บท
ตั้งค่า

6

“โอย...คุณย่าไม่ต้องห่วงค่ะ เขาปากร้ายจะตาย ถ้าเขาไม่สั่งพิชไม่เข้าใกล้หรอกค่ะ แล้วอีกอย่าง พิชว่าเขาไม่ชอบผู้หญิงหรอกค่ะ” ประโยคหลังหล่อนทำป้องปากลดเสียงลง ได้ยินกันแค่สองย่าหลาน

“เออ ๆ ค่อยหายห่วงหน่อย”

“พี่แป้น เจ้าบู้บี้อยู่ที่ไหนคะ ไม่เห็นมันเลย”

“อยู่ในคอกนั่นแหละค่ะ พี่แป้นไม่กล้าปล่อยกลัวมันจะหายไปอีก”

หญิงสาวไม่ทันรอฟังพี่แป้นพูดจบ หล่อนก็รีบแจ้นไปหาเจ้าบู้บี้ พอมันเห็นเท่านั้นแหละ มันกระดิกหางจนกระเพื่อมไปทั้งตัว ส่งเสียง งืด ๆ..งาด ๆ..

“เจ้าบู้บี้...คิดถึงจังเลย...เหงามั้ยลูก” พิชญาอุ้มเจ้าตัวเล็กขึ้นมา มันดีใจไม่หยุดนิ่ง ยื่นหน้ายื่นตาจะเลียสาวน้อยให้ได้ หล่อนได้แต่เบี่ยงหลบ

“ไม่เอา...บู้บี้..เดี๋ยวสิวขึ้น” พิชญาอุ้มเจ้าบู้บี้กลับมานั่งในห้องเดิมที่สมาชิกยังไม่ขยับย้ายไปไหน หล่อนนั่งลงกับพื้นเหยียดขายาวไปทางที่ไม่มีใครนั่งอยู่ อุ้มเจ้าบู้บี้ไว้บนตัก เจ้าตัวเล็กเหมือนจะพอใจซุกตักอุ่นหลับตาพริ้ม

“แหม...หมั่นไส้..ทำเป็นนอนนิ่ง ทีเมื่อกลางวันกัดรั้วไม่ยอมนอน” แป้นค่อนขอดกระทั่งหมา

“มันคันเหงือกมั้งคะพี่แป้น สงสัยต้องหาของเล่นให้”

“เอาใจ กันเข้าไป อย่ามากัดข้าวของ ของฉันก็แล้วกัน โดนตีแน่” คุณย่าคาดโทษ

“โธ่ ! คุณย่าขา นึกว่าสงสารลูกนกลูกกา นะคะ” พิชญาอ้อน ทำตาปริบ ๆ

“ลูกนกลูกกาที่ไหน ลูกหมาชัด ๆ แล้วป่านนี้ยังไม่ไปนอนอีก พรุ่งนี้ต้องไปเมืองกาญจน์แต่เช้าไม่ใช่รึ” คุณอนงค์ห่วงใย และจดจำเรื่องราวของหลานสาวได้ทุกเรื่อง แต่ไม่ค่อยแสดงออก นางเคยรักและตามใจลูกชายคนเดียว แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ดั่งใจ ไปคว้าผู้หญิงต่ำต้อยมาเป็นลูกสะใภ้ ทำให้หล่อนโกรธมาจนถึงทุกวันนี้ กับหลานสาวคนนี้หล่อนจึงไม่อยากคาดหวังมาก ถึงแม้จะรักและห่วงใยก็ไม่แสดงให้รับรู้

“จริงสิ...ยังไม่ได้เตรียมตัวเลย” หญิงสาวนึกขึ้นได้ จึงรีบไปส่งเจ้าบู้บี้ แล้วขึ้นไปเลือกเสื้อผ้าที่จะใส่พรุ่งนี้ จะได้ไม่โดนถากถางจากเจ้านายปากร้ายอีก

บทที่ 3

เช้านี้พิชญามายืนชะเง้อรอเจ้านายตั้งแต่ฟ้ายังไม่สว่าง เมื่อคืนเขาสั่งให้หล่อนรอตรงนี้ ที่หน้าบ้านหล่อนเองนั่นแหละ อุตส่าห์ตื่นตั้งแต่ตีสี่ เพื่อมาเตรียมตัวรอ เช็คเสื้อผ้าหน้าผมเป๊ะ ใช้ได้ วันนี้หล่อนเลือกกางเกง คลุมด้วยสูทดูทะมัดทะแมง เขาจะได้ไม่หาว่าหล่อนอ่อยอีก คนอะไรหลงตัวเองชะมัด ถ้าไม่คิดถึงอัตราเงินเดือนที่สูง หล่อนคงไม่ทน

“ปริ๊น...ปริ๊น......” เสียงแตรรถ ทำให้หญิงสาวสะดุ้ง ตายยากจริงเลย กำลังนินทาอยู่เลย หญิงสาวก้าวยาว ๆ ไปขึ้นรถ วันนี้เจ้านาย ไม่มีทางหาเรื่องจับผิดหล่อนได้แน่ ๆ

“สวัสดีค่ะ” หญิงสาวเพิ่งจะยกมือไหว้เขาเป็นครั้งแรก หลังจากเมื่อวานเกิดเหตุอันไม่น่าประทับใจเมื่อแรกพบ

“ใช้น้ำหอมกลิ่นอะไรของคุณเนี่ย เป็นพนักงานของบริษัทก็ต้องใช้ของบริษัทจำไว้” ชายหนุ่มจมูกไว หาเรื่องจิกกัดจนได้ ขณะพารถยนต์หรู มุ่งไปข้างหน้า

“อ้าว !.ไม่ทราบนี่คะว่าบริษัทมี สวัสดิการให้ด้วย” พิชญาแย้ง น่าเจ็บใจ นั่งก้นไม่ทันร้อนก็โดนอีกแล้ว

“ไม่มีหรอก แต่เธอควรรู้ด้วยสามัญสำนึกเข้าใจมั้ย” เจ้านายหนุ่มยังกัดไม่เลิก คราวนี้เล่นขุดถึงสามัญสำนึก

“ค่ะ เอาไว้พิชเก็บเงินได้เมื่อไหร่ จะเปลี่ยนมาใช้ของบริษัทนะคะ” หญิงสาวตอบกลับ ทำหน้าซื่อ ตาใส

“เอาล่ะ พรุ่งนี้ไปเบิกมาให้ครบเซตเลย ถือว่าเป็นสวัสดิการก็แล้วกัน” เจ้านายหนุ่มชักรำคาญ ไม่รู้ตัวเลยว่า ตกหลุมพรางเข้าแล้ว

“ขอบพระคุณค่ะ” เลขาสาวพนมมือไหว้สวยงามที่สุดเท่าที่ทำได้ เอาวะ ! โดนจิกกัดแล้วได้ของฟรีแบบนี้บ่อย ๆ ก็พอไหว ใคร ๆ ก็รู้ว่าผลิตภัณฑ์ของบริษัทนี้ ระดับเคาน์เตอร์แบรนด์ ราคาไม่ใช่น้อย ๆ แถมยังบอกให้ครบเซตอีก หญิงสาวปลื้มปริ่ม นั่งอมยิ้มไปตลอดทาง

“ตกลงเธอเป็นอะไรกับเจ้าของบ้านหลังนั้นกันแน่” ราพณ์ ถาม เพราะครั้งแรกที่เจอกัน เขาเข้าใจว่าหล่อนเป็นเด็กรับใช้ ของบ้านข้าง ๆ คิดเองง่าย ๆ จากสภาพการแต่งกายที่เห็น ไม่เพียงแค่นั้น หล่อนยังรับสมอ้างเสียด้วย แต่เจ้านายบ้านไหนจะยอมให้คนใช้ไปทำงานนอกบ้าน

“พิช เป็นหลานคุณย่า แต่ก็ไม่ต่างอะไรจากเด็กรับใช้หรอกค่ะ” หญิงสาวกล่าวเช่นนั้น เพราะหล่อนต้องช่วยทำงานบ้านทุกอย่าง คุณย่าไม่ยอมเสียเงินค่าจ้างมากเกินจำเป็น อะไรช่วยกันทำได้ก็ทำ

“พูดอย่างนี้ จะแต่งเรื่องเรียกคะแนนสงสารหรือไง” ราพณ์คิดไปอีกทาง เพราะชีวิตที่ผ่านมามัน ทำให้ชายหนุ่มเป็นคนขี้ระแวง ไม่ไว้ใจใครง่าย ๆ ด้วยความที่เขาเป็นลูกชายคนเดียวและคนสุดท้องของตระกูลใหญ่ ที่เกิดจากเมียรอง ทำให้ต้องเผชิญกับอะไรมากมาย การแก่งแย่ง ชิงดีชิงเด่น เขาเห็นมาแต่เด็กจนเอือม เมื่อเขาสามารถพึ่งพาตัวเองได้ จึงแยกตัวออกมาอยู่คนเดียว เพราะมารดาไม่ยอมออกมาด้วย ถึงจะเป็นภรรยารองแต่ก็เป็นคนที่ให้กำเนิดลูกชายคนเดียวของตระกูล

“น่าสงสารตรงไหนคะ ก็แค่บ้านเรามีแม่ครัวและเด็กรับใช้อีกเพียงคนเดียว ทำให้พิช ต้องช่วยงานบ้านทุกอย่าง เท่าที่จะทำได้ เพราะคุณย่าไม่อยากเสียเงินไปกับค่าจ้างมากเกินไปก็แค่นั้น มันก็ไม่เห็นรันทดตรงไหนเลยนี่คะ” พิชญาอธิบายตามความจริง ไม่เข้าใจว่า คนที่คิดลบกับทุกเรื่องแบบนี้ จะมีความสุขได้ตอนไหน

“ผมจะไปรู้ได้ยังไง ไม่บอกให้ชัด”

“ขอโทษค่ะ..... เป็นความผิดของพิชใช่มั้ยคะ”

“ยังจะมายอกย้อนอีก” ราพณ์ ปรายตามามองขุ่นเขียว

อะไรของเขาวุ้ย! พิชญาเงียบ ขนาดหายใจ ยังไม่กล้าหายใจแรงเลย เกรงจะโดนต่อมโมโหของเขาเข้าอีก ไม่เข้าใจคุณเรยาเลยจริง ๆ ว่าทำไมถึงอยากได้ผู้ชายคนนี้นัก

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel