีการพูดคุยกันแม้แต่คำเดียวแต่ข้าวหอมหาได้สนใจไม่ หญิงสาวเปิดกระจกยื่นหน้ายื่นตาท้าลมหนาว ชื่นชมการสรรค์สร้างแบ่งแปลงปลูกพืชที่ลงตัวกับธรรมชาติเป็นที่สุด สองข้างทางมีพืชเมืองหนาวหลายชนิดทั้งผักและผลไม้ เมื่อรถขับลึกเข้าไปด้านในหล่อนเห็นมีอาคารหลังใหญ่โต.....

ป้ายเขียนว่าศูนย์ทดลองอะไรสักอย่างอ่านไม่ทัน กำลังดูเพลิน ๆ รถก็มาจอดหน้าโรงเรือนขนาดย่อมพอมองเข้าไปถึงได้รู้ว่าข้างในปลูกมะเขือเทศ และยังมีถัดไปอีกหลายโรงซึ่งเริ่มมีคนงานทยอยเข้ามาแต่ก็บางตาเพราะยังไม่ถึงเวลาทำงาน

“ลงไปสิ” เพลิงบอกเสียงเรียบ

“คะ?” ข้าวหอมงง ว่าเขาให้หล่อนลงไปทำอะไร

“คิดว่าฉันพาเธอมานั่งรถเล่นหรือไง” ชายหนุ่มถามเสียงเข้ม

“อ๋อ....ค่ะ” หญิงสาวเปิดประตูรถลงไปอย่างว่าง่าย ทีแรกหล่อนคิดว่าเขาจะให้ช่วยงานเอกสารที่สำนักงานซึ่งหล่อนน่าจะทำประโยชน์ได้มากกว่าอยู่ที่แปลงมะเขือเทศนี่.....คงตั้งใจแกล้งกันสินะ...เชอะ... รู้จักข้าวหอมน้อยไปแล้ว อย่าให้ได้ประกาศศึกกับใครจากสาวหวานปานกุหลาบสีชมพูแรกแย้ม หล่อนจะปล่อยหนามแหลมออกมาทันที….

เพลิงลงจากรถกวักมือเรียกลูกน้องคนสนิทเพื่อมาสั่งงาน ไอ้เปียกรีบวิ่งแจ้นนำหน้าเข้ามาอย่างไวเมื่อแลเห็นนางฟ้าที่มันถ่ายคลิปไว้ได้เมื่อวันก่อน

“ไอ้เปียกมึงคอยดูคนถอนหญ้าด้วย”เพลิงสั่งเสียงเข้มพลางลอบมองหน้าคนปากเก่งดูสิจะทำยังไงเมื่อเขาไม่ยอมแนะนำว่าหล่อนคือนายหญิงของไร่แสงจันทร์แต่กดให้ต่ำไม่ต่างกับคนงานคนหนึ่ง

“หะ...ห๊า...นางฟ้า” เปียกยิ้มแฉ่งยืนบิดไปมาหน้าตาแดงก่ำ....อยู่ต่อหน้านางฟ้าตัวเป็น ๆ.....มันคิดเข้าข้างตัวเองว่านายคงจะพามาคืนให้แน่ ๆ หลังจากที่ลบคลิปไปไม่บอกไม่กล่าว

“ไอ้เปียก ! เป็นอะไรของมึง” เพลิงตะคอกเมื่อเห็นอากัปกิริยาของลูกน้องก็ให้เบื่อหน่ายซ้ำร้ายคนที่น่าจะหน้างอง้ำกลับยิ้มหวานให้กับลูกน้องของเขาเสียอีก

“เขินอ่ะ....” หนุ่มไม่ค่อยเต็มเต็งบอกอย่างอาย ๆ

“สวัสดีครับนายหญิง” เปี๊ยกรีบเดินตามมาถึงทีหลังยกมือไหว้ข้าวหอมทันควัน เพราะวันนั้นมันเป็นคนคอยรับส่งหมอทัพพ์และอยู่แถวนั้นถึงได้รู้ว่าผู้หญิงคนนี้เป็นเมียของนายแต่ก็แปลกใจทำไมถึงไม่ได้อยู่บ้านใหญ่กับเจ้านาย

“นายหญิง !...เอ่อ...นายหญิง ข้าน้อยสมควรตาย” ไอ้เปียกเหวอทำหน้าเหมือนจะเบะปากร้องไห้....ก่อนจะทรุดลงนั่งคุกเข่าก้มหน้าผากแตะพื้นรัว ๆ .........

“ไอ้เปียกมึงลงไปทำไม ลุกขึ้นมาถ้าไม่อยากโดนกระทืบ” เพลิงด่าลูกน้อง สงสัยพักนี้มันจะดูหนังมากไปหน่อย...แต่ดูเอาเถอะมันฟังเขาเสียที่ไหน ทำเหมือนไม่ได้ยินมันน่ากระทืบให้จมดินจริง ๆ

“ไม่เป็นไรหรอกเปียก....ลุกขึ้นเถอะจ้ะ” ข้าวหอมบอกเสียงอ่อนโยน หล่อนรู้สึกถูกชะตากับความใสซื่อปนตลกของหนุ่มร่างยักษ์ สงสัยโดนเจ้านายดุจนเพี้ยนถึงได้พูดจาทำท่าทางแปลก ๆ ตัวใหญ่โตน่าจะรุ่นราวคราวเดียวกับพี่เพลิงด้วยซ้ำแต่ท่าทางเหมือนเด็กน้อย

“ขอบคุณคร๊าบบบนางฟ้า...เอ้ย..นายหญิง” เปียกลุกขึ้นยิ้มแฉ่ง

“ไอ้เปี๊ยกมึงไปกับกู” นายหนุ่มบอกเสียงขุ่นคลั่กเห็นแล้วขัดใจหมั่นไส้ไอ้ลูกน้องกบฏขืนอยู่นานกว่านี้คง ได้กระทืบมันเข้าให้จริง ๆ

“เอ่อ...นายจะทิ้งนายหญิงไว้กับไอ้เปียกจริง ๆ เหรอครับ” เปี๊ยกท้วงติงเบา ๆ

เพลิงไม่ตอบรีบกลับขึ้นรถอย่างหัวเสียเป็นผลให้เปี๊ยกต้องหุบปากเพื่อความปลอดภัยรีบวิ่งตามก่อนที่ระเบิดจะลง

ข้าวหอมมองตามท้ายรถด้วยสายตาเจ้าเล่ห์ก่อนจะหันมายิ้มกับเปียกที่พอเห็นนายหญิงขยันยิ้มให้ก็ได้แต่ก้มหน้าถูมือตัวเองอย่างขัดเขิน

13.30 น.

“นาย ไม่กลับไปดูนายหญิงจริง ๆ เหรอครับ” เปี๊ยกเอ่ยถามเจ้านายแบบนี้ทุกครึ่งชั่วโมงตั้งแต่ก่อนเที่ยง จนกระทั่งเลยเที่ยงไปนานแล้วเจ้านายของเขาก็ทำเป็นไม่สนใจยังยืนมองแปลงดินโล่ง ๆ ทั้งที่รถไถทำงานเสร็จไปตั้งนานแล้ว

“ทำไมไอ้เปี๊ยก มึงจะห่วงเมียกูทำไมนักหนา” เพลิงถามอย่างหงุดหงิดทำไมใคร ๆ ก็ทำเหมือนอยู่ข้างยัยนั่นกันหมดวะ

“ผมเกรงว่าไอ้เปียกมันจะชักชวนนายหญิงทำอะไรแผลง ๆ” เปี๊ยกบอกตามตรง

“ทำอะไร”

“นายก็รู้ว่าคนอย่างไอ้เปียกมันทำแต่ละอย่างมักไม่มีใครคาดถึง”

เพลิงคิดตามความรู้สึกร้อนรุ่มที่เก็บซ่อนไว้ในอกจากที่คิดว่าจะไม่สนใจก็เริ่มเป็นห่วงจนทนไม่ไหวเขาจึงขับรถกลับไปอย่างเร่งด่วน

“เฮ้ย...ไอ้เปี๊ยก มึงดูให้ดีสิหายกันไปไหนหมด” เพลิงขับรถมารับข้าวหอม ทีแรกตั้งใจจะทิ้งหล่อนเอาไว้ที่นี่สักหนึ่งวันให้สมกับความอวดดี..... คอยดูสิว่าจะมีปัญญาหาข้าวกินเองได้ไหม แต่ไอ้เปี๊ยกมันเร่งให้เขากลับมารับมิหนำซ้ำยังพูดให้คิดในทางดี ๆ ไม่ได้เลยจนเขาเริ่มจะคล้อยตาม แต่พอมาถึงแล้วมองไม่เห็นคนทั้งคู่ในโรงเรือนก็รู้สึกร้อนรุ่มกลัวจะเป็นเหมือนที่ไอ้เปี๊ยกมันว่าจริง ๆ ทั้งคู่รีบวิ่งเข้าไปดูในโรงเรือนไม่มีใครอยู่แล้วจริง ๆ

“ไอ้เวรเปียก” เพลิงสบถออกมาอย่างหัวเสีย

“โทรหานายหญิงดีไหมนาย” เปี๊ยกลองโทรหาเปียกแล้วแต่มันไม่รับจึงเสนอให้ผู้เป็นนายโทรหากันเอง

“ช่างเถอะ...” ชายหนุ่มบอกปัด เขาจะโทรหาหล่อนได้ยังไงในเมื่อไม่มีเบอร์โทรศัพท์ขืนพูดไป ได้โดนหัวเราะเยาะแน่ ๆ

เพลิงขับรถมาถึงโรงอาหาร เขาเห็นกลุ่มคนงานยืนมุงอยู่มุมหนึ่ง แต่พอเข้าไปใกล้ก็เห็นมีแต่บรรดาผู้หญิงที่ทำงานในโรงครัว ส่วนคนงานอื่น ๆ คงแยกย้ายกันไปทำงานหมดแล้ว

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel