06 | หนี้ที่ไม่ได้ก่อ แต่ต้อง 'ชดใช้'
“โกโก้ปั่นหนึ่งแก้วครับ”
“โกโก้ปั่นเจ็ดสิบบาทค่ะรอสักครู่นะคะ”ชนารดียิ้มหวานส่งให้ลูกค้าผู้ชายที่เดินมาสั่งเครื่องดื่มในร้านกาแฟแห่งหนึ่งที่เธอทำงานอยู่ วันนี้เป็นวันที่สองแล้วที่เธอทำงานอยู่ที่นี่หลังจากไตร่ตรองแล้วว่าปัญหาทุกอย่างเธอจะแก้ไขมันเอง โดยไม่ให้พี่ชายรับรู้ว่าธุรกิจทางบ้านเกิดอะไรขึ้น
“คนดีเดี๋ยวไปช่วยพี่จอยชงเครื่องดื่มดีกว่า เดี๋ยวพี่ดูแลเคาว์เตอร์เองจ้ะ”รุ่นพี่ในร้านกาแฟเห็นว่าชนารดีแทบหัวหมุนเมื่อต้องคีย์เครื่องดื่มหลายๆ อย่าง จึงให้หญิงสาวรับหน้าที่ชงเครื่องดื่มที่ไม่มีขั้นตอนอะไรมากนักแทน
“พี่จอยคะ…เดี๋ยวคนดีชงโกโก้นะคะ”
“โอเคจ้ะ! งั้นเดี๋ยวลองทำตามสูตรในใบนี้นะ”จอยบอกก่อนจะยื่นกระดาษขนาดเอห้าให้ชนารดี ร่างบางยิ้มก่อนจะรับเข้ามาอ่านอย่างทำความเข้าใจ
ตอนนี้เป็นเวลาช่วงเย็นเธอสมัครทำงานพาร์ทไทม์ตั้งแต่สี่โมงเย็นถึงสองทุ่ม และหลังจากเลิกงานที่นี่ก็ต้องไปทำงานต่อใน Q BAR ที่เธอไปสมัครไว้เช่นกัน ทำงานหลายอย่างแบบนี้คงหวังว่าอีกไม่นานหนี้ที่พี่ชายก่อจะหมดโดยเร็ว
“เหนื่อยจังเลยเนอะ”เวลาทำงานล่วงผ่านไปร่างบางทรุดลงบนเก้าอี้ตัวยาว ใบหน้างามบูดบึ้งอย่างเหนื่อยล้าตอนนี้แผ่นหลังของเธอต้องล้มลงบนที่นอนนุ่มแต่ชะตากลับไม่อำนวยเท่าไหร่นัก โชคดีที่หนทางข้างหน้าไม่ไกลเท่าไหร่ เพราะฉะนั้นเดินเอาก็จะได้ประหยัดค่ารถแท็กซี่ไปได้หลายบาทเลยทีเดียว
“สวัสดีค่ะ หนูชื่อคนดีเพิ่งได้งานที่ผับนี้เป็นวันแรกน่ะค่ะ”ร่างบางตรงเข้าไปยังห้องทำงานผู้จัดการร้านที่รับเธอเข้าทำงาน เนื่องจากว่าวันนี้คือวันแรกที่เริ่มงานเธอก็ไม่รู้ว่าจะเริ่มอะไรจากตรงไหนก่อน
“คนดีใช่ไหม อืม…งั้นขึ้นไปดูแลแขกวีไอพีชั้นบนเลยนะ เนี่ยพอเดินขึ้นบันไดห้องสุดท้ายขวามือเลยนะ”ชนารดีถึงกับขมวดคิ้วยุ่งเธอยังไม่รู้หน้าที่การทำงานของตนเลย แล้วถ้าไปบริการแขกวีไอพีจะไม่โดนต่อว่าเอาได้เหรอ
“รีบไปสิคุณระ…เอ้ย เขารอนานแล้วนะ”เขารอนานแล้ว? เด็กสาวถึงกับยกมือเกาหัวแง่กๆ อย่างสับสนกับคำพูดของผู้จัดการร้าน
“ไปทางนี้ใช่ไหมคะ”นิ้วเรียวยาวชี้ไปทางที่ตนคิดว่าใช่ก่อนที่ผู้จัดการจะพยักหน้าตอบรับ ชนารดีหันรีหันขวางชั่งใจอยู่ชั่วครู่เนื่องจากว่ามันเป็นห้องดื่มที่ส่วนตัวมากๆ จนเธอไม่กล้าจะเปิดประตูเข้าไปข้างใน มิหนำซ้ำเสียงที่เปิดดังกระหึ่มด้านล่างยังดูเบาหวิวลงทันทีที่ขึ้นมายืนด้านบนชั้นสองของบาร์
ก๊อก!!
“…”ไร้เสียงตอบกลับจากข้างในจนหญิงสาวเอาหูแนบฟังตรงบานประตู เอาเถอะยังไงก็ต้องหาเงินโดยเร็วที่สุดปล่อยไก่สักหน่อยคงไม่โดนไล่ออกหรอกนะ
แอด~
“สวัสดีหนูคนดีของฉัน”สะ…เสียงนั้น! ดวงตากลมโตเบิกโพลงมองไปยังต้นเสียง เธอไม่ได้สนใจบรรยากาศรอบห้องอันแสนเงียบสงัด มองไปยังร่างที่กำลังนั่งจิบไวน์อยู่บนบาร์ส่วนตัวที่มีแอลกอฮอล์วางเรียงรายเต็มชั้นวางเครื่องดื่มด้านหลัง
“คะ…คุณราม!”
“…”
“คุณมะ…มาทำอะไรที่นี่คะ?”คนตัวเล็กละล่ำละลักถามรัว มันคงไม่ใช่เรื่องบังเอิญหรอกนะที่ได้พบเขาที่นี่ พลันในหัวสมองยิงคำถามมากมายเข้ามาร่างก็เริ่มสั่นเทาเมื่อสายตาคมจดจ้องมาที่เธอ
“ก็แค่มาดื่มน่ะ!”
“อย่ามาโกหกคนดีเลย คุณตามมาทวงเงินใช่ไหมคะ อึก…”ให้มันได้แบบนี้สิวะ! หน้าเขามันเหมือนยักษ์เหมือนมารหรือยังไงกันนะ รามสูรคิดในใจก่อนจะถอนหายใจเฮือกใหญ่มองใบหน้าที่กำลังบิดเบ้ร้องไห้
“ถ้าฉันจะทวงเงิน ให้ลูกน้องฉันมาไม่ดีกว่าเหรอ!”
“คนใจร้าย!!”ชายหนุ่มกระดกเหล้ายี่ห้อดีในแก้วจนหมดเพียงรวดเดียว ก่อนจะตรงเข้าไปหาเธอและไม่ต้องถามถึงคนที่ถูกคุกคาม เจ้าหล่อนถอยหลังกรูดทว่าเขากลับตวัดร่างบางเข้าสู่อ้อมกอด
“เหนื่อยไหม หืม…ไม่เคยทำงานลำบากหรือเปล่า”นิ้วเรียวยาวเกลี่ยปอยผมที่ปกหน้าโดยไม่สนใจท่าทีขัดขืนของเธอเลยสักนิด เขามองเธออยู่ตลอดเวลาไม่ว่าเธอจะไปเรียนหรือเริ่มทำงานวันแรก เชื่อเลยสิแม่หนูคนดีแสนซื่อชั่งน่าสงสารนัก มีครั้งหนึ่งที่เขาเห็นเธอนั่งร้องไห้เงียบๆ คนเดียวตามไหล่ทาง
“ปล่อยนะ อย่ามากอดคนดีสิ!”
“ถามว่าเหนื่อยไหม เงินแค่สองแสนทำไมหาช้าแบบนี้!!”
-------------------------------
1 คอมเม้นท์ = 1 กำลังใจ
แฟนเพจ>>>เอ็มแอล
