บท
ตั้งค่า

บทที่ 20

สุดท้ายร่างสูงกำยำก็เลือกเดินแยกเข้าไปในส่วนของห้องทำงาน หยิบแฟ้มเอกสารขึ้นมาเปิดอ่านคร่าวๆ ก่อนจะไล่สายตามองดูภาพจากกล้องวงจรปิด พบว่ามันว่างเปล่า ไม่มีสิ่งใดน่าสนใจ เขาเกือบจะหันหลังกลับออกไปอยู่แล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะเห็นภาพคะนิ้งปรากฏขึ้นบนหน้าจอเสียก่อน คิ้วหนาได้รูปขมวดมุ่นด้วยความประหลาดใจ

คนที่ไม่รู้ตัวว่ากำลังถูกจับตามองอยู่ หันซ้ายหันขวาอย่างร้อนรน แล้วเอื้อมมือไปลองหมุนลูกบิดประตูดูเบาๆ รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าเมื่อพบว่ามันไม่ได้ถูกล็อกเอาไว้

อาชาคิดว่าคะนิ้งคงต้องการเข้าไปข้างในห้องเก่าของรินนาราเพื่อทำอะไรบางอย่าง แต่ผิดคาด เธอไม่ได้ทำอย่างที่เขาคิด แต่รีบเดินไปชะโงกหน้าอยู่ตรงบันได แล้วกวักมือเรียกใครอีกคนให้ขึ้นมาสมทบ

ซึ่งคนๆ นั้นก็คือเจตน์นั่นเอง…

สองหนุ่มสาวยืนคุยกันอยู่ตรงหน้าห้องครู่หนึ่ง แล้วเจตน์ก็เปิดประตูเข้าไปโดยมีคะนิ้งคอยอยู่ข้างนอก อันที่จริงต้องเรียกว่าดูต้นทางเสียมากกว่า เพราะเธอหันซ้ายแลขวาดูมีพิรุธเต็มที่

อาชานิ่วหน้าด้วยความไม่พอใจ ยังคงยืนสังเกตต่อไปเงียบๆ เพียงอึดใจเดียวเจตน์ก็เปิดประตูกลับออกมา เขามีท่าทีหัวเสียอย่างหนัก คะนิ้งเองก็ดูจะหงุดหงิดผิดหวังไม่ต่างกัน

สิ่งที่เห็นให้คำตอบแก่อาชาค่อนข้างชัดเจน ชายหนุ่มหมุนตัวเดินตรงไปยังประตูห้องนอน กระชากมันเปิดออกด้วยอารมณ์กรุ่นโกรธ แล้วก้าวอาดๆ ตรงไปยังห้องนอนเก่าของภรรยา

เจตน์กับคะนิ้งหน้าถอดสีกันทั้งคู่ ก่อนจะแสร้งทำเป็นคุยกันอย่างออกรส หวังจะกลบเกลื่อนความมีพิรุธ ถ้าไม่ใช่เพราะได้เห็นพฤติกรรมทุกอย่างจากกล้องวงจรปิดมาก่อนแล้ว อาชาอาจจะหลงกลเอาได้เหมือนกัน

“คงจะผิดหวังมากใช่ไหม...ที่เมียฉันไม่ได้อยู่ในห้องนี้แล้ว” ผู้เป็นเจ้าของบ้านเปิดประเด็นทันที ดวงตาสีเข้มเหมือนจะดูเข้มขึ้นไปอีกจากพิษของความโกรธ

“นายพูดเรื่องอะไรครับ?” เจตน์ตีหน้าซื่อ ทำเป็นไม่เข้าใจ

“นั่นสิคะนาย คะนิ้งกับพี่เจตน์แค่ทักทายกัน ไม่เห็นจะเกี่ยวอะไรกับเมียนายเลย” แม่สาวใช้ตัวแสบจีบปากจีบคอผสมโรงด้วยอีกคน

“นายหญิง! เธอต้องเรียกรินนาราว่านายหญิง” อาชาตะคอกแล้วก้าวเข้ามาประชิดตัวในทันที มือใหญ่บีบแน่นอยู่ที่ต้นแขนของสาวใช้ จนเจ้าหล่อนต้องนิ่วหน้าด้วยความเจ็บปวด

ปกติเขาไม่เคยคิดจะถูกเนื้อต้องตัวเธอเลย แต่คราวนี้มันเหลืออดแล้วจริงๆ “แต่ถ้าทำไม่ได้ ฉันก็คงให้เธออยู่ที่นี่ต่อไปไม่ได้เหมือนกัน สาวใช้ที่ไม่มีสัมมาคารวะ ไร้ความเคารพต่อเจ้านาย ไม่สมควรอยู่บนเรือนใหญ่อีกต่อไป” ใบหน้าของชายหนุ่มดุดันเสียจนคะนิ้งไม่กล้าสบตาด้วย

“นาย...กำลังเข้าใจผิดนะคะ” กระนั้นก็ยังไม่วายอ้อมแอ้มเถียง

“ฮึ! เข้าใจผิดงั้นหรือ ช่างเป็นคำแก้ตัวที่ฟังง่ายดีจังเลยนะ” เขากระตุกยิ้มเย้ยหยัน พร้อมปล่อยมือออกห่าง “ฉันยืนดูเธอกับไอ้เจตน์มาสักพักแล้ว คนหนึ่งดูลาดเลา อีกคนหายเข้าไปในห้อง มันมีให้คิดอยู่แค่สองอย่างเท่านั้น อย่างแรกคือนัดกันมาขโมยของ อย่างที่สอง...เป็นหูเป็นตาให้ไอ้เจตน์เข้าไปทำร้ายเมียฉัน...เหมือนอย่างที่ทำเมื่อคืนนี้ไง!”

”ไม่ใช่แบบนั้นนะครับนาย นายเข้าใจผิดแล้วครับ” เจตน์แก้ตัวทั้งที่ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะหาข้ออ้างอะไรมาอธิบาย

“ถ้าสิ่งที่ฉันเห็นเต็มสองตามันคือเรื่องเข้าใจผิด แกก็พูดออกมาสิว่าไอ้พิรุธที่ฉันเห็นมันคืออะไร!”

“ผม...คือผม...” คนถูกจับได้อ้ำอึ้งและหน้าซีดเผือด

“พูดมา!” อาชาขู่ตะคอกเสียงดังขึ้นกว่าเดิม สองมือกระชากคอเสื้อเจตน์มากำไว้แน่น

“ผม...ผมยอมรับผิดครับนาย!” เจตน์สารภาพออกมาในที่สุด “แต่ผมไม่ได้จะยุ่งอะไรกับนายหญิงนะครับ แล้วเมื่อคืนผมก็ไม่ใช่คนทำร้ายนายหญิงด้วย คือ...ผมกับคะนิ้งเราชอบพอกัน เราก็เลยนัดกันจะมาพลอดรักที่นี่ คะนิ้งบอกว่านายหญิงย้ายไปนอนห้องนายแล้ว ห้องนี้ว่างแล้วก็ไม่มีใครกล้าเข้ามายุ่ง เราสองคนเลย…”

“คิดจะใช้ห้องบนเรือนใหญ่เป็นที่สมสู่กันงั้นน่ะหรือ?” อาชาแทรกขึ้นด้วยน้ำเสียงที่บ่งบอกชัดเจนว่าคาดไม่ถึง ความโกรธแล่นขึ้นมาเป็นริ้ว และเขาก็ระบายมันด้วยการปล่อยหมัดลุ่นๆ ลอยหวือเข้าไปปะทะตรงข้างแก้มเจตน์เต็มแรง

ร่างสูงของคนที่ยังไม่ทันได้ตั้งตัว เสียหลักเซไปกระแทกประตูห้อง คะนิ้งร้องอุทานด้วยความตกใจ รีบถอยกรูดออกห่างไปทันที ไม่กล้าเข้าไปยุ่งวุ่นวายกับเจตน์อีก เพราะกลัวว่าตัวเองจะพลอยโดนหางเลขไปด้วย

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel