บท
ตั้งค่า

28

“......ฮ่า..ฮ่า......” ราพณ์หัวเราะลั่น เมื่อฟังหนุ่มรุ่นน้องเล่าเรื่องที่เข้าใจผิดดุจดาว

“โธ่....พี่...ผมจะบ้าตาย ป่านนี้คุณดาวยังไม่ยอมมองหน้าผมเลย” ชายหนุ่มหน้าม่อยลง นึกว่าจะได้รับความเห็นใจ แต่ที่ไหนได้..กลับเห็นเป็นเรื่องตลกเสียนี่

“เออ ๆ ขอโทษที มันอดขำไม่ได้ว่ะ” ราพณ์รีบออกมาหาคิมที่ร้านเดิม เมื่อเขาโทรหาบอกว่ามีเรื่องคอขาดบาดตาย แต่พอหนุ่มคิมเล่าจบเท่านั้น ราพณ์ถึงกับ ระเบิดเสียงหัวเราะออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่

“ผมซีเรียสจริง ๆ นะฮะ คนนี้ผมจริงจังหวังให้เป็นแม่ของลูก” พูดจบ คิมยกแก้วเบียร์เย็นฉ่ำขึ้นดื่ม รวดเดียวหมด

“ไม่น่าเลย เพราะความโง่ของผมแท้ ๆ ที่ด่วนตัดสินเขาว่ามีเสี่ยเลี้ยง” ชายหนุ่มไม่เคยต้องฟูมฟายเพราะผู้หญิงแบบนี้

“เอาน่า พรุ่งนี้นายก็ไปขอโทษเขา ไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตายเสียหน่อย”

“ไม่ใช่ คุณดาวคนเดียวสิฮะ ยังจะพ่อเขาอีก ถ้าเขาเอาปืนมาไล่ยิงผมได้ เขาคงทำไปแล้ว พี่ไม่เห็นหน้าตอนที่เขารู้ว่าผมคิดอะไรกับลูกสาวเขาน่ะ....สยองมาก.....ขอบอก..

“งั้นพรุ่งนี้ฉันจะเข้าไปหาคุณแม่ กับแม่ใหญ่ให้ท่านช่วย”

“มันจะดีเหรอฮะ เดี๋ยวคุณดาวจะหาว่า ผมเอาผู้ใหญ่มาบีบ จะไม่ยิ่งโกรธกันไปใหญ่หรือฮะ”

“อืม..........ถ้าอย่างนั้น.......พรุ่งนี้ฉันจะพาคุณพิช ไปหาคุณแม่กับคุณแม่ใหญ่ แล้วก็ถือโอกาสเคลียร์ทางให้แกแบบเนียน ๆ ด้วยเลยดีไหม” ราพณ์ครุ่นคิด แล้วดีดนิ้วเปาะ เมื่อหาทางออกสวย ๆ ได้

“ขอบคุณนะฮะ พี่ชายสุดที่รักของผม”

“ไม่ต้องมาหวานใส่ฉันเลย คนอื่นเขาเข้าใจผิดกันหมดแล้ว”

“......ฮ่า...ฮ่า.....กลัวด้วยเหรอฮะ..ผมไม่เคยเห็นพี่จะแคร์อะไรเลย แต่อย่างว่าแหละ คุณพิชเข้าใจคนเดียวก็พอ ใช่ไหมฮะ”

“เออ ! คนนั้นแหละ ตัวดีเลย” ราพณ์นึกถึงหน้าใส ๆ ของหล่อนแล้วอบอุ่นขึ้นมาในใจ

“คุณย่าขา... พิชสวยหรือยังคะ” หญิงสาวเดินมาหมุนตัวต่อหน้าผู้เป็นย่า หล่อนใส่ชุดเดรสสีกลีบบัว ท่อนบนเป็นผ้าลูกไม้แนบลำตัวเผยให้เห็นอกเอวได้รูปไร้ส่วนเกิน ส่วนกระโปรงบานผ้าซาตินสีเดียวกันแลดูสวยหวาน น่าทะนุถนอม

“สวยอยู่แล้วหลานย่า ไม่เชื่อก็ดูย่าก่อนเป็นไง” คุณอนงค์อารมณ์ดีเป็นพิเศษ วันนี้ราพณ์จะพายัยพิชไปกราบผู้ใหญ่ของเขา อย่างน้อยเขาก็เปิดเผยจริงจัง ไม่คิดมาเล่น ๆ เท่านี้ก็ทำให้นางปลื้มอกปลื้มใจไม่น้อย

“สวยมากเลยค่ะ คุณหนูพิช เหมือนเจ้าหญิงตัวน้อย ๆ เลยค่ะ” แป้นเสริม

“ขนาดนั้นเลยเหรอคะ พี่แป้น” หญิงสาวหัวเราะคิก ชุดนี้หล่อนเตรียมไว้นานแล้ว ตั้งแต่เจ้านายโทรบอกครั้งก่อน นึกว่าจะไม่ได้ใส่เสียแล้ว ขนาดเป็นเพียงการแสดง หัวใจหล่อนยังพองฟูขนาดนี้ ถ้าหากเป็นความจริง คงจะดีใจจนลอยขึ้นไปติดบนเพดานโน่นล่ะมั้ง

“สวัสดีครับคุณย่า” ราพณ์เข้ามารับหญิงสาว

“ระวังยัยพิชจะไปทำขายหน้าเอานะคะ แม่นี่เขาโตแต่ตัว ยังกระโดกกระเดกอยู่เลย ฝากด้วยนะคะคุณราพณ์” คุณอนงค์ออกตัวไว้ก่อน เผื่อมีอะไรผิดพลาด

หนุ่มสาวพากันมาขึ้นรถออกไป ดูเผิน ๆ ก็เป็นคู่รักที่เหมาะสมกันราวกับกิ่งทองใบหยก พิชญาไม่ได้รู้สึก วิตกกดดันเลยแม้แต่น้อย

“เป็นอะไรคุณ นั่งอมยิ้มอยู่นั่นแหละ” ราพณ์อดไม่ได้ที่จะเหน็บคนข้างตัว

“จะให้ร้องไห้ หรือคะ ในเมื่อแฟนกำลังจะพาไปกราบญาติผู้ใหญ่” หญิงสาวลอยหน้าตอบ

“ให้มันน้อย ๆ หน่อย อย่าฝันเฟื่อง”

“ก็ต้องบิ้วอารมณ์ ไปก่อนสิคะ เดี๋ยวแสดงไม่สมบทบาท”

“ขนาดนั้นเชียว” ราพณ์จะเอื้อมมือมาขยี้ผม ตามความเคยชินที่เขาจะทำเมื่อนึกหมั่นไส้ยัยโก๊ะขึ้นมา

“อ๊ะ ๆ ...ไม่ได้นะคะ เดี๋ยวผมยุ่ง ไม่สวยน๊า....” หญิงสาวเอี้ยวตัวหลบ หล่อนอุตส่าห์หาที่คาดผมอันเล็ก ๆ ที่ประดับผีเสื้อเพชรตัวน้อยๆ ไว้อย่างน่ารัก

“ไม่กลัวจริง ๆ เหรอ คุณแม่ผมดุนะ ยิ่งคุณแม่ใหญ่ด้วยแล้ว เข้มงวดน่าดูเลยล่ะ” ราพณ์แกล้งขู่

“คุณราพณ์จะให้ พิชทำตัวยังไงดีคะ บอกได้นะ ตามใจลูกค้าอยู่แล้ว”

“ก็เป็นตัวคุณนั่นแหละ ตามสบาย”

“แน่ใจนะคะ”

“ฮื้อ...”

พิชญานั่งอยู่ต่อหน้าหญิงคุณโฉมนภา และคุณหญิงโสภิต หล่อนรู้สึกว่าตัวเองเล็กลงเหลือนิดเดียว ขนาดไม่ได้เกร็งนะเนี่ย จะไม่ให้หวั่นใจได้อย่างไร ในเมื่อท่านทั้งสองกันให้คุณราพณ์ออกไปก่อน ทิ้งให้หล่อนเผชิญหน้าตามลำพัง

“ได้ข่าวว่า เธออยู่กินกับตาราพณ์แล้วหรือจ๊ะ ทำไมผู้หญิงสมัยนี้ถึงได้ใจร้อนกันจัง” คุณโฉมนภา เปิดฉากโจมตีทันที ไม่ต้องมัวไหว้ครู ทั้ง ๆ ที่หน้าตายังยิ้มแย้ม

“ไม่ใช่นะคะ พอดีบ้านเราอยู่ติดกัน ถึงได้ไปไหน มาไหน ด้วยกันบ่อย ๆค่ะ” พิชญาชี้แจง

“อ๋อ...มีบ้านอยู่ในหมู่บ้านนั้นด้วย ก็ยังดี ฉันคิดว่าตาราพณ์ไปคว้าหล่อนมาจากชุมชนแออัดเสียอีก แล้วอยู่กับใครล่ะ” คุณโฉมนภาซักต่อ น้ำเสียงดีขึ้นมานิดนึง

“อยู่กับคุณย่าค่ะ แล้วก็แม่บ้านหนึ่ง แม่ครัวหนึ่ง”

“อ้อ...มีเจ้าบู้บี้อีกหนึ่งตัวด้วยค่ะ”

“อะไรของเธอ เจ้าบู้บี้” คุณโฉมนภาขมวดคิ้ว

“ลูกหมาน่ะค่ะ พันธุ์อเมริกันบูลลี่ แต่มันไม่ค่อยเหมือนเผ่าพันธุ์ของมันหรอกนะคะ คงจะผสมปนเปมาบ้างแล้ว” หญิงสาวยิ้ม ดวงตาเป็นประกาย เมื่อนึกถึงเจ้าบู้บี้

“รู้จักกับตาราพณ์ มานานแล้วหรือจ๊ะ” คุณหญิงโสภิต ถามขึ้นหลังจากนั่งพิจารณาสาวน้อยอยู่นาน

“ก็สักพักแล้วค่ะ” พิชญาตอบอ้อมแอ้ม ก้มมองมือตัวเอง ไม่กล้าสบตาคมดุของคุณหญิงโสภิต จึงไม่ได้เห็นว่าท่านยิ้มออกมา ผิดกับตอนพูดเรื่องเจ้าบู้บี้

“เอาล่ะ ไปทานข้าวกัน” คุณหญิงโสภิตเดินนำไปที่ห้องอาหาร โดยที่ราพณ์นั่งกระสับกระส่าย รอคอยอย่างใจจดใจจ่อ กลัวความลับจะแตก อีกทั้งเป็นห่วงสาวน้อย จะรับมือแม่ ๆ ของเขาไม่ไหว

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel