25
ภายในร้านกว้างบรรยากาศสบาย ๆ สไตล์คันทรี แสงไฟสลัวบวกกับเสียงดนตรีบรรเลงสด กำลังเล่นเพลงสากล country ฟังชิว ๆ เอาใจนักดื่ม ทั้งรุ่นเก่าและใหม่ ช่วยให้ความรู้สึกผ่อนคลาย แต่แฝงไว้ด้วยความสนุกสนาน
“มีอะไรหรือเปล่า ถึงได้ชวนฉันมาดื่ม ปกติแกไม่ค่อยชอบดื่มนี่นา” ราพณ์สงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นกับเพื่อนรุ่นน้อง
“อกหักมั้งฮะ” คิมตอบง่าย ๆ ขณะหยิบเม็ดมะม่วงหิมพานต์ เข้าปาก
“อะไรนะ สาวคนไหนล่ะที่ทำให้หนุ่มหล่อ พ่อรวยอย่างนายอกหักได้” ราพณ์แกล้งสัพยอก
“พี่ว่าคุณดุจดาวเป็นยังไงบ้างฮะ” คิมไม่ตอบคำถาม แต่ถามกลับ
“อืม....ก็สวยดีนะ ดูมีสมองด้วย” ราพณ์ทำท่าคิด แล้วก็ตอบออกไป ตรงกับภาพที่เขาเห็นอย่างที่ดุจดาวเป็น
“แค่นั้นเหรอฮะ มีอะไรพิเศษกว่านั้นหรือเปล่า” คิมพยายามจะค้นหาความในใจของราพณ์ให้ได้
“ก็ไม่นะ ถามแปลกแฮะ” ราพณ์จ้องหน้าคิมชัด ๆ เริ่มสงสัย
“นายนั่นแหละมีอะไรหรือเปล่า” ราพณ์คาดคั้น
“ผมรู้สึกว่าคุณดุจดาวเขาชอบพี่นะฮะ” คิมโพล่งออกมาได้ ก็โล่งใจ
“เฮ้ย ! ฉันมีแฟนแล้ว” ราพณ์สะดุ้ง
“นั่นน่ะสิฮะ ทีคนโสด ๆ อย่างผมเธอไม่สน” ชายหนุ่มพูดพลางยกแก้วเบียร์ขึ้นดื่มอึกใหญ่
“เธอบอกนายเหรอ” ราพณ์เป็นฝ่ายซักบ้าง
“เปล่าหรอกฮะ แต่ผมคิดว่าใช่” คิมยังติดใจ ที่ดุจดาวไม่ยอมปฏิเสธเรื่องที่เขาถาม
“อย่าคิดมาก ถ้าไม่ใช่ ยังไงมันก็ไม่ใช่” ราพณ์ปลอบใจเพื่อนรุ่นน้องได้ดีที่สุดแค่นี้จริง ๆ ลำพังตัวเขาเอง เขายังไม่เห็นว่าเรื่องรัก ๆ ใคร่ ๆ มันจะสลักสำคัญอะไรนักหนา
“ฉันว่านะ คนอยากกินนมวัว ก็ไม่เห็นจะต้องเลี้ยงวัวให้ยุ่งยากเลยนี่หว่า ซื้อเขากินก็ได้” ราพณ์ ออกความเห็นอย่างคนที่ใช้เงิน ซื้อ จนเคยชิน
“คิดอย่างนั้นจริง ๆ เหรอพี่” ไม่รู้ว่าเขางง หรือว่าพี่ราพณ์มึนกันแน่ อยากจะย้อนถามนัก ถ้าคิดอย่างนั้น แล้วมีแฟนทำไมวุ้ย
“เออ ๆ มาดื่มหมดนี่ก็พอแล้ว เดี๋ยวต้องขับรถ ฉันไม่อยากให้คนอื่นต้องมาเดือดร้อนด้วย” ราพณ์สั่งเบียร์มาขวดเดียว ส่วนใหญ่จะนั่งดื่มด่ำกับเสียงเพลงกันมากกว่า
พิชญายกข้อมือขึ้นดูนาฬิกาเป็นครั้งที่สามแล้ว ปกติชายหนุ่มจะมาตรงเวลา แต่วันนี้หล่อนชะเง้อจนคอจะเป็นยีราฟอยู่แล้ว จึงตัดสินใจเดินทางไปทำงานเองดีกว่า ถึงแม้ว่าหล่อนจะได้ชื่อว่าเป็นแฟนเจ้าของบริษัทแต่แท้จริงแล้ว อะไรเป็นอะไรย่อมรู้กันอยู่แก่ใจ เพราะฉะนั้นฝึกวินัยในการทำงานไว้ไม่เสียหลาย
เลขาสาว เดินทางถึงที่ทำงานแต่เช้าเร็วกว่าตอนมากับเจ้านายเสียอีกเนื่องออฟฟิศใกล้กับสถานีรถไฟฟ้า เสียอย่างเดียว ไม่ฟรี พนักงานยังบางตา ความจริงหล่อนชอบการมาทำงานแต่เช้ามากกว่า เพราะจะได้มีเวลาเตรียมตัวให้พร้อม อย่างวันนี้มีประชุมตอนสิบโมง หวังว่าเจ้านายจะมาทันนะ เขาไม่เคยสาย รอสักเก้าโมง หล่อนค่อยโทรไปเตือน หากเจ้านายยังไม่มา
“สวัสดีค่ะ พี่ดาว” พิชญาทักทาย สาวสวยที่เดินยิ้มมาแต่ไกล
“สวัสดีจ้า น้องพิช คุณราพณ์อยู่ข้างในใช่ไหมคะ” หญิงสาวทำท่าจะเดินเข้าไปหาในห้อง
“เจ้านายยังไม่เข้ามาเลยค่ะ โทรศัพท์ก็ไม่เปิด” พิชญาหน้านิ่ว คิ้วขมวด
“น้องพิชคะ เจ้านายยังไม่มาเหรอคะ” หัวหน้าฝ่ายบุคคลเดินเข้ามาถาม วันนี้ผู้เข้าร่วมประชุมจะตื่นเต้นกันเป็นพิเศษ เพราะจะมีทั้งเรื่องโบนัส และการจัดสัมมนานอกสถานที่รวมถึงการพักผ่อนประจำปี อันเป็นกิจกรรมที่พนักงานส่วนใหญ่ต่างรอคอย
“ยังติดต่อไม่ได้เลยค่ะ” พิชญาก็ร้อนใจไม่น้อยกว่าใคร เพราะหล่อนโทรหาเขาตั้งแต่เก้าโมงเช้า คุณราพณ์ก็ยังไม่เปิดเครื่อง จนกระทั่งตอนนี้ เหลืออีกห้านาทีก็ยังติดต่อไม่ได้
“อ้าว ! นั่นไง เจ้านายมาโน่นแล้วค่ะ” พิชญายิ้มโล่งอก เมื่อเห็นชายหนุ่มเดินก้าวยาว ๆ มาแต่ไกล
“งั้น พี่ไปรอในห้องนะจ๊ะ” หญิงวัยกลางคนยิ้มออก หล่อนหวังไว้เต็มที่ว่าวันนี้จะมีข่าวดีไปแจ้งกับลูกน้อง
พิชญาเตรียมแฟ้ม และอุปกรณ์เข้าห้องประชุมพร้อมกับดุจดาวที่ขอเข้าไปสังเกตการณ์ด้วย
ราพณ์เข้ามานั่งหัวโต๊ะ เป็นประธานในที่ประชุม ถึงแม้หน้าตาของเขาแลดูอิดโรย แต่ก็ยังสามารถดำเนินการประชุมจนเสร็จสิ้นไปด้วยดี เป็นไปตามที่หลายคนต่างก็รอคอย คือบริษัทจ่ายโบนัสพนักงาน หกเท่าของเงินเดือน ทำเอาทุกคนปลื้มปริ่ม เพิ่มจากปีที่แล้วที่ได้สี่เท่า และยังไม่หมดแค่นั้น การสัมมนาประจำปีจะจัดขึ้นในสัปดาห์หน้า สามวันสองคืนที่ภูเก็ตอีกต่างหาก
พิชญา นำผ้าเย็นและซุปไก่สกัดเข้าไปให้เจ้านายหนุ่ม หลังออกจากห้องประชุม
“คุณราพณ์เป็นอะไรหรือเปล่าคะ ดูเพลีย ๆ” พิชญาเห็นเจ้านายหนุ่มนั่งเอนพิงพนักเก้าอี้ หลับตานิ่ง ๆ
“เมื่อคืนนอนดึก ออกไปดื่มกับเจ้าคิมมา”
“อ๋อ...” หญิงสาวลากเสียงยาว คิดว่าเข้าใจดี
“มึนหัว” ชายหนุ่มตอบทั้งยังหลับตา ไม่ได้รู้ตัวเลยว่าทำให้อีกฝ่ายคิดซุกซุนไปถึงไหนต่อไหน
“ผมขอกาแฟขม ๆ อีกแก้วนะ”
“ไม่ค่ะ คุณราพณ์ เพิ่งดื่มไปเองนะคะ มันจะไม่เป็นผลดีต่อสุขภาพ” หญิงสาวแย้ง ไม่ยอมตามใจ
“ดื่มนี่ดีกว่าค่ะ” พิชญายื่นซุปไก่สกัดให้ ชายหนุ่มรับมาดื่มรวดเดียวหมด
“ถ้าไม่ไหวก็กลับไปนอนเถอะค่ะ ช่วงบ่ายคุณราพณ์ไม่มีนัดที่ไหนนี่คะ”
“ผมไม่อยากไป” ชายหนุ่มรวบเอวหญิงสาวมากอดดื้อ ๆ เหมือนเด็กงอแง
“อึ๊ย....คุณราพณ์” หญิงสาวจั๊กจี้ ดันตัวเองออกมา ดีที่มีท้าวแขนเก้าอี้กั้นอยู่ ไม่อย่างนั้นคงได้ร่วงลงไปนั่งตักเขาแล้ว ถึงแม้จะพยายามคิดว่าเขาเป็น พี่สาว ก็เถอะ แต่สรีระของเขาคือผู้ชายชัด ๆ
ก๊อก...ก๊อก......ก๊อก..
