บท
ตั้งค่า

บทที่ 5

“งั้นก็แล้วไป” ผู้เป็นนายสงบลงกว่าเดิม “พาเธอมาพักที่นี่ดีกว่า อยู่ที่เรือนรับรองมันไกลหูไกลตาเกินไป เดี๋ยวให้ป้ามะลิกับคะนิ้งจัดห้องไว้ให้ ฝากนายไปบอกแทนด้วยแล้วกัน ฉันอยากเคลียร์งานนี้ให้เสร็จ ก่อนที่จะต้องคุยกับแขกคนสำคัญอย่างจริงจัง” รอยยิ้มพึงพอใจแต่งแต้มขึ้นบนริมฝีปากหยักลึกได้รูป โชติลอบยิ้ม รู้สึกถึงความผิดปกติบางอย่าง เห็นทีธุระของอาชากับสาวสวยหยาดเยิ้มคนนั้น คงไม่ธรรมดาเสียแล้ว เพราะสิ่งที่แสดงออกจากแววตา ช่างดูมีความหมายมากมายเหลือเกิน

“ได้สิครับ เดี๋ยวผมจะบอกป้ามะลิกับนังคะนิ้งเตรียมห้องหอ เอ้ย! ห้องพักให้แขกคนสวยของนายอย่างด่วนที่สุดเลยครับผม” คนสนิทแสร้งพูดผิด ด้วยความเข้าใจว่าธุระที่เจ้านายบอกว่าต้องคุยกับรินนารา คงไม่พ้นเรื่องใต้สะดือเหนือหัวเข่าเป็นแน่ ใครๆ ก็รู้ว่าอาชาไม่ธรรมดา ควงผู้หญิงไม่เคยซ้ำหน้า ไม่ว่าจะสาวไทยหรือต่างชาติ พ่ออาชาม้าหนุ่มคนนี้ก็ฟาดเรียบมาจนนับไม่ถ้วนแล้ว เพียงแต่ไม่เคยมีคำสั่งให้พามาที่เรือนใหญ่แบบนี้

“ไอ้โชติ!” ชายหนุ่มดุเสียงดัง

“ผมขอตัวก่อนแล้วกันนะครับ เชิญนายนั่งยิ้ม เอ้ย! นั่งเคลียร์งานต่อตามสบายเลยครับ” พูดแล้วโชติก็แทบต้องวิ่งออกจากห้องไป เพราะเจ้านายคว้าแฟ้มเอกสารชูขึ้นเป็นเชิงต้องการประทุษร้าย น่าเสียดายที่ประตูปิดลงตามหลังเสียก่อน เขาจึงอดสั่งสอนคนปากมาก

คล้อยหลังโชติแล้ว อาชาก็กระตุกยิ้มที่มุมปาก เวลาที่ผ่านไปนานหลายปี คงทำให้รินนาราแทบลืมเขาไปจากความทรงจำ ต่างจากเขาเองที่ไม่เคยสลัดภาพเด็กสาววัยละอ่อนให้ออกไปจากสมองได้เลย ความน่ารักบริสุทธิ์ของเธอ ยังคงตราตรึงอยู่ในความรู้สึกของเขา

การที่เขาเสนอกับดวงยิหวาว่าต้องการให้เธอมาหาถึงเกาะเภา แทนที่จะเจรจาธุระกันผ่านทางโทรศัพท์ นั่นก็เพราะอยากเห็นสิ่งที่เคยเป็นความสุขในวัยเด็กของเขาอีกสักครั้ง หลายปีมานี่เขาไม่ได้รู้อะไรเกี่ยวกับเธอมากนัก ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเธอมีคนรักแล้วหรือยัง แต่อีกไม่นานนี้แหละที่เขาจะได้คำตอบ

เด็กหญิงรินนาราที่น่ารัก เมื่อกลายเป็นนางสาวแล้วจะน่ากินแค่ไหนกันนะ...

รินนาราขยับตัวไปมาอย่างกระสับกระส่าย ครางเสียงต่ำในลำคอที่ตอนนี้กำลังแห้งผาก นอกจากอาการเวียนศีรษะจะยังไม่ทุเลาแล้ว ยังคลื่นไส้พะอืดพะอมไม่หายอีก เมื่อความรู้สึกมวนท้องคล้ายกับลำไส้ถูกบีบเกิดขึ้น ร่างบางก็สะดุ้งพรวดลุกจากเตียง คิดว่าตัวเองคงอาเจียนอีกแน่ แต่ก็เปล่า ดูเหมือนว่าจะไม่มีสิ่งใดในท้องหลงเหลือให้ขย้อนออกมาอีกแล้ว

“เป็นยังไงบ้างคะคุณรินนารา” เสียงพริ้มดังขึ้นด้วยความเป็นห่วง

“เวียนหัวแล้วก็คลื่นไส้มากเลยค่ะ” ว่าพลางยกนิ้วเรียวขึ้นคลึงขมับตัวเองเบาๆ

“จิบยาหอมนี่หน่อยเถอะค่ะ รับรองว่ามันจะช่วยให้ดีขึ้นแน่ สูดกลิ่นก่อนค่อยดื่มนะคะ”

“ขอบคุณค่ะ” หญิงสาวบอกขณะรับยาหอมจากมืออีกฝ่ายมาจ่อที่ปลายจมูก สูดกลิ่นหอมของสมุนไพรให้สดชื่นขึ้นก่อนจะยกมันขึ้นจิบ แม้จะให้รสที่เฝื่อนและขมน้อยๆ แต่มันก็ทำให้หายคลื่นไส้ได้อย่างประหลาด ฉะนั้นเธอจึงไม่ลังเลที่จะยกมันขึ้นจิบต่อไปเรื่อยๆ ก่อนจะนึกถึงเรื่องที่ต้องโทรศัพท์บอกดวงยิหวาทันทีที่มาถึงเกาะเภา

“นี่ฉันหลับไปนานแค่ไหนแล้วคะ?”

“หลายชั่วโมงเลยค่ะ ตอนนี้จวนจะห้าโมงเย็นแล้ว”

“ตายจริง!” รินนาราอุทาน

”เป็นอะไรไปคะ” พริ้มเห็นหญิงสาวทำท่าตกอกตกใจก็พลอยเป็นกังวลตามไปด้วย

“เล่นเผลอหลับไปนานมากขนาดนี้ ฉันก็คงกลับไปขึ้นเครื่องไม่ทันแล้วน่ะสิคะ” ดวงหน้างามหม่นเศร้าลงทันตา

“มันก็ไม่น่าจะทันตั้งแต่แรกแล้วล่ะค่ะ คุณมาถึงสนามบินก็สิบโมงเช้าแล้ว ไหนจะขึ้นรถไปที่ท่าเรือ แล้วขึ้นเรือข้ามมาที่เกาะอีก ใช้เวลาไปตั้งหลายชั่วโมงแน่ะ เรามาถึงที่นี่ก็จวนจะบ่ายสองแล้วนะคะ อีกอย่างถ้ามืดค่ำแล้ว นายไม่ให้เอาเรือข้ามฝั่งหรอกค่ะ ยกเว้นมีเหตุสุดวิสัยจริงๆ"

“ทำไมหรือคะ?” คิ้วเรียวได้รูปเลิกขึ้นสูงเป็นเชิงไม่เข้าใจ

“นายกลัวเรื่องอุบัติเหตุค่ะ เวลากลางคืนที่นี่จะคลื่นแรงจนน่ากลัว ถ้าขับเรือไม่เก่งจริง มีโอกาสสูงค่ะที่จะไปแล้วไม่ได้กลับมาอีก ที่ผ่านมามีพวกขัดคำสั่งกลายเป็นผีเฝ้าทะเลไปหลายคนแล้วเหมือนกัน พวกคนงานแหกคอกที่อยากข้ามฝั่งไปใช้บริการ...ผู้หญิงอย่างว่าน่ะค่ะ” พริ้มเล่าให้ฟังถึงเหตุผลที่ผู้เป็นนายไม่อนุญาตให้คนออกจากเกาะยามวิกาล

“แย่จัง นี่ถ้าไม่เมาเรือแล้วก็หลับไปนานขนาดนี้ คิดว่าคุยธุระเสร็จก็น่าจะกลับไปขึ้นเครื่องทัน แต่ที่แย่กว่านั้นคือยังไม่ได้โทรบอกคุณแม่เลยค่ะว่ามาถึงนานแล้ว ท่านต้องเป็นห่วงมากแน่ๆ” รินนาราชี้แจง การหลับลึกได้ขนาดนี้ ไม่ใช่เพราะการเมาเรือเพียงอย่างเดียว แต่เธอนอนไม่หลับก่อนเดินทางด้วย ร่างกายจึงอ่อนเพลียกว่าปกติ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel