บท
ตั้งค่า

บทที่ 6

“ดูท่าคุณคงต้องค้างคืนที่นี่เสียแล้ว”

“คงต้องแบบนั้นค่ะ ไม่มีทางเลือกอื่นแล้วนี่นา”

เธอยิ้มเศร้า ก่อนจะหันซ้ายหันขวาเพื่อหากระเป๋าสะพาย ตั้งใจจะโทรบอกดวงยิหวาว่ามีความผิดพลาดเกิดขึ้น ทำให้ไม่อาจไปขึ้นเครื่องตอนสองทุ่มได้ทัน จำเป็นต้องค้างที่เกาะเภาก่อนสักคืน แล้วพรุ่งนี้ค่อยจัดการหาตั๋วเครื่องบินเพื่อกลับกรุงเทพใหม่

“หากระเป๋าอยู่สินะคะ มันไม่อยู่แล้วล่ะ นายให้นังคะนิ้ง สาวใช้ที่เรือนใหญ่มาเอาไปเก็บไว้ที่ห้องใหม่ให้แล้วค่ะ”

“ห้องใหม่?”

“ใช่ค่ะ นายอยากให้คุณไปพักบนเรือนใหญ่ ไม่ใช่ที่เรือนรับรองนี่ ตอนแรกนายก็มาที่นี่เพื่อจะอุ้มคุณไปพักที่เรือนใหญ่แทน แต่พอเห็นคุณดูหน้าซีดมากก็เลยบอกว่าไม่อยากรบกวน กลัวว่าจะทำให้คุณตื่นค่ะ” หลังคำบอกเล่าของพริ้มจบสิ้นลง หัวใจคนฟังก็เต้นรัวอย่างประหลาด

นี่หมายความว่าเจ้าของเกาะเภาพบหน้าเธอแล้ว โดยที่เธอยังไม่มีโอกาสได้พบหน้าเขาเลยอย่างนั้นน่ะหรือ แม้จะรู้สึกถึงความน่าเสียดายและไม่เท่าเทียม แต่หญิงสาวก็บอกตัวเองว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่ สุดท้ายเธอก็จะได้พบหน้าเขาตามที่ปรารถนาอยู่แล้ว คิดแล้วก็อดตื่นเต้นไม่ได้ ไม่รู้ว่าจากหลายปีที่ผ่านมา ชายหนุ่มที่เธอเคยคุ้นเคยจะเปลี่ยนแปลงไปมากเพียงใด

“คุณหิวอะไรเป็นพิเศษไหมคะ เดี๋ยวจะได้บอกคนที่เรือนใหญ่ช่วยเตรียมให้ เพราะอีกครู่ก็จะได้เวลารับประทานมื้อเย็นแล้ว นายบอกว่าจะรอคุณค่ะ” พริ้มเอ่ยถาม เมื่อเห็นอีกฝ่ายนั่งนิ่งเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่

“เอ่อ ไม่เป็นไรหรอกค่ะคุณพริ้ม ฉันทานอะไรก็ได้ทั้งนั้นค่ะ” รินนาราเกรงใจ แล้วก็ไม่ใช่คนช่างเลือกนัก

“คุณพงคุณพริ้มอะไรกันคะ เรียกพี่พริ้มก็ได้ค่ะ

“ได้ค่ะพี่พริ้ม” เธอรับคำอย่างว่าง่าย

“พี่อายุสามสิบสองแล้วค่ะ ดูแล้วคุณน่าจะยี่สิบต้นๆ ใช่ไหมคะ”

“เพิ่งครบยี่สิบห้าเมื่อเดือนที่แล้วนี่เองค่ะ” สาวสวยตอบยิ้มๆ

“แหม สวยแล้วยังหน้าเด็กอีกนะคะเนี่ย น่าอิจฉาจัง” พริ้มแสร้งมองด้วยท่าทางริษยา แล้วหัวเราะร่วน แต่ก่อนที่สองสาวจะทันได้คุยอะไรกันอีก เจตน์ก็เปิดประตูเข้ามาข้างในเสียก่อน ชายหนุ่มลอบมองรินนารา ดวงตาเป็นประกายร้ายกาจ รู้สึกร้อนวูบวาบและตื่นตัวชอบกล แอบคิดอยู่ในใจว่าผู้หญิงอะไรหนอ ช่างสวยสะกดใจจนแทบบ้าได้ถึงขนาดนี้

“มีอะไรหรือเจตน์?” หญิงสาวผู้พี่หันไปถาม

“มีเรื่องด่วนน่ะพี่พริ้ม นายกับพี่โชติต้องไปอีกฝั่ง มีนักท่องเที่ยวคนหนึ่งหลงป่าหายไป เลยให้ผมมาบอกพี่พริ้มว่าให้พาคุณรินนาราไปที่เรือนใหญ่ก่อน ถ้าหกโมงเย็นแล้วนายยังไม่มา ให้เริ่มมื้อเย็นก่อนเลย ไม่ต้องรอ” แม้จะเอ่ยกับพริ้ม แต่สายตาของเจตน์กลับจ้องมองดวงหน้างามของรินนาราไม่มีลดละ ดูจาบจ้วงและไร้มารยาทสิ้นดี

แรกๆ หญิงสาวก็ยิ้มตอบอย่างใสซื่อ แต่ท่าทางอีกฝ่ายทำให้อึดอัดอย่างอธิบายไม่ได้ เธอจึงเลือกผินหน้าไปทางอื่นแทน แสร้งทำเป็นมองสำรวจห้องพักบ้าง ก้มลงมองพื้นบ้าง เพราะไม่รู้ว่าควรทำตัวอย่างไรกับคนที่จ้องมองเธออย่างเอาเป็นเอาตายแบบนี้

“ถ้าคุณรินนาราดีขึ้นแล้ว พี่จะพาไปเอง เจตน์มีอะไรก็ไปทำเถอะ”

“ผมว่างพี่ ไม่มีอะไรต้องทำแล้ว” ชายหนุ่มสั่นหน้าปฏิเสธทันควัน ยอมทำตัวเสียมารยาท ขอเพียงได้เห็นหน้าคนสวยอีกสักนิดก็พอใจแล้ว

พริ้มไม่ได้ปล่อยให้เขาสมหวัง บ่อยครั้งที่เจตน์ชอบทำตัวรุ่มร่ามกับนักท่องเที่ยวสาวสวย หากฝ่ายหญิงเล่นด้วยก็ไม่มีใครว่ากล่าวอะไรได้ เพียงแค่ขอให้ทำอะไรอยู่ในขอบเขต แต่สำหรับรินนาราที่ถือเป็นแขกคนสำคัญของนาย มันคงไม่ดีแน่ถ้าพริ้มจะปล่อยให้เจตน์ทำตามอำเภอใจ

“ว่างนักก็ไปช่วยนายตามหานักท่องเที่ยวที่หลงป่าสิ จะมาวุ่นวายแถวนี้ทำไม หรือจะให้พี่บอกนายว่าแกทำตัวเสียมารยาทกับคุณรินนารา” คำเตือนของพริ้ม ทำเอาเจตน์ถึงกับหน้าเสีย

ความไม่พอใจแล่นขึ้นมาเป็นริ้ว หลังจากโดนหักหน้าต่อหน้าคนที่เขาถูกใจ แต่คำขู่ที่ว่าจะฟ้องเจ้านายอยู่เหนือความต้องการทั้งปวง ต่อให้อยากอยู่ตีสนิทกับรินนาราแค่ไหน เขาก็ต้องล่าถอยก่อนด้วยความจำใจ

“ขอโทษแทนเจตน์มันด้วยนะคะ มันชอบทำตัวรุ่มร่ามกับผู้หญิงสวยๆ ตลอดเลย” พริ้มหันมาขอโทษขอโพย

“ไม่เป็นไรค่ะ” หญิงสาวส่ายหน้าเป็นเชิงบอกว่าไม่คิดถือสาอะไร

อย่างไรก็ตาม พริ้มเห็นควรว่ารินนาราควรระวังตัวให้ดี แม้จะพักค้างคืนที่นี่แค่เพียงคืนเดียว คนอย่างเจตน์นั้นใช่ย่อยเสียที่ไหน เรื่องฉุดผู้หญิงมาทำเมียดังกระฉ่อนไปทั่วเกาะ ผู้เป็นนายทำแค่เพียงตักเตือนคาดโทษ ยังไม่จัดการขั้นเด็ดขาด เพราะป้ามะลิซึ่งเป็นทั้งแม่ของเจตน์ และเป็นคนที่อาชาเคารพเสมือนญาติผู้ใหญ่ ได้ขอร้องเอาไว้ว่าไม่ให้ใช้วิธีรุนแรง แต่ถ้าวันใดที่เจตน์สร้างเรื่องร้ายแรงขึ้นอีก

ทุกคนรู้ดีว่าอาชาจะไม่เห็นแก่หน้าใครอีกแล้ว...

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel