บท
ตั้งค่า

บทที่ 16

“ปะ...เปล่าค่ะ ฉันตัดสินใจไปแล้ว” คราวนี้เธอเงยหน้าขึ้นสบตากับเขาตรงๆ บีบมือตัวเองแน่นเพื่อข่มกลั้นความรู้สึกมากมายในอก

“ตัดสินใจว่า...” เขาเว้นวรรคอย่างรอคอย

“ตัดสินใจตกลงที่จะแต่งงานค่ะ ฉันยินดีรับข้อเสนอของคุณ” คำตอบนี้ทำเอาชายหนุ่มอยากยิ้มจนแก้มปริ แต่จำเป็นต้องวางมาดให้นิ่งขรึมเข้าไว้ ใครจะอยากให้เธอรู้กันเล่า ว่าเขาอยากได้เธอเป็นเมียเสียจนแทบขาดใจ

“ถ้าฉันอยากขอให้เราแต่งงานกันแบบเรียบง่าย ไม่ต้องมีพิธีรีตองอะไรเลย คุณอาชาคิดว่ายังไงคะ” ประโยคต่อมาทำให้เขาขมวดคิ้วอย่างแปลกใจ

“เหตุผลล่ะ?” ชายหนุ่มอยากรู้เหตุผลของสิ่งที่เธอเอ่ยถาม

ผู้หญิงทุกคนย่อมต้องการพิธีแต่งงานที่สมบูรณ์แบบ และอยากเป็นเจ้าสาวที่สวยที่สุดกันทั้งนั้น การที่เธอจะได้แต่งงานกับเศรษฐีหนุ่มอายุน้อย ซึ่งเป็นถึงเจ้าของเกาะใหญ่อย่างเกาะเภา สาวสวยน้อยใหญ่ต่างก็พากันจับตามอง ร่ำร้องอยากให้เขาเลือกไปเป็นเจ้าสาวกันทั้งนั้น แต่ในเมื่อเขาตัดสินใจเลือกเธอแล้ว เธอย่อมสมควรได้รับสิ่งที่เหมาะสมที่สุด นั่นคือการจัดพิธีวิวาห์ที่ใหญ่โตอลังการ และเป็นที่เลื่องลือในวงสังคมไม่ใช่หรือ

“ฉันไม่อยากให้เกิดความสิ้นเปลืองค่ะ แค่ค่าสินสอดสิบล้านบาท มันก็มากมายเกินความจำเป็นแล้ว อีกอย่าง...เราสองคนก็ไม่ได้แต่งงานด้วยความรักเหมือนคู่รักอื่นๆ ฉันเลยอยากให้มันเป็นไปอย่างเรียบง่ายที่สุด คุณดวงเองก็ไม่มีอะไรขัดข้อง เหลือแต่คุณอาชานี่แหละค่ะ...ที่ฉันต้องการทราบความเห็น”

“ไม่อยากให้มีงานเลี้ยงเลยด้วยหรือ” อาชาไม่อยากเชื่อเลยว่าจะมีผู้หญิงมักน้อยแบบนี้หลงเหลืออยู่บนโลก

“ใช่ค่ะ ไม่ต้องมีพิธีแต่งงาน ไม่ต้องมีงานเลี้ยงฉลอง” หญิงสาวยืนยันความคิดเดิม จริงอยู่ที่การได้สวมชุดเจ้าสาวและกลายเป็นผู้หญิงที่สวยที่สุดในพิธีวิวาห์ คือความใฝ่ฝันของผู้หญิงแทบทุกคน เธอเองก็เคยวาดฝันไว้แบบนั้น แต่มันไม่ใช่ในกรณีนี้ นี่เป็นการแต่งงานเพื่อใช้หนี้ และต้องร่วมเรียงเคียงหมอนกับผู้ชายที่ไม่ได้มีใจให้กัน เธอไม่อยากให้พิธีที่สมควรเต็มไปด้วยความรักอันบริสุทธิ์ ต้องมากลายเป็นเพียงแค่การจัดฉากชีวิตของเขาและเธอ

“ถ้างั้นเราแค่จดทะเบียนสมรสกันง่ายๆ ที่อำเภอก็พอ” อาชาสรุปในที่สุด ไม่ว่าเธอต้องการสิ่งใด เขาก็ยินดีทำให้ด้วยความเต็มใจ “ไม่ให้จัดพิธีแต่งงาน พี่ก็จะตามใจ แต่ลูกหนูจะมาห้ามไม่ให้พี่สวมแหวนลงบนนิ้วนางข้างซ้ายไม่ได้หรอกนะ”

“ค่ะ” เป็นเพียงคำสั้นๆ ที่เขามักได้ยินจากปากเธอเสมอ

“ลุกไหวไหม เราจะได้จัดการทุกอย่างให้มันเรียบร้อยวันนี้เลย” เขาถาม

“คะ?”

“ก็จดทะเบียนสมรสกันไง จัดการมันที่เกาะนี่เลยดีกว่า ไม่ต้องไปข้ามฝั่งไปที่อำเภอให้มันยุ่งยากหรอก ลูกหนูมีอะไรจะขัดข้องไหมคะ” ไม่รู้เหมือนกันว่าอะไรที่ทำให้เขาใจร้อนได้ถึงเพียงนี้ รู้แต่เพียงว่าอยากมีสิทธิ์ในตัวรินนาราให้เต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นทางนิตินัยหรือพฤตินัยด้วยก็ตาม

“เอ่อ...ไม่ค่ะ ไม่มี”

“ดีค่ะ งั้นเดี๋ยวพี่จะส่งโชติไปรับนายอำเภอมาที่นี่ แล้วให้พริ้มมาช่วยเปลี่ยนเสื้อผ้านะ แต่งตัวสวยๆ ล่ะ เพราะเราต้องถ่ายรูปคู่กันตอนจดทะเบียนสมรสด้วย”

ใบหน้าของเขานิ่งเฉย ขรึมเป็นที่สุด ทำให้เดายากว่ากำลังคิดอะไรอยู่ตอนที่จ้องหน้าเธอ ความประหม่าทำให้เธอต้องก้มลงมองมือตัวเองราวกับกลัวว่ามันจะหนีหายไปอีกครั้ง ชายหนุ่มลอบยิ้ม ตัดสินใจรวดเร็วที่จะใช้จังหวะนั้นชะโงกหน้ามาจุมพิตเบาๆ บนหน้าผากเรียบเนียน แล้วลุกเดินออกจากห้องไปทันที

รินนาราอ้าปากค้างด้วยความตกใจ ความรู้สึกจากหนวดของเขายังคงชัดเจนอยู่ตรงหน้าผาก มือเล็กยกขึ้นแตะมันแล้วหัวใจก็พลันเต้นแรง นี่แค่จูบหน้าผาก ยังทำเอาสติเธอกระเจิดกระเจิงได้ขนาดนี้ แล้วถ้าเขาใช้สิทธิ์จากทะเบียนสมรสแตะต้องเนื้อตัวเธอเล่า

หัวใจดวงน้อยจะไม่กระโจนออกมากองข้างนอกเลยหรอกหรือ!

ดวงยิหวาเองก็แปลกใจมากที่อาชาต้องการจดทะเบียนสมรสอย่างรีบร้อน แต่มันก็ถือเป็นเรื่องดีสำหรับรินนาราไม่น้อย การที่ฝ่ายชายเสนอการจดทะเบียนสมรส อาจเพราะอยากให้เห็นถึงความจริงใจและให้เกียรติ รินนาราเป็นผู้หญิงที่น่ารักอ่อนหวาน นางเชื่อว่าหญิงสาวจะต้องเป็นภรรยาที่ดี สามารถทำให้สามีหลงรักจนหมดหัวใจได้อย่างแน่นอน

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel