บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 04.พรสวรรค์

ในระหว่างที่ฟ่านอวิ๋นกำลังตื่นเต้นกับวิหารยักษ์ตรงหน้าอยู่นั้น จู่ๆไต้ซือก็เคาะไม้เท้าลงพื้น 2 ครั้งก่อนที่วิหารยักษ์นั่นจะสลายหายไปต่อหน้าต่อตาก่อนที่ไต้ซือจะหันกลับมาหาฟ่านอวิ๋นอีกครั้ง

"เจ้าหนู เรื่องแรกที่ข้าจะบอกกับเจ้าก็เรื่องเกี่ยวกับวิหารเมื่อครู่ มันคือมหาวิหารพุทธะเทวาข้านั้นต้องการให้เจ้าไปที่นั่นในซักวันนึงเมื่อเจ้าแข็งแกร่งขึ้น" ไต้ซือหันมากล่าวกับฟ่านอวิ๋นด้วยสีหน้าจริงจัง

"ขะ..ขอรับ แต่ว่าข้าไม่รู้ว่ามันอยู่ที่ใดและต้องใช้เวลานานอีกเท่าไหร่ ข้า.." ฟ่านอวิ๋นแม้จะรับปากแต่ก็ยังลังเล

"มันไม่ใช่เรื่องยากสำหรับผู้ครอบครองดวงตาดาราเช่นเจ้า ส่วนอีกเรื่องถัดมาข้าต้องการให้เจ้าซ่อนดวงตาของเจ้าเอาไว้อย่าให้ใครเห็นเด็ดขาด โดยข้าจะบอกวิธีปกปิดดวงตาแก่เจ้า และสุดท้ายคือวันใดก็ตามที่เจ้าแข็งแกร่งและรู้ความจริงบางอย่างของตระกูลเจ้าแล้วล่ะก็เจ้าอย่าได้ลังเลเป็นอันขาด ส่วนมันเป็นเรื่องอะไรนั้นข้ามิสามารถบอกกับเจ้าได้ เจ้าจงไปเผชิญกับมันด้วยตัวเองเถิดเพราะมันคือชะตากรรมของเจ้า เอาล่ะเวลาของข้าใกล้จะหมดลงแล้ว" เมื่อใต้ซือกล่าวจบร่างของไต้ซือก็ค่อยๆหายไปพร้อมกับแตะที่หน้าผากของฟ่านอวิ๋นเป็นครั้งสุดท้ายเพื่อบอกวิธีซ่อนดวงตาดารา

จากนั้นเองตัวของฟ่านอวิ๋นก็หมดสติไปเช่นกัน พื้นที่โดยรอบที่เป็นหมอกสีขาวก็หายไปจนเหลือเพียงความมืด ตัวของฟ่านอวิ๋นที่ไม่ได้สติมาระยะนึงก็สะดุ้งขึ้นอีกครั้ง

เฮือก!! ฟู่!! ฟ่านอวิ๋นลุกขึ้นมาจากการสลบและมองไปรอบๆ ซึ่งดูเหมือนว่าตอนนี้ตนได้อยู่ในห้องนอนของตน คงเป็นเพราะผู้เป็นพ่อเป็นคนอุ้มมานั่นเอง จากนั้นฟ่านอวิ๋นค่อยๆดึงความทรงจำในตอนที่ตนอยู่ในจิตใต้สำนึกออกมา

"ดูเหมือนว่านี่จะไม่ได้เป็นความฝันสินะ ข้ารู้วิธีซ่อนดวงตานี้แล้ว แต่ก่อนอื่นข้าต้องมีพลังปรานเสียก่อน เคล็ดวิชาลมหายใจดาราข้าจะฝึกมันเดี๋ยวนี้แหละ" เมื่อฟ่านอวิ๋นกล่าวจบก็เริ่มนั่งสมาธิเตรียมฝึกวิชา แต่..

จ๊อก!! โครกก!! ดูเหมือนว่าตอนนี้สิ่งที่ฟ่านอวิ๋นต้องการที่สุดไม่ใช่การฝึกวิชา แต่เป็นอาหารต่างหากที่อยากได้ ฟ่านอวิ๋นไม่รอช้าวิ่งออกไปจากห้องตะโกนหาแม่เพื่อทานอาหารก่อนทันที

____________________________________

เช้าวันต่อมาฟ่านอวิ๋นตื่นแต่เช้าตรู่ตามปกติและรีบวิ่งออกจากบ้านไปหน้าผาริมทะเลอีกเช่นเคย ซึ่งฟ่านอวิ๋นก็ไม่ลืมที่ตนจะนำอาหารมาให้แก่เสี่ยวหมิงอีกด้วย จากนั้นฟ่านอวิ๋นจึงไปที่โขดหินสูงและหันหน้าออกไปทางทะเล ก่อนที่ฟ่านอวิ๋นจะนั่งลงและฝึกเดินเคล็ดวิชาที่ตนได้รับมาในทันที

"เอาล่ะ ก่อนอื่นเลยเคล็ดวิชานี้เป็นเคล็ดวิชาเฉพาะสำหรับข้าสินะ ถ้าอย่างนั้น..ฟู่!!" ฟ่านอวิ๋นถอนหายใจเล็กน้อยก่อนจะเริ่มฝึกฝนทันที

ฟ่านอวิ๋นเริ่มทำตามขั้นตอนอย่างช้าๆ พลังฟ้าดินและพลังสวรรค์โดยรอบถูกดูดเข้ามาหาตัว ลมหายใจของฟ่านอวิ๋นค่อยๆถูกปรับให้กลายเป็นการเดินเคล็ดวิชา ซึ่งเพียงไม่นานดวงตาขวาของฟ่านอวิ๋นก็ประกายออกมาเล็กน้อยแม้ฟ่านอวิ๋นจะหลับตาอยู่ จากนั้น พลังงานจักรวาลถูกดูดเข้ามาในร่างกายของฟ่านอวิ๋นทันที ทำให้หมาสีดำเสี่ยวหมิงที่นั่งดูอยู่ถึงกับตกใจไม่ใช่น้อย

"โห!! สมกับเป็นบุตรชายของท่านลู่ซิง เข้าใจถึงเคล็ดวิชาในตำนานได้อย่างง่ายดายและฝึกครั้งแรกก็ประสบผลสำเร็จ ครอบครัวนี้มันเป็นตัวปีศาจชัดๆ" เสี่ยวหมิงพึมพำด้วยความอิจฉาเล็กน้อย

จากนั้นเองรอบๆตัวของฟ่านอวิ๋นก็ถูกปกคลุมไปด้วยพลังฟ้าดิน พลังสวรรค์ และพลังจักรวาล ซึ่งพลังทั้ง 3 รูปแบบได้ซึมซับเข้าไปทางลมหายใจของฟ่านอวิ๋นอย่างช้าๆ แม้ว่าฟ่านอวิ๋นจะยังไม่มีตันเถียนแต่พลังเหล่านั้นก็เข้าไปเสริมสร้างกล้ามเนื้อและขยายเส้นปรานให้แก่ฟ่านอวิ๋นแทน หากเมื่อใดก็ตามที่ฟ่านอวิ๋นบรรลุขั้นชำระอวัยวะพลังเหล่านี้ก็จะเข้าไปเสริมสร้างอวัยวะของฟ่านอวิ๋นด้วย นี่คือความสามารถพิเศษในการวางรากฐานของฟ่านอวิ๋นให้เป็นรากฐานที่แข็งแกร่งที่สุดและสมบูรณ์แบบที่สุดนั่นเอง โดยในตอนนี้ฟ่านอวิ๋นเดินเคล็ดวิชาจนลืมเวลาไปแล้ว แต่ทว่าเมื่อถึงเวลาอันพอเหมาะที่ร่างกายของฟ่านอวิ๋นจะรับได้ ตัวของฟ่านอวิ๋นก็หยุดเดินเคล็ดวิชาในทันที

"ฟู่!! เอาล่ะพอแค่นี้ก่อนดีกว่า ฮึบ!!" ฟ่านอวิ๋นลุกขึ้นปัดฝุ่นก่อนก่อนจะยืดเส้นยืดสายเล็กน้อยเตรียมฝึกพื้นฐานวรยุทธของตนต่อ

"อวิ๋นเอ๋อลูกอยู่ที่นี่จริงๆด้วย" ทว่าในตอนนั้นแม่ของฟ่านอวิ๋นก็เดินขึ้นมาหา

"ท่านแม่ขอรับท่านมีอะไรงั้นหรือถึงมาหาข้าที่นี่" ฟ่านอวิ๋นแปลกใจที่แม่ของตนมาหาในระหว่างการฝึก

"ก็วันนี้ลูกจะไปที่โรงฝึกมิใช่หรือ แม่เลยทำอาหารกลางวันมาให้กับลูกยังไงล่ะ อ้อ!! อีกอย่างแม่นำผ้าปิดตามาให้เจ้าด้วยนะ" แม่ของฟ่านอวิ๋นกล่าวและนำตระกร้าอาหารพร้อมผ้าปิดตาให้ฟ่านอวิ๋น

"ขอบคุณขอรับท่านแม่ แต่ข้ามิต้องการผ้าปิดตาอีกแล้ว คอยดูนะขอรับ" ฟ่านอวิ๋นหลับตาลงและใช้วิธีที่ไต้ซือบอกมา

วิธีที่ฟ่านอวิ๋นนั้นคือการดึงพลังฟ้าดินที่ตนได้ฝึกเมื่อครู่ดึงมาที่ดวงตาของตนและดวงตาดาราก็กลั่นมันเป็นพลังปรานปกปิดสีของดวงตาเอาไว้ แม่ของฟ่านอวิ๋นที่เห็นดังนั้นก็ตกใจพอสมควรก่อนจะเดินมากอดฟ่านอวิ๋น

"อวิ๋นเอ๋อลูกแม่เจ้าเก่งขึ้นมาก แม่ภูมิใจในตัวลูกจริงๆ" แม่ของฟ่านอวิ๋นกล่าวอย่างมีความสุขที่ได้เห็นความสามารถของบุตรชาย

"แหะๆ ขอบคุณขอรับท่านแม่ เอาล่ะถ้าอย่างนั้นผมต้องขอตัวไปที่โรงฝึกก่อนนะขอรับ" ฟ่านอวิ๋นกล่าวและเดินลงจากหน้าผา

"ดูแลตัวเองด้วยนะลูก" แม่ของฟ่านอวิ๋นเองก็โบกมือให้แก่ฟ่านอวิ๋น

"หุๆ ชิงชิงเจ้ารู้รึเปล่าว่าเจ้าหนูอวิ๋นเอ๋อสามารถเดินเคล็ดวิชาได้แล้ว และทำมันสำเร็จในครั้งแรกอีกด้วย" หมาดำเสี่ยวหมิงกล่าว

"มันมิใช่เรื่องน่าแปลกหรอก อย่าลืมสิว่าข้าและท่านพี่เองก็ทำได้ตั้งแต่ครั้งแรกเช่นกัน ดังนั้นพรสวรรค์ในการฝึกยุทธของอวิ๋นเอ๋อต้องสูงกว่าพวกเราเป็นแน่แท้อยู่แล้ว" แม่ของฟ่านอวิ๋นตอบพร้อมรอยยิ้ม

"งั้นหรือ เห้อ!! เอาล่ะข้าไปนอนดีกว่า" เสี่ยวหมิงตัดบทและเดินไปนอนในที่ของตนทันที

ส่วนฟ่านอวิ๋นที่วิ่งลงมาแล้วนั้นก็กำลังตื่นเต้นเล็กน้อยที่จะได้ฝึกฝนร่วมกันกับเด็กคนอื่นๆที่อายุรุ่นราวคราวเดียวกัน และไม่แน่ตนอาจจะได้วิชายุทธติดมือกลับฝึกฝนมาอีกด้วย

"คอยดูเถอะ อีกไม่นานข้าจะเป็นอย่างคนพวกนั้นให้ได้ ข้าจะทำให้ท่านพ่อท่านแม่ตกใจที่ข้าได้เป็นจอมยุทธที่เก่งกาจกว่าพวกเขา หึๆๆ" ฟ่านอวิ๋นนั้นยังจำได้ในตอนที่เหล่าจอมยุทธเหาะเหินเดินอากาศมายังหมู่บ้านแห่งนี้ และฟ่านอวิ๋นก็ตั้งปณิธานว่าซักวันจะเป็นเช่นนั้นให้ได้บ้างนั่นเอง

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel