19 | จู่โจมด้วยหัวใจ
“คนดีจ๋า
**~ ทูนหัวของผัว อย่าทิ้งเฮียไปไหนอีกนะ”**ไม่รู้หรอกว่าถ้อยคำที่ลั่นออกไปนั้นมันมีอิทธิพลต่อหัวใจดวงน้อยมากแค่ไหน แต่รามสูรเอ่ยเอือนมันออกมาจากหัวใจของผู้ชายคนนึงที่ไม่รู้สึกว่าใครสำคัญเท่ากับร่างบางที่เขากำลังเชยชมความงดงามของเจ้าหล่อนอยู่ในขณะนี้
“อึกๆ เฮียขา~ หนูคนดีหิวค่ะ”ถ้อยคำอันแสนน่ารักน่าชังทำให้รามสูรอดอมยิ้มไม่ได้ ดูสิแม่คุณเบรกอารมณ์ได้น่าหยิกแก้มป่องๆ ทั้งสองข้างนัก
“หิวอะไรเหรอจ๊ะ หิวผัวขนาดนี้เลยเหรอหืม...”
จ้อกๆ
“งื้อ~ เฮียรามขาหนูคนดีหิวข้าวมากๆ เลยค่ะ”ท้องน้อยๆ ร้องดังประท้วงตอกย้ำความหิวของเธอจนรามสูรอดสงสารไม่ได้ เขากำลังพาตัวเองและเมียตัวน้อยลอยล่องในวิมานชั้นเจ็ดอยู่แล้วเชียว เรือล่มกลางอ่าวแท้ๆ
“แล้วให้เฮียทำยังไง มาหิวอะไรตอนนี้จ๊ะหนูคนดี”น้ำเสียงของเขาฟังดูหงุดหงิดจนชนารดีรับรู้ได้ ร่างบางขยับยันกายบนที่นอนมองชายหนุ่มด้วยออดอ้อน
“เฮียรามขา~ ทำอาหารให้หนูคนดีทานหน่อยสิคะ”
“ทำอาหาร?”อาหารเนี่ยนะให้ตายห่าเถอะ!! ถ้อยคำที่หญิงสาวเปล่งออกมาทำให้เจ้าพ่อแห่งความโลภต้องกุมขมับตัวเอง เกิดมาชีวิตของเขาเดินเข้าครัวนับครั้งได้เลย ลูกชายเพียงคนเดียวของตระกูลทัศนภาคภูมิถูกเลี้ยงมาราวกับเทพบุตรลงมาเกิดบนกองเงินกองทอง
“ใช่ค่ะ...เฮียรามขา~ คนดีอยากกินสุกี้ค่ะ”ร่างบางค่อยๆ คลานเข่าบนที่นอนนุ่มเข้าใกล้รามสูรที่กำลังถอนหายใจอย่างละเหี่ยใจ ชนารดีพยุงตัวขึ้นนั่งบนตักแกร่งและซบหน้าลงบนแผงอกกว้างอย่างขอร้องอ้อนวอน
“โอเคจ้ะ งั้นเฮียให้แม่บ้านทำให้นะ”
“ไม่เอาค่ะ! หนูคนดีจะกินฝีมือของเฮียรามเท่านั้น”จู่ๆ หญิงสาวก็เรียกร้องในสิ่งที่ตัวเธอเองก็ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงอยากทานอาหารจากสองมือของเขาที่ตั้งใจทำมันด้วย
“แต่เฮียทำอาหารไม่เป็นนิจ๊ะคนดี”
“งื้อ...ลองทำนะคะ ถ้างั้นเฮียจะดูแลหนูคนดีได้ยังไงคะ”
“ดะ...เดี๋ยวนะ เมื่อกี้หนูคนดีพูดว่าเฮียจะดูแลหนูยังไง หมายความว่ายังไงเหรอจ๊ะ”ชายหนุ่มช้อนดวงหน้างามให้แหงนเงยขึ้นเล็กน้อยก่อนจะก้มลงจูบปากบางกระจับหนึ่งครั้งและรอคำตอบจากเธอ
“หนูคนดีจะลองคบกับเฮียรามค่ะ ถ้าเฮียรามไม่คิดว่าหนูคนดีไม่ใช่นางบำเรอและที่ระบายความใคร่เฉพาะคราว แต่อยากให้เอ็นดูเป็นสัตว์เลี้ยงตัวนึงเท่านั้น...”ดูพูดเข้าสิแม่เมียตัวน้อยของเขาชั่งอ่อนน้อมถ่อมตัวเสียจริง~ แต่ความเป็นจริงแล้วเขาไม่สามารถเลี้ยงดูเธอเหมือนสัตว์ที่น่ารักน่าเอ็นดู เพราะเจ้าหล่อนเป็นมนุษย์ที่มีหัวใจและมีค่ามากเกินกว่าเขาจะเอาเจ้าหล่อนมาเป็นนางบำเรอหรือที่ระบายความใคร่ได้
“เฮียรามรักหนูคนดีหรือเปล่าคะ?”ชนารดีโพล่งออกไปอย่างต้องการรู้คำตอบของหัวใจของเขาว่าตรงกับเธอหรือเปล่า ชีวิตหนุ่มของรามสูรเธอไม่สามารถรับรู้ได้ว่าเขาเคยรักใครมาก่อน แต่เขาคือรักแรกของเธอ ซึ่งไม่รู้ว่าหลงรักเขาไปตั้งแต่ตอนไหน
“ขอโทษนะหนูคนดี เฮียไม่รู้ว่าความรู้สึกในตอนนี้คืออะไรกันแน่”สับสนมึนงงไม่รู้ด้วยซ้ำว่าความรักที่แท้จริงคืออะไร เขาผ่านผู้หญิงมาไม่ใช่น้อยแต่ไม่เคยรู้สึกหวงแหนและอยากมีใครอยู่ด้วยเช่นสาวน้อยในอ้อมกอดมาก่อน
“งั้นไม่เป็นไรถ้ายังไม่รู้ก็ยังไม่ต้องตอบหนูตอนนี้ก็ได้ค่ะ”
“...”
“แต่ตอนนี้เฮียรามต้องทำสุกี้ให้หนทานก่อนนะคะ”ถึงแม้ความน่ารักสดใสของเธอที่แสดงออกให้เขาเห็นในตอนนี้มันชั่งมีชีวิตชีวา แต่ใครเลยจะรู้ว่าข้างในหัวใจชั่งเจ็บจี๊ดราวกับมีไฟฟ้าสถิต
“งั้นลองดูก็ได้เนอะ เฮียอาจจะทำช้าหน่อยหนูคนดีรอได้ไหมจ๊ะ”หญิงสาวพยักหน้ารับอย่างไม่เกี่ยงงอน หากรักก็ต้องเสี่ยงเสียตัวให้เขาไปแล้ว แต่เธอจะต้องไม่เสียใจที่ได้รกเขา รักคือการครอบครองและทำให้คนที่เรารักมีความสุข
และความสุขสำหรับรามสูรจะต้องเป็นเธอเท่านั้นที่หยิบยื่นให้เขา~
“หนูคนดีจ๋า ฮะ...เฮียทำต้มน้ำเดือดแล้วแต่ไม่กล้าเอาผักลงไปต้มจ้ะ”ชายหนุ่มจ้องมองน้ำในหม้อที่กำลังเดือดผุดโดยมีแม่บ้านนับสามยืนให้กำลังอยู่ข้างหลัง ก่อนที่ชนารดีจะย่างกายเข้าไปใกล้เขากอดท่อนแขนล่ำเอาไว้
“ใส่ลงไปเลยค่ะเฮีย แล้วทีนีหนูคนดีจะบอกว่าต้องใส่อะไรลงบ้าง”เนื่องจากว่าเธอไม่ให้ใส่เนื้อหมูลงไปจึงมีแต่ผักใบสีเขียว ก่อนที่หญิงสาวจะบอกว่าต้องปรุงแต่งรสชาติอย่างไร แม่บ้านวัยกลางตางมองมายังเจ้านายทั้งสองที่พวกเธอรู้สึกว่าแม่สาวน้อยหน้าหวานคนนี้ต้องกุมหัวใจของรามสูรได้อย่างแน่นอน
“เสร็จสักที!!”เขายกมือปาดเหงื่อบนหน้าผากก่อนจะยกถ้วยสุกี้ที่ตั้งใจทำมาให้เมียตัวน้อย ก่อนจะมองเห็นรอยยิ้มหวานส่งมาให้ทำให้หัวใจหนุ่มเต้นไม่เป็นส่ำ
“เฮียรามของหนูเก่งที่สุดเลยค่ะ”น้ำเสียงเจื้อยแจ้วบอกก่อนจะมองผลงานของเขาด้วยความปราบปลื้มใจ
“ทานให้อิ่มนะจ๊ะ อู้ย!! รู้สึกดีเป็นบ้าเลย”ร่างสูงทรุดฮวบบนเก้าอี้ข้างหญิงสาวสบถออกมาด้วยความหลงลืมตัว เขาไม่ต้องทำอะไรขนาดนี้มาก่อนเลยในชีวิต ไม่เคยยอมให้ใครบังคับส่งการเขาได้เหมือนที่ชนารดีทำ เธอไม่ใช้อำนาจในการสั่งการ แต่เธอใช้ความน่ารักอ่อนหวานเป็นกับดักให้ชายหนุ่มศิโรราบ
ริมฝีปากอวบอิ่มจูบบนสันกรามของเขาแทนคำขอบคุณ พลันหัวใจดวงน้อยก็สั่นไหวไม่คิดว่าเขาจะยอมทำตามคำร้องขอของเธอได้ ชนารดีรู้ตัวดีว่าในตัวของเธอนั้นไม่มีอะไรให้เขาได้ลุ่มหลงเท่ากับความน่ารักที่เหมือนมารยาที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิด
“ทานให้หมดนะจ๊ะคนดีของเฮีย เสร็จแล้วเราจะอาบน้ำและเล่นกันต่อ”น้ำเสียงทุ้มแหบพร่าของเขาฟังดูชั่งน่าขนลุกจนหญิงสาวกลืนน้ำลายลงคอเฮือกใหญ่ ไม่อยากจะคิดว่าหากตนทานสุกี้หมดถ้วยเขาจะพาเธอไปอาบน้ำอย่างเดียวหรือเปล่านะ ทว่าต่อมาเมื่อมองนัยน์ตากะลิ้มกะเหลี่ยของเขาชนารดีก็ต้องหน้าแดงก่ำ
เพราะไม่ใช่สายตาของเขาที่โลมเลียร่างกายของเธอราวกับจับแก้ผ้าจนเปลือยเปล่า ฝ่ามือหนายังลูบไล้ต้นขาขาวเนียนของเธออย่างช้าๆ เหมือนเป็นการเร่งเร้าเธออีก
