24
กลับจากบ้านคุณหญิงโสภิตแล้ว ดุจดาวแวะซื้อของที่ห้างสรรพสินค้า แล้วจึงกลับคอนโด ใกล้จะพลบค่ำพอดี เสียงชายหนุ่มหน้าทะเล้น ยังแว่วอยู่ในหู "ตอนเย็นเจอกันนะฮะ" เชอะ ! ใครจะไปอยากเจอด้วย
หญิงสาวกลับห้องพักเปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วลงมาห้องฟิตเนส ซึ่งเป็นสิ่งที่หล่อนปฏิบัติเป็นประจำ มีคนนั่งปั่นจักรยานอยู่แล้วแค่สองคน ดุจดาวเลือก ลู่วิ่งไฟฟ้าที่ตั้งเรียงรายอยู่หลายเครื่อง หล่อนเลือกจับจองเครื่องในสุด จัดการสวมหูฟัง เพื่อฟังเพลงโปรด พร้อมกับการจ๊อกกิ้งเบา ๆ เท่านี้ก็สุดแสนจะเป็นสุขแล้ว
“ทำไมกลับช้าจังฮะ” คิมเข้ามาใช้ลู่วิ่งข้าง ๆ ดุจดาว ชายหนุ่มตามมาตั้งแต่เห็นหล่อนออกจากห้องแล้ว ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าเขาได้อยู่ห้องข้าง ๆ หล่อนนี่เอง สงสัยพรหมลิขิตจริง ๆ แฮะ
หญิงสาวยังตั้งหน้าตั้งตาวิ่ง โดยไม่สนใจ หล่อนรู้แค่ว่ามีคนมาใช้ลู่ข้าง ๆ แต่ไม่ได้สนใจมองว่าเป็นใคร จึงไม่รูว่าชายหนุ่มเอ่ยอะไร
“คุณดาวฮะ” คราวนี้คิม พูดเสียงดังกว่าเดิม เกือบเป็นตะโกน พร้อมกับโบกไม้โบกมือเรียกความสนใจอยู่ข้าง ๆ
ได้ผล...หญิงสาวหันมามอง เจอชายหนุ่มส่งยิ้มมาให้เต็มหน้า เธอถอดหูฟัง นึกหมั่นไส้กับหนุ่มหน้าเป็น เห็นหล่อนเป็นเพื่อนเล่นหรือไง ตอแยอยู่ได้ !
“นี่คุณ เมื่อไหร่จะไปผุดไปเกิดเสียที ตามหลอกหลอนกันอยู่ได้” หญิงสาวอยากจะว่าให้เจ็บ ๆ แต่หล่อนก็สรรหาคำ มาได้แค่นี้
“ผมยังไม่ตายคร๊าบ......คุณผู้หญิง”
“อ้าวเหรอ ! ฉันนึกว่าวิญญาณเสียอีก แวบไปแวบมา” หญิงสาวต่อว่า ทั้งที่เมื่อตอนกลับมายังแว่วเสียงของเขาอยู่เลย
“คุณไม่เข้าใจเหรอ ใจอยู่ที่ไหน กายก็ตามไปที่นั่น” ชายหนุ่มไม่รู้เหมือนกันว่าไปจำคำพูดแบบนี้มาจากไหน
“ไม่เข้าใจ ตรรก อะไรของคุณ” หญิงสาวช่างไม่ให้เกียรติคำคมของเขาเลย
“โธ่ ! มีมิตรดีกว่ามีศัตรูไม่ใช่เหรอฮะ” ชายหนุ่มอ้อนเสียงอ่อย
“ถ้ามิตรแท้ จริงใจละก็ดีแน่ แต่เกรงจะกลายเป็น มิตรสนิท คิดไม่ซื่อ” ดุจดาวนึกสนุก หยิบยกคำมาแปลงสู้กับเขา หญิงสาวเร่งความเร็วของลู่วิงไฟฟ้า เป็นอันว่าตัดบทสนทนา
คิมก็เช่นกัน เขาเร่งสปีด กลับมาตั้งใจวิ่ง วิ่ง และวิ่ง ราวกับทั้งสองคนจะวิ่งแข่งกัน ไม่มีใครยอมใคร จวบจนกระทั่งหญิงสาวหยุดเครื่อง หอบเหนื่อย จนพูดออกมาไม่เป็นคำ ปกติหล่อนจะวิ่งประมาณสี่สิบห้านาที ถึงหนึ่งชั่วโมง แต่นี่ปาเข้าไปหนึ่งชั่วโมงครึ่งแล้ว ซ้ำร้ายวันนี้หล่อนยังวิ่งด้วยสปีดเร็วกว่าปกติด้วย หญิงสาวลงจากเครื่องแทบจะลงไปนอนแผ่กับพื้น ถ้าไม่กลัวเสียฟอร์มหล่อนทำไปแล้ว
คิมหยุดวิ่ง เห็นหญิงสาวหน้าแดงจัด หอบเหนื่อย ดูท่าทางไม่ค่อยดี
“เป็นยังไงบ้างคุณดาว” ชายหนุ่มประคองดุจดาวมานอนตรงโซฟาตัวยาว เอาผ้าขนหนูเช็ดหน้าเช็ดตา ช่วยดูดซับความร้อนออกจากร่างกาย จับสองแขนขึ้นเหนือศีรษะ สั่งให้หญิงสาวสูดลมหายใจยาว ๆ สองสามครั้ง ดุจดาวจึงมีอาการดีขึ้น จากนั้นชายหนุ่มจึงส่งน้ำให้ค่อย ๆ จิบ
“ระวังหน่อยสิคุณ ประเมินกำลังตัวเองบ้าง ไม่ใช่มุ่งแต่จะเอาชนะ” คราวนี้คิมมีน้ำเสียงจริงจัง ไม่ได้ทะเล้น ทะลึ่งเหมือนเมื่อตอนเข้ามาใหม่ ๆ
“ได้ทีก็เอาใหญ่เลยนะคุณน่ะ แต่ก็ขอบคุณนะคะ” หญิงสาวเพิ่งจะพูดดี ๆ กับคิม เพราะถ้าไม่ได้เขาคงเป็นลมไปแล้ว เพราะหล่อนเริ่มใจหวิว ๆ คล้ายจะหน้ามืด
“ไปหาอะไรรองท้องเสียหน่อยดีกว่าฮะ สงสัยไม่ได้ทานข้าวเย็นด้วยล่ะสิ”
“................” ดุจดาวไม่ตอบ ก็หล่อนอายนี่ ที่จะบอกกับเขาว่ากำลังจะลดน้ำหนัก เลยงดมื้อเย็น ซ้ำยังโหมออกกำลังกายจนจะเป็นลมอยู่เนี่ย
ผมทำข้าวต้มให้ทานนะฮะ ห้องผมน่ะอยู่ข้าง ๆ ห้องคุณดาวเองฮะ
“ไปทานที่ห้องฉันดีกว่าค่ะ ถือเป็นการตอบแทนที่คุณช่วยเหลือ” ดุจดาวพูดดีกับเขาก็ได้เหมือนกัน
“เอาอย่างนั้นหรือฮะ ตกลง ด้วยความยินดีอย่างยิ่งครับผม”
“คุณนี่น๊า....เวอร์” ดุจดาวแอบยิ้มกับความขี้เล่นของเขา ขืนยิ้มให้เห็น จะได้ลามปามใหญ่
โจ๊กใส่ไข่สองชามร้อน ๆ วางอยู่คนละฝั่งโต๊ะอาหารขนาดสี่ที่นั่ง พร้อมกับน้ำส้มคั้นสดอีกสองแก้ว ชายหนุ่มหญิงสาวเข้านั่งประจำที่จัดการในส่วนของตัวเองอย่างรวดเร็ว
“เป็นโจ๊กที่อร่อยที่สุดในโลกของผมเลยนะฮะ” ชายหนุ่มพูดหลังจากกินโจ๊กจนเกลี้ยงชาม
“ฉันแค่อุ่น แล้วก็ใส่ไข่ลงไปเท่านั้นเอง ไม่ต้องพยายามชื่นชมขนาดนั้น” หญิงสาวขัดขึ้น
“แหม ก็ถือว่าเป็นฝีมืออุ่นอาหารที่ยอดเยี่ยมก็แล้วกัน” คิมยังไม่ละความพยายาม
ชายหนุ่มยกน้ำส้มขึ้นดื่มรวดเดียวหมด
“เป็นน้ำส้มที่อร่อยที่สุดในโลกอีกหรือเปล่าคะ” ดุจดาวดักคอ อย่างรู้ทัน
“คุณดาวน่ะ รู้ใจไปหมด อย่างนี้สิฮะถึงเรียกว่ารักกันจริง” ชายหนุ่มโมเมเอาดื้อ ๆ
“เดี๋ยว ๆ คุณ ตื่นก่อน ใครไปรักกับคุณอย่ามามั่ว” ดุจดาวไม่ยอมปล่อยผ่าน
“ผมพูดเผื่อไว้ก่อนไม่ได้เหรอฮะ หรือว่าคุณดาวมีใครอยู่แล้ว” ชายหนุ่มได้โอกาสหลอกถามแบบเนียน ๆ
“ทำไมฉันต้องบอกคุณ”
“เอ ! อย่าบอกนะว่าเป็น...พี่ราพณ์” ชายหนุ่มพูดไปก็ อดเจ็บแปลบในใจไม่ได้ ขออย่าให้เป็นอย่างนั้นเลย
“ไม่ต้องเดาเลย กลับได้แล้วคุณ” นอกจากไม่ตอบแล้ว หญิงสาวยังไล่เขาดื้อ ๆ
“ก็ได้ฮะ” ชายหนุ่มลุกขึ้นยืน ทำเป็นไหล่ห่อคอตก จนเกินเหตุ
.....อย่าคิดมาล้วงความลับจากฉันให้ยาก......ดุจดาวได้แต่มองตามหลังชายหนุ่มอย่างใช้ความคิด
