บท
ตั้งค่า

31

“หนูดาว คิดว่าตาราพณ์ กับหนูพิชเนี่ย เขาเป็นคู่รักกันจริง ๆ หรือเปล่า ทำไมป้ารู้สึกว่ามัน..ยังไงชอบกล” คุณหญิงโสภิตตั้งคำถาม

“หนูก็ไม่แน่ใจหรอกค่ะ ยังสงสัยอยู่เลย ตั้งแต่วันแรกที่เจอกันแล้ว น้องดาว ไม่เคยมีอาการหึงหวงคุณราพณ์สักนิด มันผิดวิสัยคนที่เป็นแฟนกันไปหน่อยนะคะ”

“นั่นสิ พอพูดถึงเรื่องแต่งงาน ตาราพณ์ปฏิเสธพัลวันเลย หรือว่าคู่นี้มีวาระซ่อนเร้น” คุณโฉมนภาตั้งข้อสังเกต

“แต่ที่แน่ ๆ น้องพิชเป็นเด็กดีจริง ๆ นะคะ ข้อนั้นหายห่วงได้เลยค่ะ” ดุจดาวยืนยันอย่างมั่นใจ

“อืม..ข้อนั้นป้าก็เห็นด้วย ไม่ติดใจอะไรแล้วล่ะ แต่สงสัยว่าเขาแค่อุปโลกน์หนูพิชให้เป็นแฟนหรือเปล่า เพื่อให้พวกแม่ ๆ เลิกยุ่งกับชีวิตโสดของเขาเสียที

“อย่างนี้ต้องพิสูจน์” หญิงสามวัยพูดขึ้นพร้อมกัน

บทที่ 12

กิจกรรมวอล์คแรลลี่ เริ่มต้นแต่เช้า แดดยังอ่อนอากาศสดชื่นเย็นสบาย พนักงานทุกคน ไม่เว้นแม้กระทั่งผู้บริหารอย่างราพณ์ ที่เข้าร่วมกิจกรรมครั้งนี้ เพื่อละลายพฤติกรรม สร้างความสามัคคี และเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันในองค์กร มีทั้งหมดสิบฐาน แต่ละฐานก็สร้างความสนุก โหด มัน ฮา ที่แต่ละทีมจะต้องช่วยกันฝ่าด่านผ่านไปให้ได้ แม้จะทุลักทุเลแค่ไหนก็ตาม

เสร็จจากกิจกรรมกลางแจ้ง ช่วงบ่ายต่อด้วย สันทนาการ ฮา ๆ ในห้องประชุม ก่อนที่จะแยกย้ายกันไปเลือกชุดแฟนซีหน้ากากสวย ๆ ที่ท่านประธานสั่งมาให้พนักงานเลือกใช้กันตามใจชอบ เพื่อร่วมงานเลี้ยงในช่วงเย็น

คุณหญิงโสภิต คุณโฉมนภา นั่งเป็นประธานที่โต๊ะกลาง ทั้งสองท่านมาในชุดคลีโอพัตราสีทองแม้จะดูว่าสมบูรณ์ไปสักหน่อย แต่ก็ยังคงความสง่างามเยี่ยงคลีโอพัตราไว้ได้ ในขณะที่พิชญา กับดุจดาวอยู่ในชุดเจ้าหญิงทั้งคู่ ส่วนสองหนุ่ม ราพณ์กับคิม จะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจากเจ้าชาย ส่วนคนอื่น ๆ ก็เลือกตามที่ชอบ บางคนออกแนวตลก หรือพวก แม่มด อินเดียแดง แม้กระทั่งชุดสัตว์น่ารัก ๆ อย่างแมวการ์ฟิลด์ ไดโนเสาร์

งานเลี้ยงดำเนินไปอย่างสนุกสนาน หัวโขนถูกถอดวางไว้นอกห้อง หลังการมอบรางวัลพนักงานดีเด่น รางวัลทีมที่ชนะการแข่งขันวอล์คแรลลี่ ผ่านไปแล้ว ก็ปล่อยให้มีการ ดื่ม กิน เต้นรำ กันเต็มที่ แต่ที่ทำให้ราพณ์เริ่มขัดใจหน่อย ๆ เห็นจะเป็นหน้ากากอัศวิน ที่จองเต้นรำกับเจ้าหญิงของเขาไม่ยอมปล่อย กระทั่งชายหนุ่มหมดสนุก ส่วนคู่ของคิมกับดุจดาวก็ไม่ยอมห่างกันเลย เหมือนทุกคนจงใจให้เขานั่งเหงาอยู่คนเดียว ราพณ์จึงได้กระดกน้ำสีอำพันเข้าปากเป็นการแก้เหงา

“เห็นอะไรไหมคะคุณพี่” คุณโฉมนภา สะกิดถามคุณหญิงโสภิต

“อะไรล่ะ ฉันเห็นเยอะแยะ จนเวียนหัวไปหมด”

“ก็ตาราพณ์น่ะสิคะ นั่งนิ่งเป็นปูนปั้น แผ่รังสีไปทางเจ้าหญิงกับอัศวินโน่นแน่ะค่ะ”

“อืม หล่อนนี่ตาดีเหมือนกันนะ” คุณหญิงโสภิตชม

“สงสัยจะหึงหนูพิชนะคะ” คุณโฉมนภา ป้องปากพูด

“ดีแล้ว อย่างน้อยเขาก็รักกันจริง ๆ พ่ออัศวินของเธอทำงานใช้ได้นี่” คุณหญิงโสภิตชื่นชม สบายอกสบายใจ

“ตาราพณ์ ไม่ออกไปสนุกบ้างหรือจ๊ะ สาว ๆ ที่ยังว่างก็มีอีกเยอะนะ” คุณโฉมนภาถามลูกชายที่นั่งอยู่ตรงกันข้าม

“ไม่ดีกว่าฮะ นั่งดูเขาสนุกกันก็เพลินดีครับ คุณแม่”

“งั้นก็ตามใจ ดูหนูพิชกับพ่ออัศวินสิคะคุณพี่ ท่าเต้นน่าเอ็นดู” คุณโฉมนภาหันมาคุยกับคุณหญิงโสภิต

“ฉันว่าเจ้าหญิงกับเจ้าชายคู่นั้นก็น่ารักไม่แพ้กันนะ” คุณหญิงโสภิต หมายถึงคู่ของคิมกับดุจดาว

ราพณ์ยกแก้วน้ำสีอำพันขึ้นดื่ม คนชงก็ขยันเติมเสียจริง กว่างานเลี้ยงจะเลิก เล่นเอาชายหนุ่มมึน ๆ

ดุจดาวขออยู่คุยกับคุณหญิงโสภิต กับคุณโฉมนภา ไล่ให้พิชญากลับขึ้นห้องมาก่อน ส่วนชายหนุ่มขึ้นมายืนรอที่หน้าห้องก่อนแล้ว ราพณ์ดึงแขนพิชญาไว้ก่อนที่หล่อนจะเปิดประตูเข้าห้องไป

“สนุกมากใช่ไหมวันนี้ ไอ้เจ้าอัศวินนั่นมันเป็นใคร” ราพณ์ถามเสียงดุ

“พิชจะรู้ได้ยังไง คงจะเป็นเพื่อนคุณคิมมั้งคะ”

“ขนาดไม่รู้จัก ยังอี๋อ๋อกับมันทั้งคืน” ชายหนุ่มรวน

“คุณราพณ์เมาหรือเปล่าคะ อย่ามาพาลพิชนะคะ”

“ผมไม่ได้พาล ผมมาเตือนความจำคุณ” ราพณ์ดันตัวสาวน้อยจนแผ่นหลังติดกับประตู ล็อคแขนไว้ทั้งสองข้าง

หญิงสาว ดิ้นรนผลักไส แต่ก็โดนเขาตรึงไว้หนาแน่น ไม่สามารถขยับเขยื้อนเคลื่อนไหวได้

“คุณราพณ์ใจเย็น ๆ นะคะ ตั้งสติค่ะ นี่พิชนะคะไม่ใช่คนอื่น เราไม่ได้เป็นอะไรกันจำไม่ได้หรือคะ ทุกอย่างมันแค่ข้อตกลงทางธุรกิจของเราไงคะ” หญิงสาวเอาน้ำเย็นเข้าลูบ ดูเหมือนชายหนุ่มจะได้สติขึ้นมาบ้าง แต่คนที่แทบจะสิ้นสติ ก็คือ คุณหญิงโสภิต คุณโฉมนภา และก็ดุจดาว ทั้งสามแอบตามสองหนุ่มสาวมา และหลบอยู่ตรงมุมหน้าลิฟท์ ซึ่งได้ยินเต็มสองหู

“ผมขอโทษ สงสัยเมาไปหน่อย เข้าไปนอนได้แล้ว ล็อคประตูดี ๆ นะ”ชายหนุ่มปล่อยสาวน้อยเข้าห้องไป เกือบไปแล้ว เขาเกือบทำเรื่องที่ไม่น่าให้อภัย เพราะขาดสติแท้ ๆ เหล้ามันไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาเลยจริง ๆ กลับจะยิ่งทำให้เรื่องมันยุ่งเข้าไปอีก

กลุ่มคนที่แอบฟังอยู่ กะเวลาให้ผ่านไปอีกสักพัก จึงได้กลับเข้าห้อง คุณหญิงเรียกให้ดุจดาวเข้าไปคุยกันก่อน เหมือนมีเรื่องต้องปรับแผนเป็นการด่วน

“ไม่น่าเชื่อนะคะ เป็นอย่างที่เราสงสัยกันจริง ๆ” คุณโฉมนภาเอ่ยอย่างเสียดาย เกือบจะได้ลูกสะใภ้แล้วเชียว

“แล้วอย่างนี้จะทำยังไงต่อคะ” ดุจดาวถามอย่างสงสัย

“ทำเป็นไม่รู้ แล้วก็ทำให้มันเป็นเรื่องจริงขึ้นมาไง” คุณหญิงโสภิตคิดด้วยสมองอันชาญฉลาด

“โอ้โห...สุดยอดเลยค่ะคุณพี่ คิดได้ไงคะ”

“สรุปว่าชม หรือประชดฉันยะ” คุณหญิงโสภิตค้อน

“ชื่นชมสิคะ น้องน่ะอยากได้หนูพิชมาเป็นสะใภ้จะตาย และดูท่าว่าตาราพณ์ก็จะมีใจด้วยนะ ไม่งั้นไม่หึงขนาดนี้หรอก”

“หนูดาวช่วย สืบทางหนูพิชหน่อย ว่ารู้สึกอะไรกับตาราพณ์หรือเปล่า”

“ค่ะ คุณหญิงป้า”

“เอาล่ะ วันนี้ไปนอนได้แล้ว ขอบใจมากนะจ๊ะ”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel