ตอนที่ 03.จิตใต้สำนึก
หลายวันผ่านไปนับจากวันนั้นตัวของฟ่านอวิ๋นเด็กชายตัวน้อยวัยแค่ 7 ขวบก็มุ่งมั่นมานะฝึกฝนพื้นฐานวรยุทธอย่างบ้าคลั่ง เนื่องจากก่อนหน้านั้นพ่อและแม่ของฟ่านอวิ๋นได้แสดงพลังออกมาให้แก่ฟ่านอวิ๋นได้เป็นที่ประจักษ์ แม้จะไม่ได้บอกถึงระดับขั้นให้แก่ฟ่านอวิ๋นได้รับรู้ แต่ฟ่านอวิ๋นก็พยายามฝึกฝนร่างกายอย่างสม่ำเสมอพร้อมกันนั้นดวงตาของฟ่านอวิ๋นก็ดูดซับพลังงานพิภพและสวรรค์มาให้แก่ฟ่านอวิ๋นตลอดเวลา จนกระทั่งผ่านไปกว่า 10 วันและในที่สุด..
"ฮะฮ่า!! ในที่สุดข้าก็บรรลุขั้นชำระกล้ามเนื้อสำเร็จแล้ว!! ต้องรีบไปบอกท่านพ่อ!!" ฟ่านอวิ๋นดีใจสุดขีดและวิ่งเข้าไปในบ้าน
เมื่อฟ่านอวิ๋นได้วิ่งกลับเข้ามาก็พบว่าในตอนนี้มีชายร่างใหญ่กำยำกำลังเสวนากับพ่อของตนอยู่ ซึ่งคนๆนี้ก็คือฟางต้วนหรือที่ฟ่านอวิ๋นจะเรียกว่าลุงต้วนเป็นประจำนั่นเอง ลุงต้วนเป็นเพื่อนของพ่อตั้งแต่ฟ่านอวิ๋นจำความได้และยังเป็นเจ้าของโรงฝึกที่ตั้งอยู่ในหมู่บ้านแห่งนี้อีกด้วย
"หืม!! พูดถึงเจ้าตัวแสบก็มาพอดีเลยนะ" พ่อของฟ่านอวิ๋นกล่าวเมื่อเห็นฟ่านอวิ๋นกลับมา
"สวัสดีขอรับลุงต้วน อ๊ะ!! พอดีเลยข้าน่ะสามารถบรรลุขั้นชำระกล้ามเนื้อได้แล้วนะขอรับท่านพ่อ" ฟ่านอวิ๋นกล่าวอย่างภาคภูมิ
"งั้นเหรอ เก่งมากเลยนะลูกพ่อ เพียงแค่ 14 วันเจ้าก็สามารถเข้าสู่ขั้นชำระกล้ามเนื้อได้ อนาคตเจ้าต้องสดใสแน่นอน" พ่อของฟ่านอวิ๋นกล่าวชม
"โอ้!! แค่ 14 วันก็สามารถบรรลุขั้นกล้ามเนื้อได้แล้วงั้นหรือ ยอดเยี่ยมๆ" ลุงต้วนเองก็กล่าวชมฟ่านอวิ๋นเช่นกัน
"ขอบคุณขอรับที่กล่าวชม แหะๆ ว่าแต่ว่าวันนี้ลุงต้วนมีอะไรงั้นเหรอขอรับถึงเดินทางมาที่นี่" ฟ่านอวิ๋นกล่าวถามขึ้น
"ก็พ่อของเจ้าน่ะสิ จะฝากฝังเจ้าไปฝึกฝนที่โรงฝึก เจ้าสนใจรึเปล่าล่ะฟ่านอวิ๋น" ลุงต้วนเอ่ยถามฟ่านอวิ๋นกลับ
"หากท่านพ่อว่าอย่างนั้นข้าก็ตกลงขอรับ" ฟ่าอวิ๋นพยักหน้ารับ
"อืม ถ้าอย่างนั้นพรุ่งนี้เจ้าไปหาข้าที่โรงฝึกก็แล้วกัน เอาล่ะลู่ซิงข้าไปก่อนนะ" ลุงต้วนกล่าวลาพ่อของฟ่านอวิ๋น
"อืม ข้าเองก็มีเรื่องสำคัญที่จะเสวนากับอวิ๋นเอ๋อพอดี" พ่อของฟ่านอวิ๋นกล่าว
เมื่อลุงต้วนกลับไปแล้วพ่อของฟ่านอวิ๋นก็เรียกฟ่านอวิ๋นเข้าไปในตัวบ้าน ซึ่งเมื่อทั้ง 2 พ่อลูกเข้ามาในห้องพักแล้ว ตัวของพ่อฟ่านอวิ๋นก็นำสิ่งของบางอย่างออกมาจากเสื้อคลุมของตน ซึ่งมันก็คือลูกแก้วสีขาวนวลที่ไต้ซือท่านนั้นมอบให้นั่นเอง จากนั้นพ่อของฟ่านอวิ๋นก็เรียกฟ่านอวิ๋นให้เข้ามาหา
"เอาล่ะอวิ๋นเอ๋อ ต่อจากนี้พ่อจะมอบเคล็ดวิชาเดินลมปรานให้แก่ลูก ลูกพร้อมรึเปล่า" พ่อของฟ่านอวิ๋นกล่าวถาม
"ข้าพร้อมแล้วขอรับท่านพ่อ ว่าแต่..มันเป็นเคล็ดวิชาแบบไหนงั้นหรือ" ฟ่านอวิ๋นกล่าวถามด้วยความสงสัย
"มันคือเคล็ดวิชาลมหายใจดาราน่ะ เป็นเคล็ดวิชาชั้นยอดที่แม้แต่พ่อก็มิอาจฝึกได้ และมีเพียงลูกเท่านั้นที่จะสามารถฝึกเคล็ดวิชานี้ได้ ดังนั้นลูกจงหมั่นเพียรฝึกฝนมันให้มากเข้าไว้เข้าใจรึเปล่า" พ่อของฟ่านอวิ๋นเริ่มกำชับผู้เป็นลูก
"ขอรับ ท่านพ่อมิต้องเป็นห่วงข้าจะตั้งใจฝึกฝนแน่นอน" ฟ่านอวิ๋นรับปากผู้เป็นพ่อพร้อมพยักหน้ารับ
"ดีมาก เอาล่ะมันอาจจะทำให้ลูกเจ็บปวดทรมาณไปซักหน่อย แต่พ่อขอสัญญาเลยว่าทุกอย่างจะต้องเรียบร้อย ลูกพร้อมมั้ย" พ่อของฟ่านอวิ๋นเอ่ยถามอีกครั้ง
ฟ่านอวิ๋นพยักหน้ารับอย่างมุ่งมั่นก่อนที่พ่อของฟ่านอวิ๋นจะใช้พลังปรานปกคลุมรอบตัวฟ่านอวิ๋นเอาไว้ จากนั้นจึงนำลูกแก้วสีขาวขุ่นขึ้นมาประกบที่ตาขวาของฟ่านอวิ๋นทันที
วูซซ!! และแล้วก็ได้เกิดบางอย่างขึ้น พลังจากดวงตาดาราของฟ่านอวิ๋นได้ดูดซับลูกแก้วนั้นเข้ามาอย่างช้าๆ มันทำให้ฟ่านอวิ๋นสบายตัวอย่างมาก แต่ทว่าเพียงครู่เดียวเท่านั้นจากความสบายก็กลายเป็นความทรมาณแทน
"อึ่ก!! อ้ากก!! ท่านพ่อ!! ข้าปวดหัวเหลือเกิน!! เหมือนว่าหัวของข้ามันจะระเบิด!! อ้ากก!!" ฟ่านอวิ๋นเริ่มกรีดร้องอย่างเจ็บปวด
"อดทนไว้ลูก!! อีกนิดเดียวเท่านั้น!! พ่อเชื่อว่าเจ้าต้องทำได้!!" พ่อของฟ่านอวิ๋นกล่าวพร้อมแววตาที่เจ็บปวดเมื่อเห็นลูกรักของตนทรมาณเช่นนี้
วูซซ!! ฟึ่บ!! ตุ่บ!! และในที่สุดลูกแก้วสีขาวก็ถูกดวงตาดาราดูดซับไปจนหมดพร้อมกับฟ่านอวิ๋นที่สลบลงไป พ่อของฟ่านอวิ๋นรีบประคองฟ่านอวิ๋นไปที่เตียงและใช้พลังช่วยบรรเทาความเจ็บปวดในทันที
"พ่อขอโทษด้วยที่พ่อมิสามารถช่วยอะไรเจ้าได้มากนัก แต่พ่อเชื่อว่ามันจะทำให้ลูกกลายเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดในอนาคตอย่างแน่นอน" เมื่อพ่อของฟ่านอวิ๋นกล่าวจบก็ปล่อยให้ฟ่านอวิ๋นนอนหลับต่อไป
ส่วนทางด้านของฟ่านอวิ๋นที่สลบไปแล้วนั้น ตอนนี้ตัวของฟ่านอวิ๋นได้ลืมตาขึ้น แต่ก็พบว่าตอนนี้ตนกำลังยืนอยู่ในหมอกสีขาวคล้ายก้อนเมฆ ทุกๆอย่างโดยรอบมีเพียงความว่างเปล่า สิ่งที่จำได้ก็คือตนได้ดูดซับลูกแก้วนั้นมาพร้อมกันนั้นภายในลูกแก้วก็มีเคล็ดวิชาลมหายใจดาราอยู่ด้วยนั่นเอง นอกจากนี้ยังมีอีก 1 เคล็ดวิชาติดมาด้วยนั่นก็คือเคล็ดวิชากายาวชิระทองคำนั่นเอง และในขณะที่ฟ่านอวิ๋นกำลังนึกถึงเคล็ดวิชาที่ได้รับมาอยู่นั้นเอง จู่ๆก็มีเสียงๆนึงดังขึ้น
"นี่คงเป็นครั้งแรกที่เราพบกันสินะเจ้าหนูน้อย" เสียงของชายแก่ปริศนาดังขึ้นจากด้านหลัง
ฟ่านอวิ๋นตกใจอย่างมากและรีบหันตัวกลับมาดู ซึ่งก็พบว่าเป็นไต้ซือที่มอบลูกแก้วสีขาวนี้ให้กับพ่อของฟ่านอวิ๋นนั่นเอง โดยไต้ซือก็ยืนถือไม่เท้าและยิ้มอย่างเป็นมิตรก่อนจะกวักมือเรียกฟ่านอวิ๋นให้ตามมาและเดินตนเองก็หันหลังเดินกลับไป ฟ่านอวิ๋นที่เห็นดังนั้นก็ตัดสินใจวิ่งตามไปโดยไม่ลังเลแม้แต่น้อย
"ท่านไต้ซือ ท่านเป็นใคร และที่นี่คือที่ไหนกัน" ฟ่านอวิ๋นถามขึ้นทันที
"ยังไม่ถึงเวลาที่เข้าควรจะต้องรู้ว่าข้าคือใครหนุ่มน้อย ส่วนที่นี่ก็คือจิตใต้สำนึกของตัวเจ้าเองที่ดวงตาดาราเป็นคนนำพาเจ้ามาที่นี่" ไต้ซือท่านนั้นกล่าวตอบ
"จิตใต้สำนึกของข้างั้นหรือ แล้ว..ทำไมท่านถึงมาอยู่ในจิตใต้สำนึกของข้ากันได้ล่ะขอรับ" ฟ่านอวิ๋นถามด้วยความสงสัย
"หืม นั่นเพราะข้าเป็นคนฝังจิตวิญญาณส่วนนึงลงในลูกแก้วที่เจ้าดูดซับไปเพื่อจะได้มาพบกับเจ้ายังไงล่ะ แต่ก่อนอื่นข้ามีเรื่องจะบอกเจ้าเพียงไม่กี่เรื่องเท่านั้น โดยเรื่องแรกข้าอยากให้เจ้าดูตรงนั้นซะ" ไต้ซือท่านนั้นกล่าวและชี้ไปที่ด้านหน้าของตน
เมื่อฟ่านอวิ๋นได้ยินเช่นนั้นก็หันไปมองด้านหน้า ซึ่งปรากฏว่ามันก็คือมหาวิหารสีขาวขนาดยักษ์ที่ตั้งตระหง่านอยู่บนภูเขาสูง ซึ่งมันทั้งงดงามและตระการตาเป็นอย่างมากแม้แต่ฟ่านอวิ๋นก็ยังตกใจ ไต้ซือที่เห็นท่าทีของฟ่านอวิ๋นแล้วก็ยกยิ้มเล็กน้อยกับท่าทีที่ไร้เดียงสาของฟ่านอวิ๋นนั่นเอง
