04 | เจรจาผลัดผ่อน
“อะไรนะคะ…” ทั้งที่ประโยคเมื่อครู่เธอได้ยินอย่างชัดเจนแต่ก็ยังถามย้ำเพื่อความแน่ใจ ไม่มีทางเด็ดขาดยังไงเธอก็ไม่มีวันเข้าใกล้เขามากเกินไปกว่านี้แน่
“เธอคงไม่ได้หูหนวกใช่ไหม” รามสูรไม่เคยต้องย้ำกับใครเป็นครั้งที่สอง รู้สึกหงุดหงิดไม่น้อยที่หญิงสาวไม่ยอมวิ่งเข้ามาหาเขาด้วยความว่องไว แต่ร่างบางตรงหน้ามีท่าทีกระวนกระวายใจจนเขาแทบอยากลุกขึ้นไปกระชากเธอมานั่งบนตักเขาเสียตอนนี้เลย
“มะ…มันคงไม่เหมาะหรอกค่ะ” ชนารดีตอบด้วยน้ำเสียงกระตุกกระตัก ดวงตากลมโตไหวระริกอย่างหวั่นเกรง ในหัวใจดวงน้อยก็สั่นระรัวราวกับจะออกมาเต้นระบำนอกอกก็ไม่ปาน
“แค่นี้จะเป็นอะไรจริงไหม นมเธอฉันยังดูดมาแล้วเลย” หญิงสาวถึงกับอ้าปากหวอเมื่อชายหนุ่มโพล่งประโยคหยาบโลนออกมาอย่างตรงไปตรงมา เขาจำเธอได้นี่น่า พวงแก้มใสขึ้นสีแดงระเรื่อ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นสบกับร่างสูงที่ลุกขึ้นยืน
“คะ…คุณพูดเรื่องอะไรคะ คงจำคนผะ…”
“ฉันยังจำเธอได้แม่กวางน้อยแสนหวาน รูปร่าง และกลิ่นกายของเธอมันรบกวนหัวสมองตั้งแต่วันนั้นรู้หรือเปล่า” น้ำเสียงทุ้มโทนนุ่มจนคนฟังแทบอยากจะแทรกแผ่นดินหนีซะตอนี้เลย ทว่าหญิงสาวทำได้แต่เพียงถอยหลังก้าวหนีเมื่อชายหนุ่มสาวเท้าเข้ามาใกล้
“ไม่ใช่! คะ…คุณจำผิดคนแล้วล่ะคะ” ชนารดีตอบด้วยน้ำเสียงติดขัด ปลายเท้าเล็กแทบจะสลับกันเดินไม่ทัน ดวงตากลมโตเบิกกว้างเมื่อร่างทั้งร่างถูกรวบเข้าสู่อ้อมแขนแกร่งของเขา
“ลองฉันทำเธอเหมือนคืนนั้นไหม ฉันมั่นใจว่าทุกอย่างมันจะเข้ามาในหัวของเธอเอง” ไม่รู้ว่าอะไรดลบันดาลใจให้เขาทำแบบนี้กับสาวน้อยตรงหน้าอีกครั้ง หลายวันที่เขานึกถึงแต่เธอ จดจำได้ว่ากลิ่นกายหอมยังติดตรึงในโสตประสาท ความเย้ายวนของเธอมันทำให้รามสูรถึงกับไม่เป็นอันทำอะไรในแต่ละวัน
“ไม่ใช่นะ! อย่าทำคนดีนะคะ! ...”
“ไหนจะมาใช้หนี้แทนพี่ชายไม่ใช่เหรอ หืม…” คิ้วเข้มเลิกขึ้นสูงมองดวงหน้าหวานที่กำลังเบ้ปากคว่ำราวกับจะร้องไห้
“แต่หนู เอ้ย…คนดีไม่ได้ให้กอดสักหน่อยนิคะ” โธ่ว~ ดูสิแม่คุณลูกเต้าเหล่าใครทำไมวาจาชั่งไพเราะเพราะพริ้งเช่นนี้นะ เดี๋ยวเถอะนะเป็นเมียเขาเมื่อไหร่จะไม่ให้ผู้ชายคนไหนเข้าใกล้เลย
“ไหนลองบอกมาสิว่าจะใช้หนี้ฉันยังไง?”
“คะ…คุณก็ปล่อยก่อนสิคะ” คนตัวเล็กพยายามฝืนตัวเอาไว้เนื่องจากว่ากายสาวของเธอแนบชิดกับบางสิ่งที่ซุกซ่อนอยู่ในกางเกงสแล็คของเขา
“ฉันไม่อยากรู้เหตุผลของเธอแล้ว อืม!! ขี้เกียจยืนเมื่อยจะแย่” ชายหนุ่มลากเสียงยาวเหมือนกับเบื่อหน่าย แต่ความชั่งใจของเธอกลับไม่ทันเล่ห์เหลี่ยมของเขา ฝ่ามือหนาค่อยๆ เลื่อนลงต่ำตะปบเข้าที่ก้นงามงอนก่อนจะกดมันให้สัมผัสกับตัวตนของเขาที่กำลังขยายพองโต
“อื้อ!! คนดีกลัวคุณรามขา~ ปล่อยหนูก่อนสิคะ” คุณรามขา~ งั้นเหรอหวานเสียจนน้ำตาลในเลือดกระตุกหัวใจของเขาอย่างแรง ให้ตายเถอะ! เขาอยากจับร่างเล็กนี้ลงบนโซฟาและกระแทกน้องชายเข้าหาอย่างบ้าคลั่งนัก
“ถ้าปล่อยใน เอ้ย…ไม่ใช่สิ! ถ้าปล่อยไปฉันจะได้กอดอีกไหมจ๊ะ” รามสูรก้มลงกระซิบบอกที่ข้างกกหูบางด้วยน้ำเสียงแหบพร่า ฝ่ามือที่กอดรัดเอวบางเอาไว้ และเขารับรู้ถึงความหวาดกลัวที่เจ้าหล่อนเผชิญอยู่
“ปล่อยคนดีสิ อึก…อยากกลับบ้าน” ความกลัวเกาะกินหัวใจมือบางพยายามดันหน้าท้องแข็งแกร่งของเขาให้ผละห่างจากร่างกายของเธอ ทว่ามันกลับไม่มีผลใดๆ กับร่างบึกบึนที่ใหญ่กว่าตัวเธอถึงสองเท่า
“อยากให้ปล่อยเหรอ?”
“…”
“จูบฉันสิ!” อาจจะเป็นข้อเสนอที่ไม่น่าประทับใจสำหรับเธอสักเท่าไหร่ และมันก็ไม่ถึงใจรามสูรเช่นกันแต่เขาจะต้องอดทนมากแค่ไหนใครจะรู้ เพียงแค่อยากจะได้เธอเป็นเมียใจจะขาดแต่ก็อยากจะต้อนลูกแกะให้จนมุม และยอมศิโรราบให้เขาได้เห็นแก่นแท้อย่างไม่ต้องบังคับขู่เข็ญ
“ไม่เอาหนูไม่จูบ คนดีไม่จูบเด็ดขาด” ไม่ต้องฉุกคิดหรือพินิจพิจารณา หญิงสาวก็ส่ายหน้าหวืออย่างไม่ยินยอมทำตามคำสั่งของเขาเด็ดขาด
“แน่ใจนะ!”
“นะ…แน่ใจค่ะ อร๊ายย!!” ทันทีที่ชนารดีตอบคำถามที่เขาโพล่งมาอีกครั้ง ร่างทั้งร่างก็ลอยเคว้งเพราะรามสูรรวบร่างน้อยเพียงท่อนแขนเดียวของเขาเท่านั้น ก่อนจะกดคนตัวเล็กลงบนโซฟาที่อยู่ไม่ไกลเท่าไหร่นัก
“งั้นฉันจูบเอง” ท่อนแขนล่ำทั้งสองข้างกักกันร่างบางเอาไว้โดยสอดเข้าไปใต้ข้อพับช่วงไหล่เล็ก มองสีหน้าแตกตื่นของเธอเพียงชั่วครู่พลันจะกระแทกจูบลงไปอย่างรุนแรงแต่ไม่ทันได้ทำตามใจนึก คนใต้ร่างก็ปล่อยสายน้ำให้ไหลออกจากหน่วยตาสวย
“เฮียแมน ฮื้อๆ หนูคนดีอยากกลับบ้าน อึก!! กลัว” น้ำเสียงสั่นเครือแทบนึกถ้อยคำที่เอือนเอ่ยออกมาไม่ได้ ตอนนี้เธอเหมือนลูกไก่ในเอื้อมมือของมัจจุราชที่เขากำลังจะบีบให้เธอตายอย่างช้าๆ
“จะร้องทำไมฉันยังไม่ทำอะไรเลยนะเว้ย!!” เสียงเข้มเผลอตวาดด้วยความหงุดหงิด เขาไม่ใช่พ่อพระหรือพระอิฐพระปูนที่ไม่ได้รู้สึกรู้สาอะไรและเขาก็ไม่ใช่คนใจเย็นด้วย
“ดะ…ดุทำไม อึก…คนดีไม่ผิดนะ คุณรามแกล้งหนูต่างหากล่ะ ฮื้อๆ”
“ก็เงียบสิว่ะ จะร้องไห้มันได้อะไรขึ้นมา”
“หงุดหงิดใช่ไหม รำคาญใช่หรือเปล่างั้นก็ปล่อยสิค่ะ คนดีจะกลับบ้าน” ร้ายกาจนักแม่ผู้หญิงมารยาร้อยแปดเหลี่ยม! คิดว่าน่ารักจิ้มลิ้ม ตัวเล็ก หุ่นดี นมใหญ่ แล้วเขาจะพิศวาสหรือไงกัน
“เอาความน่ารักน่าสงสารมาล่อให้ฉันติดกับงั้นเหรอ!”
“เปล่าสักหน่อย! คนดีไม่คิดว่าตัวเองสวยหรือน่ารักเลยนะคะมีแต่คนอื่นมาพูดต่างหาก” พูดทั้งที่น้ำตายังคงไหลอาบแก้ม ทว่าไม่มีเสียงสะอึกสะอื้นใดๆ เธอเพียงตกใจการกระทำอันแสนอุกอาจของเขา
“ไอ้เวรไหนมันพูด!!”
--------------------------------
1 คอมเม้นท์ = 1 กำลังใจ
แฟนเพจ>>>เอ็มแอล
