บท
ตั้งค่า

บทที่ 7

รินนารานั่งรอเจ้าของบ้านอยู่ในห้องนั่งเล่น ฆ่าเวลาด้วยการหยิบหนังสือจากชั้นตรงมุมห้องมานั่งอ่าน จนกระทั่งนาฬิกาแขวนผนังบอกเวลาหนึ่งทุ่มเศษ ป้ามะลิเห็นสภาพที่ยังคงดูเหนื่อยล้าของหญิงสาว จึงคะยั้นคะยอให้เลิกรออาชาและรับประทานมื้อค่ำก่อนเสียเลย เพื่อที่จะได้ขึ้นไปอาบน้ำพักผ่อนข้างบน

ส่วนเรื่องธุระที่จะต้องคุยกันนั้น เอาไว้วันพรุ่งนี้ก็ยังไม่สาย หญิงสาวจึงเริ่มต้นมื้อสุดท้ายของวันตามลำพังในห้องอาหาร จากนั้นก็แยกขึ้นไปพักผ่อนในห้องที่สาวใช้เตรียมไว้ให้

รินนารานั่งลงบนเตียง เสมองชุดนอนกระโปรงสีขาวแบบแขนยาว แต่ชายกระโปรงสั้นระดับเข่าที่วางอยู่ตรงปลายเตียงนอน พร้อมด้วยข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็น ก่อนจะคว้ามันหายเข้าไปในห้องน้ำ อาบน้ำสระผมที่เหนียวหนึบจากการขึ้นเรือตากลม ให้กลับมาเรียบสลวยเช่นเดิม ตั้งใจว่าเสร็จแล้วจะลงไปข้างล่างเพื่อรอพบอาชาอีกครั้ง เธอไม่อยากให้ธุระที่ต้องการพูดค้างคาอยู่ในใจนานนัก

ร่างงดงามในชุดนอนสุภาพตามที่เจ้าของบ้านสั่งให้เตรียมไว้ เอ่ยขอบคุณเมื่อสาวใช้นามว่าคะนิ้งนำนมอุ่นมาให้ในห้องนั่งเล่น ตามคำสั่งของหัวหน้าแม่บ้านอย่างป้ามะลิ สีหน้าท่าทางของเจ้าหล่อนดูจะไม่ค่อยชอบใจการมาของรินนารานัก สังเกตได้ไม่ยากจากใบหน้าที่บูดบึ้ง และคอยมองค้อนอยู่เกือบตลอดเวลา หญิงสาวไม่รู้หรอกว่าตัวเองทำอะไรให้คะนิ้งไม่พอใจ แต่นั่นไม่ใช่เรื่องที่จะต้องกังวล เพราะหลังจากพรุ่งนี้ไปก็คงไม่มีเหตุผลต้องพบหน้ากันอีกแล้ว

เสียงรถยนต์ที่แล่นเข้ามาจอด ทำให้รินนารารีบวางแก้วนมลงบนโต๊ะตรงหน้า หัวใจดวงน้อยเต้นแรงไม่เป็นส่ำ รู้สึกเหมือนมีระเบิดเวลาอยู่ข้างใน มันพร้อมจะระเบิดได้ทันทีที่พบหน้าเขา ไม่เข้าใจเหมือนกันเหตุใดจึงต้องประหม่านัก ที่รู้ๆ ตอนนี้แม้แต่มือไม้ก็ยังเกะกะไปหมด ไม่รู้ว่าต้องทำหน้าอย่างไร หรือวางตัวแบบไหนให้ดูเป็นธรรมชาติ ต้องยอมรับโดยดุษณีทีเดียวว่ามันยากเสียเหลือเกินกับการควบคุมตัวเอง เมื่อกำลังจะได้พบหน้าคนที่คุ้นเคย และฝันมาตลอดว่าสักวันหนึ่งคงได้พบกันอีก

“นายมาถึงแล้วค่ะ คุณรินนาราไปรอข้างในห้องทำงานเลยดีกว่านะคะ เชิญตามป้ามาทางนี้เลยค่ะ” ป้ามะลิเดินเข้ามาบอก ใบหน้าเปื้อนยิ้มอ่อนโยนนั่นทำให้หญิงสาวอุ่นใจได้มากโข เธอรับคำเสียงแผ่ว เบามากเสียจนแทบไม่ได้ยิน ป้ามะลิยิ้มอีกครั้งอย่างนึกเอ็นดู ก่อนจะเดินนำไปยังห้องทำงานที่นายหนุ่มมักใช้เป็นที่คุยธุระส่วนตัวอย่างรู้หน้าที่

อาชาเดินเข้ามาในบ้านด้วยท่าทางเหนื่อยหน่าย โชคดีที่นักท่องเที่ยวที่หลงป่าหายไปไม่ได้รับอันตรายอะไร เขากับทีมค้นหาออกติดตามอยู่หลายชั่วโมง สุดท้ายจึงไปพบอยู่ที่ชายป่าแห่งหนึ่งในสภาพเมามายพูดจาแทบไม่รู้เรื่อง ดังนั้นทุกอย่างจึงไม่ใช่ความผิดของทางรีสอร์ต แต่เป็นความคึกคะนองส่วนตัวที่เขาไม่ได้มีหน้าที่รับผิดชอบใดๆ

คะนิ้งเห็นชายหนุ่มกลับมาก็รีบตรงเข้าไปพะเน้าพะนอ โชติที่เดินตามมาด้วยกันแอบทำหน้าล้อเลียน เบ้ปากใส่ด้วยความหมั่นไส้ อาชารู้มาตลอดว่าคะนิ้งรู้สึกอย่างไรกับเขา แต่เขาไม่คิดจะสนใจ ไม่เคยแม้แต่จะชายตามอง ไม่ใช่เพราะว่าเธอเป็นแค่สาวใช้ แต่มันเป็นเพราะเขาไม่ได้คิดอะไรเกินเลยด้วย

“เป็นยังไงบ้างคะนาย เหนื่อยไหมคะ แล้วหานักท่องเที่ยวคนนั้นเจอหรือเปล่า” คนถามจีบปากจีบคอพูด

“เจอแล้ว ทุกอย่างเรียบร้อยดี” ชายหนุ่มตอบเสียงเรียบ ดึงมือที่เกาะแกะอยู่ตรงแขนให้ออกห่าง “แล้วนี่แขกของฉันกินข้าวหรือยัง ตอนนี้เธออยู่ที่ไหน” สิ่งสนใจแรกของเขาคือสาวสวยที่มาเยือนเกาะเภาในฐานะแขก ความจริงข้อนี้ทำเอาคนที่ยืนอยู่ข้างตัวทำหน้างอง้ำในทันที

“เรียบร้อยแล้วแหละค่ะ ความจริงขึ้นข้างบนไปแล้วด้วย แต่พออาบน้ำแต่งตัวเสร็จก็ลงมาข้างล่างอีก...ไม่รู้จะลงมาทำไม ไหนว่าเมาเรือหนัก ทำไมไม่รีบนอนก็ไม่รู้” คะนิ้งรายงาน พร้อมบ่นกระปอดกระแปดในท้ายประโยค

“ระวังปากหน่อยคะนิ้ง คุณรินนาราไม่ใช่คนที่เธอจะมาพูดจาลามปามได้” การออกโรงปกป้องของอาชา ทำเอาสาวใช้ที่ไร้ความเจียมตัวถึงกับหน้าเสีย

โชติลอบทำหน้าตาล้อเลียนอีกครั้ง ก่อนที่ป้ามะลิจะปรากฏตัวขึ้น สีหน้าของนางเต็มไปด้วยความพึงพอใจ ที่เมื่อครู่ได้ยินว่าชายหนุ่มตำหนิคะนิ้งเรื่องแขกสาวคนสวย

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel