ราชันย์ดาราสะท้านปฐพี

48.0K · ยังไม่จบ
Asasel
28
บท
120.0K
ยอดวิว
7.0
การให้คะแนน

บทย่อ

หากข้าไร้พลังแล้วไซร้ ข้าก็จักไขว่คว้ามาซึ่งพลัง หากข้าถูกกระทำฉันท์ใด พวกมันก็ต้องถูกกระทำฉันท์นั้น แม้แต่สวรรค์ข้าก็มิยำเกรง เพราะข้าคือราชันย์แห่งดวงดารา

นิยายแฟนตาซีนิยายเทพเซียนฝึกพลังเซียนจีนโบราณกำลังภายใน

ตอนที 01.ดวงตาดารา

ณ อาณาจักรชิงหยวนผู้ซึ่งปกครองโดยราชวงศ์ชิงอันยิ่งใหญ่หาผู้ใดทัดเทียม ปกครองแว่นแคว้นประชาราษฏร์มาด้วยความผาสุขยาวนานกว่า 1 หมื่นปี เป็นอาณาจักรที่รุ่งเรืองและมีกองกำลังทหารที่ยิ่งใหญ่และเกรียงไกรเหนืออาณาจักรข้างเคียงทั้ง 2 อย่างอาณาจักรซ่งเหรินที่ปกครองโดยราชวงศ์ซ่งและอาณาจักรหยวนซื่อที่ปกครองโดยราชวงศ์หยวนเป็นอย่างมากจนถึงขนาดที่ว่ากันว่าต่อให้ 2 อาณาจักรร่วมมือกันก็มิอาจต้านราชวงศ์ชิงได้เลยแม้แต่น้อย นั่นคือคำกล่าวขานของแม่ทัพผู้เกรียงไกรผู้หนึ่งแห่งราชวงศ์ชิงนั่นเอง

ในราชวงศ์ชิงนี้มีหัวเมืองน้อยใหญ่มากมายทั้งยังมีสำนักและนิกายอีกเป็นจำนวนมากที่แข่งขันกัน ทำให้อาณาจักรชิงหยวนแห่งนี้มีเหล่าผู้ฝึกยุทธที่แข็งแกร่งอีกมากมายตามไปด้วย ยิ่งทำให้อาณาจักรแห่งนี้เป็นที่ 1 ในการแข่งขันการประลองระหว่างอาณาจักรมาตลอดนั่นเอง แต่ทว่าทุกๆสิ่งมันจะยั่งยืนไปตลอดรอดฝั่งได้หรือไม่คงต้องใช้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์เท่านั้น

____________________________________

ณ หมู่บ้านแห่งหนึ่งที่อยู่ทางใต้สุดของอาณาจักรชิงหยวน เป็นหมู่บ้านขนาดเล็กที่อยู่ห่างไกลจากเมืองพอสมควร มีประชากรอาศัยอยู่ราวๆ 100 หลังคาเรือนเท่านั้น ที่นี่ชาวบ้านมีอาชีพประมงและล่าสัตว์เป็นส่วนใหญ่ รองลงมาคือเป็นเกษตรนั่นเอง แต่เหนือสิ่งอื่นใดที่นี่ยังมีโรงฝึกสำหรับรุ่นเยาว์ที่ต้องการฝึกยุทธและนำไปต่อยอดในอนาคตได้อีกด้วย ดังนั้นเด็กๆรุ่นเยาว์ของที่นี่ต่างก็เข้ามาฝึกฝนอยู่ที่นี่กันเป็นจำนวนมากนั่นเอง

และในวันนี้ก็เป็นอีกวันที่ทุกๆคนต่างใช้ชีวิตมาอย่างปกติสุข โดยตัวเอกของเรื่องคือเด็กน้อยคนหนึ่งที่อาศัยอยู่กับพ่อและแม่ท้ายหมู่บ้าน โดยพ่อและแม่ของเด็กน้อยเป็นแค่เกษตรกรทั่วๆไปเท่านั้น และในวันนี้เด็กน้อยคนที่ว่าก็เดินออกมาจากบ้านตามปกติ แต่สิ่งที่เขาไม่เหมือนเด็กคนไหนเลยก็คือ เขามีสายผูกปิดที่ตาข้างขวาของเขาด้วย

"ท่านพ่อท่านแม่ ข้าขอออกไปข้างนอกหน่อยนะขอรับ" เสียงของเด็กชายตะโกนบอกพ่อและแม่ของเขาก่อนออกจากบ้าน

"แล้วอย่าลืมมากินข้าวกลางวันด้วยนะ วันนี้แม่จะทำของโปรดไว้รอ" แม่ของเด็กชายตะโกนกลับออกมา

"ขอรับท่านแม่" เด็กชายตะโกนบอกอีกครั้งและเดินไปทันที

เด็กชายคนนี้มีชื่อว่า ฟ่านอวิ๋น เป็นเด็กชายอายุเพียง 7 ขวบเท่านั้น ซึ่งฟ่านอวิ๋นนั้นมักจะชอบใช้เวลาอยู่เพียงลำพังตั้งแต่เด็ก ทำให้ฟ่านอวิ๋นไม่มีเพื่อนในรุ่นเดียวกันเลยซักคน แต่ฟ่านอวิ๋นมักจะเดินไปจนสุดขอบของหมู่บ้านในทุกๆวัน ซึ่งที่นั่นมีเนินเขาสูงมองออกไปก็สามารถมองเห็นทะเลอันกว้างใหญ่ไพศาลได้ โดยที่นี่คือที่โปรดของฟ่านอวิ๋นตั้งแต่เด็กเลยก็ว่ได้ และยังมีอีกอย่างนึงก็คือ..

"ฟู่!! มาถึงซักที เอาล่ะเสี่ยวหมิงข้ามาหาเจ้าแล้วพร้อมอาหารโปรดของเจ้า!!" เมื่อมาถึงฟ่านอวิ๋นได้กล่าวเรียกใครบางคนให้ออกมา

โฮ่งๆๆ!! ปรากฏว่ามันคือหมาสีดำทั้งตัวที่อาศัยอยู่ในที่แห่งนี้นั่นเอง มันรีบวิ่งมาหาฟ่านอวิ๋นด้วยความดีใจก่อนที่ฟ่านอวิ๋นจะนำห่อข้าวออกมาและวางไว้ให้หมาที่ชื่อเสี่ยวหมิงได้กินทั้งหมด โดยมีฟ่านอวิ๋นนั่งลูบหัวของมันอย่างอ่อนโยนก่อนจะเดินไปที่หน้าผาสูงและมองออกไปยังทะเลด้านหน้า

"วันนี้ลมแรงเสียจริง พวกลุงๆที่ออกทะเลคงไม่ได้ออกหาปลาเป็นแน่" ฟ่านอวิ๋นกล่าวและมองไปยังทะเลที่มีลมพัดแรงในวันนี้

ครืนน!! เปรี้ยงๆๆ!! แต่แล้วจู่ๆท้องฟ้าที่เคยสดใสและมีลมแรงก็มืดครึ้มอย่างกระทันหัน ฟ่านอวิ๋นตกใจอย่างมากและรีบหันกลับเพราะเห็นว่าจู่ๆจะมีฝนตกลงมาแล้วนั่นเอง ทว่าเมื่อตนหันกลับมาก็พบพ่อและแม่ของตนมาอยู่ด้านหลังแล้ว ทำให้ฟ่านอวิ๋นตกใจเป็นอย่างมาก

"ท่านพ่อท่านแม่!! ท่านมาตั้งแต่เมื่อไหร่!!" ฟ่านอวิ๋นถามขึ้นในทันที

"อวิ๋นเอ๋อแม่จะพาลูกกลับบ้านก่อนฝนจะตก รีบกลับกันเถอะ" ผู้เป็นแม่รีบมาจูงมือฟ่านอวิ๋นด้วยความเร่งรีบ

"แล้วท่านพ่อล่ะขอรับ" ฟ่านอวิ๋นหันไปมองพ่อที่ยืนมองไปที่ทะเล

"ไม่ต้องห่วงพ่อนะอวิ๋นเอ๋อ เดี๋ยวพ่อจะรีบตามไป ตอนนี้ลูกไปกับแม่ก่อนเถอะนะ" พ่อของฟ่านอวิ๋นกล่าวและลูบหัวลูกชายของตน

จากนั้นแม่ของฟ่านอวิ๋นก็รีบวิ่งพาฟ่านอวิ๋นกลับไปทันที ส่วนพ่อของฟ่านอวิ๋นที่ยืนอยู่ก็เดินมาที่โขดหินและมีประกายสายฟ้าสีทองรอบตัว นั่นแสดงให้เห็นว่าพ่อของฟ่านอวิ๋นคือผู้ฝึกยุทธนั่นเอง แต่ไม่รู้ว่าอยู่ในระดับใดกันแน่เพราะตอนนี้หมาสีดำที่ฟ่านอวิ๋นให้อาหารนั้นก็มีเพลิงสีดำออกมารอบตัวเช่นกัน

"ท่านเป็นใครโปรดออกมาปรากฏตัวตรงหน้าข้าซะ มิเช่นนั้นอย่าหาว่าข้าไม่เตือน" พ่อของฟ่านอวิ๋นกล่าวพร้อมจิตสังหารที่รุนแรง

จากนั้นเองก็ได้มีไต้ซือคนนึงเดินออกมาจากหลังโขดหินนั่นพร้อมพลังที่ยากหยั่งถึง ทำให้พ่อของฟ่านอวิ๋นตกใจอย่างมากและเพิ่มความระมัดระวังตัวมากขึ้น ก่อนที่ไต้ซือรูปนั้นจะยกมือปรามพร้อมรอยยิ้มที่ดูอบอุ่น

"อาตมามิใช่ศัตรูของประสก ดังนั้นอย่าได้ตกใจไป" ไต้ซือรูปนั้นกล่าวก่อนจะเดินมาหา

"หากท่านมิใช่ศัตรูแล้วท่านมีจุดประสงค์อะไร ทำไมถึงได้มาอยู่ใกล้กับอวิ๋นเอ๋อของข้า" พ่อของฟ่านอวิ๋นถามขึ้นอีกครั้ง

"อาตมาก็แค่อยากเห็นผู้ครอบครองดวงตาดาราที่ปรากฏในรอบ 1 แสนปีก็เท่านั้น อีกอย่างอาตมามีเรื่องจะมาเตือนประสกอีกอย่างหนึ่ง" ไต้ซือท่านนั้นกล่าวก่อนจะหันกลับไปที่ทะเลอันมืดครึ้ม

"เรื่องที่จะเตือนข้างั้นหรือขอรับ" พ่อของฟ่านอวิ๋นกล่าวถามด้วยความสงสัย

"อืม ดูเหมือนว่าพวกเขากำลังจะมาที่นี่กันแล้ว ตระกูล...ของเจ้ายังไงล่ะ" ไต้ซือรูปนั้นกล่าวพร้อมถอนหายใจลงเล็กน้อย

เมื่อพ่อของฟ่านอวิ๋นได้ยินเช่นนั้นก็ขมวดคิ้วแน่นพร้อมดวงตาประกายขึ้นอย่างโกรธแค้น แม้แต่ไต้ซือรูปนั้นก็รู้สึกถึงพลังด้านลบที่แผ่ออกมาจากตัวของพ่อฟ่านอวิ๋นเช่นกันมันเป็นความโกรธแค้นที่รุนแรงเกินกว่าจะจินตนาการออกมาได้ โดยไต้ซือรูปนั้นคาดเดาว่าคงมีอะไรที่รุนแรงเกิดขึ้นระหว่างพ่อของฟ่านอวิ๋นและตระกูลอย่างแน่นอน มิเช่นนั้นเรื่องมันก็คงไม่บานปลายถึงเพียงนี้