ตอนที่ 4
“พี่ตั้น”
เธอเรียกเขาอีกครั้งหนึ่ง ฝ่ามือน้อยหมุนร่างหนาของเขาให้หันหน้าเข้ามาหา แค่เห็นน้ำตาที่ไหลอาบหน้าของพี่ตั้น หัวใจของเธอก็แทบสลาย หญิงสาวยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาให้เขา
ชนวีย์เผยออ้าปากเหมือนจะพูดอะไร แต่เธอชิงพูดเสียก่อน
“แค่นี้เค้กก็เหมือนอยากจะกลั้นใจตายแล้ว พี่ไม่รู้หรอกว่าเค้กเสียใจแค่ไหน”
“หึ-หึ” น้ำเสียงหยันยังส่งผ่านออกมาจากริมฝีปากหนา ๆ ของเขา
“ใจก็อยากจะทิ้งผัว ก็เอาสิ ไปอยู่ ไปแต่งงานมีผัวใหม่ ถ้าสิ่งที่เค้กคิดจะทำมันทำให้เค้กมีความสุข เค้กก็คิดอย่างนั้นอยู่แล้วนี่ แล้วเค้กจะพูดแก้ตัวให้ได้อะไรขึ้นมา ให้ตัวเองดูดีหรือ เค้กไม่ต้องมาแก้ตัวอะไรทั้งนั้น” ตั้นเผลอจับยึดสองหัวไหล่ของเธอแล้วบีบเน้น แววตาแสดงอาการผิดหวังในตัวของหญิงคนรักมาก ๆ
“โอ๊ย... เค้กเจ็บนะคะพี่ตั้น” เขาบีบเธอด้วยแรงมือซึ่งขึ้นเรื่อย ๆ
“เจ็บสิ พี่อยากให้เค้กเจ็บ เค้กจะได้เข้าใจความรู้สึกของพี่ตอนนี้ ว่ามันร้าวรานขนาดไหน” ชนวีย์น้ำตาไหล
“พี่ตั้นขา” ภาวินีเรียกชื่อเขาเสียงหวาน หญิงสาวเขย่งปลายเท้าขึ้นก่อนจะส่งริมฝีปากสีอ่อนปิดปากคนพูดมากที่กำลังตัดพ้อต่อว่าเธออยู่ตอนนี้
สายตาที่จ้องสบกันเปิดเผยสิ่งที่มีอยู่ในใจและความรักที่ทั้งสองมีให้แก่กัน
ตั้นสะอื้นไห้ เขากอดรัดเธอเข้ามาแนบอก ทั้งสองหนุ่มสาวพากันไปที่เตียงหนานุ่มของเธอ ก่อนจะทิ้งตัวลงไปนอนตระกองกอดกันอยู่บนนั้น
ริมฝีปากของตั้นครอบครองริมฝีปากของเธอเอาไว้ทั้งหมด ก่อนจะส่งปลายลิ้นเข้าไปริมรสชาติที่คุ้นเคย เธอก็จูบตอบเขาด้วยความสิเน่หา ได้ยินเสียงภาวินีสะอื้นนิด ๆ ทั้งคู่จุมพิตกันแบบดูดดื่มเหมือนอยากจะให้คืนนี้เป็นคืนที่น่าจดจำ
สองมือหนาลูบไล้เรือนกายของหญิงคนรัก คนเคย ๆ กัน เธอเป็นของเขาด้วยความเต็มใจในวันหนึ่งที่ได้อยู่กันตามลำพัง วิมานรักและความฝันถูกขีดเขียนเอาไว้ด้วยกัน สัญญาที่ต่างบอกกันว่าจะรักกันไปตลอดชีวิตแม้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น จะสร้างครอบครัวและมีลูกน้อยเป็นโซ่ทองคล้องใจ แต่วันนี้เหมือนโลกถล่มฟ้าทลาย ทุกอย่างกำลังจะดับสลาย
ภายในห้องจึงไร้เสียงพูด มีแต่เสียงคำรามในลำคอของชายหนุ่มเบา ๆ บ่งบอกถึงความสมปรารถนาที่กำลังได้ครอบครองและเป็นเจ้าของร่างกายนวลเนียนนี้อีกครั้ง
ภาวินีปล่อยตัวปล่อยใจ ในหัวใจเจ็บร้าว เธอคิดแค่ว่า คืนนี้อาจจะเป็นคืนสุดท้ายที่ทั้งคู่จะได้สุขสมอยู่ด้วยกัน ริมฝีปากบางเริ่มรุกรานบนกายกำยำที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามเนื้อ เธอทำเหมือนกับเขาเป็นประติมากรรมชิ้นงามที่ต้องได้รับการเชยชม สองฝ่ามือลูบไล้ไล่รุกปลดอาภรณ์ที่กำลังบดบังกายให้เปลือยเปล่าล่อนจ้อน บทรักที่ตั้นเคยสอน สองคนเรียนรู้ที่จะเป็นของกันและกัน ตอนนี้กำลังเริ่มขึ้นใหม่อีกครั้งในห้องนอนของภาวินีในเรือนไทยของคุณตา
ความปรารถนาในรักที่ร้อนแรง ทั้งเธอและเขากำลังช่วยกันแสดงออกให้อีกฝ่ายรับรู้ ฝ่ายหนึ่งรุกฝ่ายหนึ่งเด้งรับกันอย่างสนุก สายตาที่จดจ้องมองกันและกันมากด้วยความหมายเต็มไปด้วยกลกามสิเน่หา คนเคย ๆ กันแล้ว ต่างสร้างความเร่าร้อนระอุท่วมเตียงประหนึ่งสมรภูมิรบ
ชนวีย์ตอกอัดตัวเองลงไปในรอยแยกอย่างรวดเร็ว สายธารเอ่อล้นริมฝั่งสร้างเหมาะที่จะให้ท่อนซุงใหญ่มุดเข้ามุดออก เสียงกายมนุษย์กระทบกันดังสนั่นลั่นไปทั้งห้อง มีเสียงร้องครางกระเส่าบอกอารมณ์ที่กำลังอิ่มเอม เวลาแห่งความหฤหรรษ์ไม่มีเสียงพูดคุย ได้ยินแต่เสียงครางแผ่วของร่างบาง และเสียงคำรามทุ้ม ๆ ในลำคอของเขาเท่านั้น
ชายหนุ่มสอดแขนรวบสองขาของหญิงสาวพาดไว้กลางลำตัว ยกสะโพกสอบเด้งขึ้นส่งตัวเองกระแทกส่งเข้าไปอย่างสุดแรง เสียงหายใจหอบกระเส่า รัวเร่งจังหวะหนักหน่วง หญิงสาวก็แอ่นร่างรับความสุขที่แน่นอัดนั้นอย่างเต็มใจ ชนวีย์อัดโยกท่อนใหญ่เข้าไปอย่างสุดตัวพร้อมกับฉีดส่งลาวาอุ่น ๆ เข้าไปในรังเพลิงร้อน ๆ ของภาวินีจนหมดแม็ก ทั้งเขาและเธอก่ายกอดกันเอาไว้แน่น แนบสนิทยิ่งกว่าครั้งไหน ต่างหายใจโกยเอาอากาศเข้าปอดอย่างกับไปวิ่งมาราธอนมาอย่างไรอย่างนั้น
ภาวินีสะอื้นไห้เบา ๆ อยู่ในอ้อมกอดของเขา
“หนีไปกับพี่นะเค้ก พี่จะไม่ยอมให้เค้กแต่งงานกับคุณโหน่งแน่ ๆ” เสียงเขาสั่นเครือ
“ค่ะ” เธอรับปากเขาอย่างง่ายดาย เพราะหัวใจและร่างกายของเค้ก ต้องเป็นของพี่ตั้นคนเดียวเท่านั้น เธอยอมตายเสียดีกว่าเป็นของผู้ชายคนอื่น
ชนวีย์จึงยิ้มออกมาได้ เขารีบช้อนปลายคางของเธอขึ้น ก่อนจะจุมพิตตรงกลางกระหม่อมของภาวินีด้วยความรัก
เธอสวมกอดเขาไว้ยึดไว้แน่น ทั้งหัวใจของเธอเป็นของพี่ตั้น และไม่มีวันเป็นของใคร ภาวินีมั่นใจแล้ว เธอตัดสินใจแล้วจะหนีไปกับพี่ตั้นแล้วไปเริ่มต้นชีวิตใหม่กับเขา เพราะเธอเองก็ไม่อยากทำร้ายหัวใจตัวเองและชนวีย์ และต้องทนอยู่กับคนที่เธอไม่ได้รักไปตลอดชีวิต
ภายนอกห้องช่างเงียบสงัด ทุกคนต่างแยกย้ายกันเข้าไปในห้องนอนของตัวเอง แต่มีน้องนางคนสวย ภาวนาเดินไปเดินมาอยู่หน้าห้องของพี่สาว เธอเห็นหลังของตั้นและพี่เค้กไว ๆ ทั้งคู่หายเข้าไปอยู่ในนั้นเกือบสองชั่วโมงแล้ว
‘จะให้ใครมาเจอว่าพี่ตั้นอยู่ในห้องของพี่เค้กไม่ได้’
‘ทำไมสองคนนั้นทำแบบนี้นะ มันไม่ใช่เรื่องดีเลย แล้วถ้าใครมาเจอ’
‘ไม่นะ ไม่มีวัน’
ครีมสอดสายตามองไปรอบ ๆ อย่างระมัดระวัง
“ยังไม่เข้าห้องนอนอีกหรือยายครีม” เสียงป้าแววดังมาจากด้านหลัง ภาวนาสะดุ้งโหยงสุดตัว
“กำลังจะไปนอนแล้วค่ะ เพิ่งออกมาจากห้องของพี่เค้ก” เธอกำลังช่วยพี่สาวของตัวเองทำความผิด
“อะ...ป้ากำลังจะมาคุยกับเค้กอยู่พอดี” ภาวนาสีหน้าตกใจ รีบโบกมือห้าม
“ทำไม” ป้ายืนเท้าสะเอว
“โอ๊ะ... ไม่ได้ค่ะป้า พี่เค้กบ่นว่าปวดหัว เมื่อกี้หนูครีมให้กินยา สั่งให้พี่เค้กเข้านอนเลย แล้วป่านนี้คงหลับครอกฟี้ ๆ ไปแล้ว” เธอทำมือสองข้างประกบกันแล้วทำท่าว่าเค้กนอนอยู่
“อะไรเพิ่งจะสามทุ่มเอง”
“ป้าขา อยากให้ครีมนวดให้ไหมคะวันนี้ คันไม้คันมือจัง” เธอหักนิ้วตัวเองดังก๊อบแก๊บ ก่อนจะเดินเข้าไปหาป้า วางมือบนไหล่แล้วนวดคลึงให้อย่างชำนาญ
“โอ้...ดี ๆ ดี ๆ” นางเอ่ยชม ป้าแววรีบหมุนคอไปตามแรงมือของเด็กสาว
“ไปที่ห้องป้าดีกว่าค่ะ ครีมจะนวดให้สบายไปทั้งตัวเลย”
“จะเอากี่บาทละ” ป้าแววดักคอ
“เอ่อ...ชั่วโมงละร้อยห้าสิบ แต่วันนี้ลดให้พิเศษแล้วกัน สองชั่วโมงสองร้อยละกัน” เธอรับจ้างคุณป้าเป็นประจำอยู่แล้ว
“โอเค...อิอิ ประหยัดไปอีก ร้อนเงินหรือเรา” ป้าชี้หน้ากระแทกนิ้วจิ้มไปที่หน้าผากของเธอเบา ๆ
“ค่ะ ร้อนเงินมาก สั่งซื้อขนมเอาไว้แล้ว หนูสัญญากับเด็ก ๆ ไว้ว่าจะเลี้ยงนะสิ ไม่อยากใช้เงินตัวเองเลย เอาเงินป้าดีกว่า”
“แหม...ช่างนักนะ” ป้าว่าให้ แต่ก็ยิ้ม ภาวนารีบดันหลังป้าให้ออกไปจากบริเวณหน้าห้องของพี่เค้กอย่างรวดเร็ว
“ไปค่ะป้า คันมือเต็มทนแล้ว จะนวดให้ป้าหลับคามือไปเลย”
“นวดไม่ดี ป้าไม่จ่ายนะ”
“โอ๊ย...เชื่อมือหนูครีมสิคะ นักนวดมือทองของไร่เจ้าขาแล้วเนี่ย”
คุณป้าส่งเสียงหัวเราะ ภาวนาลอบพ่นลมหายใจออกมาอย่างโล่งอก ตอนที่เปิดประตูห้องนอนของป้าเข้าไป
ภายในห้องนอนของเค้ก ทั้งสองนั่งกอดกันอยู่บนเตียง จับมือจ้องตากันแน่น
“ตอนนี้ให้พี่เตรียมอะไร ๆ ก่อน เราจะหนีไปด้วยกัน แล้วพี่จะส่งข่าวนะว่าเป็นวันไหน”
“ค่ะ”
“สัญญากับพี่นะ พี่รักเค้กมาก อย่าหักหลังพี่”
“ค่ะ สัญญาค่ะ เค้กจะไปเริ่มต้นชีวิตใหม่กับพี่ตั้น” เธอยิ้มให้เขาอย่างอ่อนหวาน
จุ๊บ.....
“พี่จะทำให้ดีที่สุด ขอแค่เค้กอยู่ข้าง ๆ พี่ เค้กรักพี่ไหม” เขาออดอ้อน
“รักค่ะ เค้กรักพี่ตั้น” สองคนต่างพร่ำพูดบอกรักกันอยู่อย่างนั้นเกือบทั้งคืน
ก่อนจะรุ่งสาง เค้กลงมาส่งตั้นถึงใต้ถุน
“รีบไปค่ะ” เธอส่งเสียงไล่เขาเบา ๆ ตั้นโบกมือลาอย่างอ้อยอิ่ง
“ไปสิ รีบไป” เธอยังไล่ส่งเขา แต่ใบหน้าเปื้อนยิ้ม
“จ้ะ” เขาหันมาส่งจูบให้เค้กยกใหญ่ ก่อนจะหายไปในเงามืดของราตรีนั้น
สาวน้อยที่นั่งหลบอยู่ในเงามืด ยื่นมือคว้าข้อแขนของพี่สาวเอาไว้มั่น
"อุ้ย!" ภาวินีอุทานออกมาด้วยความตกใจ
"ทำไมพี่เค้กทำแบบนี้" แววตาที่จ้องสบมันทำให้คนเป็นพี่ถึงกับขนลุก
"ครีม"
"พี่ให้ผู้ชายคนนั้นเข้าไปในห้องนอนทั้งคืน แบบนี้มันหมายความว่ายังไง”
พี่สาวกระชากแขนของเธออย่างแรงให้เดินตามหลังเธอเข้าไปในห้องนอนของตัวเองอีกครั้ง
ภาวนาใช้สายตากวาดมองในห้องของพี่สาว รู้ได้ว่าสองคนนั้นต้องมีอะไรกันอยู่ในห้องนี้ เธอส่งสายตามองหน้าพี่สาวแบบผิดหวัง นึกสงสารไปถึงอาโหน่งที่กำลังจะมาเป็นเจ้าบ่าวของพี่สาว และสามีที่ต้องดูแลกันต่อไป แต่พี่เค้กทำเรื่องที่น่าเจ็บปวดที่สุด หักหลังอาโหน่งทั้ง ๆ ที่ยังไม่ได้แต่งงานกันเลย
"ในบ้านของคุณตานี่นะ" เธอเค้นคำพูดออกมาอย่างเจ็บปวด
พี่สาวทิ้งตัวนั่งลงไปบนเตียงน้ำตาไหลริน
