15
“แหม...ถือโอกาสเชียวนะยัยพิช...คุณราพณ์ก็อย่าตามใจกันนักนะคะ เดี๋ยวจะเหลิง” คุณอนงค์ตำหนิไม่จริงจังนัก ดูจะพออกพอใจเสียมากกว่า
แป้นเข้ามาลำเลียงอาหารไปจัดวางไว้บนโต๊ะใต้ร่มไม้ใหญ่ในสวนร่มรื่น ที่นาน ๆ เจ้าของบ้านจะได้ออกมาใช้มุมนี้สักครั้ง แม้เวลาจะใกล้เที่ยง แต่แดดก็ไม่ร้อน แถมมีลมพัดอ่อน ๆอีกต่างหาก เย็นสบาย ประหยัดค่าไฟฟ้าจากเครื่องปรับอากาศไปได้เยอะทีเดียว นอกจากนั้นยังช่วยให้ บรรยากาศบนโต๊ะอาหารเต็มไปด้วยความอบอุ่นเป็นกันเองอีกด้วย
วันนี้เจ้านายหนุ่มปล่อยให้เลขาสาวนั่งเฝ้าหน้าห้อง สั่งเลื่อนนัดตลอดบ่ายนี้ ไม่ได้บอกว่ามีธุระสำคัญอะไร รู้แต่ว่าเขารีบร้อนออกจากที่ทำงานไปตั้งแต่ตอนสายแล้ว แต่ก็ไม่ใช่ธุระกงการอะไรของ แฟนรับจ้าง อย่างหล่อนที่จะไปอยากรู้เรื่องส่วนตัวของเขาไปเสียทุกเรื่อง ก้มหน้าก้มตาทำงานของหล่อนไปดีกว่า แต่ก็อดชำเลืองมองบ่อย ๆ ไม่ได้ เฮ้อ! ......อย่าฟุ้งซ่าน.....หญิงสาวเตือนตัวเอง
เสียงฝีเท้ามากกว่าหนึ่งคน เดินมาหยุดที่โต๊ะของหล่อน
“พิช เดี๋ยวขอกาแฟสองที่นะ....ของนายยังสูตรเดิมใช่มั้ย 2-2-2” ราพณ์หันไปทำถามหนุ่มข้างกาย ผู้ชายอะไร ขนตายาวเป็นแพ สวยกว่าผู้หญิงเสียอีก ผิวขาว เรือนร่างสูงโปร่ง แต่บางกว่าเจ้านายหนุ่มเล็กน้อย
“โอ้โฮ...พี่ราพณ์ยังจำได้เหรอฮะ” ชายหนุ่มผู้มาใหม่ยิ้มปลื้ม
"ได้สิ...ไม่เห็นจำยากตรงไหน 2-2-2" ชายหนุ่มทวน
“เอ้อ !...พิช..นี่..คิม..เพื่อนรุ่นน้องผมเอง...นี่พิชญา เลขาพี่” ชายหนุ่มแนะให้ทั้งสองรู้จักกัน
“สวัสดีค่ะ คุณคิม” พิชญาพนมมือไหว้ คะเนดูแล้ว เขาต้องมีอาวุโสกว่าหล่อนแน่ ๆ
“สวัสดีฮะ..ยินดีที่ได้รู้จักนะฮะ”
“ไปคุยต่อในห้องกัน” ราพณ์ชวนเพื่อนรุ่นน้องเดินแยกไป เหมือนไม่อยากให้คิม คุยกับหญิงสาวนานเกินไป
สองหนุ่มหายกันเข้าไปภายในห้อง ไม่มีใครรู้ว่าหลังประตูบานนั้นเกิดอะไรขึ้น แต่คนที่ยืนชงกาแฟเก็บภาพและเสียงมาจินตนาการได้เป็นฉาก ๆ ..ขนาดจำได้ว่าดื่มกาแฟแบบไหน เนี่ยนะ..เชอะ !...จั๊กจี้หัวใจพิลึก......
หญิงสาวยกถาดกาแฟหอมกรุ่นพร้อมชิฟฟ่อนชิ้นเล็ก ๆ เข้าไปจัดวางให้เรียบร้อย แล้วก็รีบถอยออกมา ทันได้ยิน ชายหนุ่มบอกเพื่อนรุ่นน้อง ให้ไปพักที่บ้าน โอย...เจ้านาย..ไม่อยากจะคิดเลย .ตกลงเป็นแน่ ๆ ใช่ไหมเนี่ย อุตส่าห์แอบลุ้นว่าอาจจะไม่ใช่...เฮ้อ !... แต่ก็คงจะใช่นั่นแหละ เขาถึงไม่มีทีท่าว่าจะสนใจผู้หญิง ถึงกับยอมจ้างหล่อนด้วยราคาแพงลิบลิ่ว ให้เป็นไม้กันหมาให้เขากับคู่ขานี่เอง พิชญากลับมานั่งหงุดหงิด ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน ทำไมหล่อนต้องเป็นแบบนี้ด้วย ทั้งที่ ก็รู้อยู่เต็มอก
“คนนี้หรือเปล่าครับพี่ เลขาใหม่ที่มาแทนคุณเข็ม” คิมเอ่ยปากถามเมื่ออยู่กันตามลำพัง
“ใช่...คนนี้แหละ” ราพณ์ตอบแบบไม่ค่อยใส่ใจ
“ไม่เห็นเหมือนที่คุณป้าเล่าให้ฟังเลยฮะ” คิม หมายถึงคุณโฉมนภาแม่ของราพณ์ที่เขาแวะไปหาตั้งแต่เมื่อเช้า ทันทีที่กลับถึงเมืองไทย เพราะเขาสนิทสนมกับท่านราวกับแม่แท้ ๆ พอเจอหน้าก็บ่นเกี่ยวกับเลขาใจแตกให้ฟัง กว่าราพณ์จะเข้าไปรับ ก็เล่นเอาหูแทบชา
“คุณแม่เล่าว่าไงล่ะ”
“ท่านว่า.....พี่ราพณ์รับเด็กใจแตกมาทำงาน แต่คุณพิชญา ไม่เห็นน่าจะเป็นอย่างที่ว่าได้เลยนี่ฮะ” พิชญาที่เขาเห็น หล่อนดูสดใส ร่าเริง ปราดเปรียว มีชีวิตชีวา แบบนี้แหละที่เขาชอบ
“คุณแม่ก็เชื่อตาม เรยา นั่นแหละ ไม่รู้หลงใหลอะไรกันนักหนา” ชายหนุ่มตอบเบื่อ ๆ
“อืม...น่าสนใจ...แฮะ..” คิมทำท่าคิด เขาต้องรู้ให้ได้ ระหว่างพี่ราพณ์ กับเลขาสาวเป็นอะไรกันแน่
เย็นนั้นราพณ์ พาคิม มาเลี้ยงอาหารเย็นก่อนกลับบ้าน โดยพาพิชญามาด้วย ทั้งที่หล่อนปฏิเสธแล้ว เพราะไม่อยากไปนั่งเป็นส่วนเกินแต่เขาก็ไม่ยอม สั่งให้หล่อนต้องมาจนได้
“เป็นเลขาพี่ราพณ์ เหนื่อยมั้ยฮะ... คุณพิช” คิมชวนหญิงสาวคุย เพราะเห็นหล่อนเกร็ง ๆ
“ไม่นี่คะ...ก็ปกติค่ะ” พิชญาตอบตามตรง
“เหรอฮะ...แสดงว่าคุณพิชต้องอึดมาก ๆ เลย ขนาดคุณเข็มยังแอบบ่นให้ฟังบ่อย ๆ”
“เอ้อ........คะ?” หญิงสาวฉงน
“.......ฮ่า...ฮ่า.........ขอโทษฮะ ผมหมายถึงพี่ราพณ์น่ะ จู้จี้ เจ้าระเบียบ ใครอยู่ด้วย ไม่รู้สึกว่าอึดอัดเนี่ย แสดงว่าต้องเก่งใช้ได้เลย” คิมยิ้ม ตาเป็นประกาย วิบวับ
“ให้มันน้อย ๆ หน่อย นายคิม...นินทาระยะเผาขนกันเลยนะนั่น” ราพณ์พูดแทรกขึ้นมา
“โธ่...พี่ราพณ์ ผมพูดเรื่องจริงนะฮะ ยังจำได้เลย ตอนอยู่อังกฤษด้วยกันน่ะ พี่คอยเก็บของ จัดของเป็นระเบียบเรียบร้อย จนหลัง ๆ ผมแทบจะไม่กล้าแตะต้องอะไรเลย เกรงใจ กลัววางไว้ไม่เหมือนเดิม” คิมเล่าพลางหัวเราะพยักเพยิดกับหญิงสาว
“ก็นายมันมันซกมก จะไม่ให้ฉันตามเก็บได้ยังไง”
โอย....ตายแล้วพิชญา...งงไปหมดแล้ว ตกลงว่าใครเป็นนายเอกกันแน่นะเนี่ย
“พี่ราพณ์ เล่นแฉผมอย่างนี้ ก็แย่สิฮะ...เดี๋ยวนี้ผมไม่เป็นอย่างนั้นแล้วนะครับคุณพิช ” คิมหันมาแก้ตัวกับพิชญา พลางตักอาหาร ใส่จานให้หญิงสาวอย่างเอาอกเอาใจ
ราพณ์มองชายหนุ่มรุ่นน้องปฏิบัติต่อเลขาสาวของเขาแล้ว รู้สึกขัดใจยังไงบอกไม่ถูก หวังว่าพิชญาจะไม่ลืมนะ ว่าหล่อนยังต้องแสดงบทบาทเป็นแฟนเขาอยู่
“...ปริ๊น......ปริ๊น....”
เสียงแตรรถดังขึ้นข้างหลังพิชญา เช้านี้หล่อนอุ้มเจ้าบู้บี้ไปฉีดวัคซีน คลินิกอยู่ห่างจากหมู่บ้านพอสมควร เรียกได้ว่าถ้าเดินก็เหนื่อยหน่อย เรียกแท็กซี่ก็ดูจะไม่คุ้ม หญิงสาวหยุดเดินหันไปมองทางต้นเสียง
“จะไปไหนคุณ” ราพณ์หยุดรถ ลงมาเรียก
“พาเจ้าบู้บี้ไปฉีดวัคซีนค่ะ” หญิงสาวตอบ แต่เจ้าตัวเล็กดิ้นรนดีใจ เมื่อได้ยินเสียงชายหนุ่ม มันคงจะจำได้
“ไง...เจ้าตัวเล็ก เจ็บตัวแน่วันนี้” ราพณ์เอานิ้วจิ้มจมูกเล็ก ๆ บู้บี้กระดิกหางรัว ๆ พยายามจะตะกายมาหา เขาจึงรับมันมาอุ้ม ลูบหัวลูบหางให้ด้วยความเอ็นดู
“ไปขึ้นรถ เดี๋ยวผมไปส่ง”
“ไม่เป็นไรค่ะ คลินิกอยู่ใกล้แค่นี้เอง” พิชญาเกรงใจ
“บู้บี้...บอกแม่ซิลูก..ว่าหนูจะไปกับพ่อ” ราพณ์ตีคลุม เป็นพ่อหน้าตาเฉย ส่วนเจ้าตัวเล็กเอียงคอขึ้นมองตาแป๋ว เกร็งหูฟัง
