บท
ตั้งค่า

12

เมื่อเห็นจำนวนเงินที่ชายหนุ่มยื่นให้ดู พิชญาใช้เวลาบวกลบคูณหาร สามวินาที ไม่ต้องคิดมากแค่นับได้หกหลัก ก็หูอื้อตาลายแล้ว

“ตกลงค่ะ” พิชญาตอบ พร้อมจดเลขบัญชีธนาคารส่งให้เขา

“อ้าว ! ไม่กลัวน้ำกรดแล้วรึ” ชายหนุ่มเลิกคิ้วถาม

“ก็แหม...ค่าจ้างขนาดนี้ พิชสู้ตายค่ะ” หญิงสาวตอบหน้าทะเล้น พร้อมชูสองนิ้ว

“....ฮ่า...ฮ่า........คุณนี่มันงก จริง ๆ เลย...” ชายหนุ่มยิ้มอารมณ์ดี ก้มหน้าก้มตาจัดการโอนเงินให้หญิงสาว ตามจำนวนที่เสนอไว้ ไม่ขาดไม่เกิน

“เรียบร้อย เริ่มงานได้เลย” ชายหนุ่มบอก หลังจากโอนเงินให้หญิงสาวเรียบร้อย เขาไม่ได้เสียดายเลยสักนิด เพราะเงินที่เขาหามาได้ ก็ใช้เพื่อความสะดวกสบายในชีวิตก็ถูกต้องแล้ว แลกกับการที่เขาจะไม่ต้องแต่งงาน มีพันธ รุงรัง คอยฉุดรั้งไม่ให้ได้ทะยานไปอย่างที่ฝัน เพราะมีคนคอยเรียกร้องเวลาและความเป็นส่วนตัวไปจากเขาตลอดเวลา

“ขอบคุณนะคะ....ว่าแต่ พิชต้องทำอะไรบ้างคะ” หญิงสาวถามขอบเขตงานของหล่อน เหมือนเป็นเรื่องธรรมดา ก็จะให้หล่อนรู้สึกอะไร ในเมื่อเขาก็เหมือน พี่สาว คนหนึ่ง

“ก็ทำตัวเป็นแฟนผมไง แสดงให้แนบเนียนหน่อยก็แล้วกัน ห้ามให้ใครรู้เด็ดขาด ว่าเราไม่ได้เป็นแฟนกันจริง ๆ แม้แต่คนที่บ้าน เข้าใจมั้ย” ราพณ์พูดจริงจัง ย้ำด้วยเสียงหนักแน่น

“ต้องขนาดนั้นเลยเหรอคะ แล้วคุณย่าล่ะคะ” พิชญาเริ่มวิตก ชักไม่ง่ายอย่างที่คิด จะเอ่ยปากบอกคุณย่ายังไงดี แต่ ช่างเถอะ ! เดี๋ยวค่อยคิด

“คุณย่าก็ห้ามบอก เพราะที่บ้านผมเขาเก่งมากในเรื่องการสืบเสาะ แกะรอย” นอกจากมารดาของเขาแล้ว ยังมีแม่ใหญ่อีกคนที่คอยสอดส่อง ความเป็นไปของเขาซึ่งจะเป็นผู้สืบทอดวงศ์ตระกูล ยังไม่นับรวมพี่สาวอีกสามคนอีกด้วย

“เราต้องแสดงแบบนี้นานแค่ไหนคะ”

“จนกว่าที่บ้านผมเขาจะเลิกจับคู่ให้นั่นแหละ”

“ถ้าเป็นสิบปี ทางบ้านคุณก็ยังไม่เลิกจับคู่ พิชไม่ขึ้นคานเหรอคะ...ว้า..มันจะคุ้มมั้ยเนี่ย” พิชญาหมายความตามนั้น ไม่ได้คิดจะโก่งค่าตัวสักนิดเดียว

“หาแฟนให้ได้ก่อนเถอะ แล้วค่อยมาว่ากันใหม่ ผมไม่ได้ใจดำขนาดนั้นหรอกน่า” ชายหนุ่มปรามาส โก๊ะ ๆ อย่างนี้ หล่อนคงจะหาแฟนได้หรอก เขาเผลอยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว

“โอย...ค่อยยังชั่ว” หญิงสาวโล่งอก ถึงหล่อนจะยังไม่มีแฟน แต่ก็ไม่คิดจะอยู่เป็นโสดไปตลอดชีวิตหรอกนะ น่าเสียดาย เจ้านายหล่อ เท่ห์ระเบิดขนาดนี้ ไม่น่าเป็นเกย์เลย

“เฮ้อ ! แก่แดดจริง ๆ เลยคุณนี่ เขินอายแบบผู้หญิงน่ะเป็นมั้ย” ราพณ์ ถอนใจให้กับความตรงเกินหญิงของเลขาสาว หล่อนช่างไม่มีจริตจะก้านเอาเสียเลย

“จะให้พิชอายเรื่องอะไรล่ะคะ พูดความจริงทุกคำ” หญิงสาวบ่นกับตัวเองมากกว่าจะอยากเถียงเจ้านายหนุ่ม

“แล้วเมื่อกี้ หอบแฟ้มอะไรมา เอามาดูสิ” เมื่อทุกอย่างเรียบร้อย เขาก็คิดถึงงาน งานคือชีวิตและความสุขของคนอย่างเขา

“อ่อนี่ค่ะ...ถ้าไม่มีอะไร พิชออกไปก่อนนะคะ” หญิงสาวยกนิ้วขึ้นแตะริมฝีปากตัวเอง ก่อนจะเอาไปแตะแก้มเขา ยิ้มหน้าทะเล้น

“ไปก่อนนะคะ...คุณแฟน” พิชญาทำเป็นหลิ่วตา ทำท่าเซ็กซี่ แต่มันคงดูตลกมากกว่าล่ะมั้ง เจ้านายถึงทำหน้าอย่างนั้น

“คุณนี่มันล้นจริง ๆ .....” ชายหนุ่มยิ้ม.....อีกแล้ว...เขาไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าเวลาอยู่กับเลขาสาวแล้ว เขายิ้มบ่อยแค่ไหน

เรยา ทำอย่างที่พูดไว้จริง ๆ เรื่องไม่จบง่าย ๆ หล่อนแล่นมาหา คุณโฉมนภา มารดาของราพณ์ มาร้องไห้สะอึกสะอื้นอยู่เป็นนาน กว่าจะเล่าออกมาได้ว่าเกิดอะไรขึ้น

“คุณป้าขา...คุณราพณ์กำลังหลงเด็กใจแตก ถึงขนาดไล่เลขาเก่าออก เอาเด็กนั่นมาเป็นเลขา แทนเลยนะคะ” หญิงสาวบรรจงเล่าเรื่อง ด้วยความรันทดอย่างสุดซึ้ง

“จริงเหรอจ๊ะ... หนูเรยา ตาราพณ์ทำอย่างนี้ได้ยังไง” คุณโฉมนภา ตกใจยกมือทาบอก แสงเพชรจากแหวน สามวงบนนิ้วนางและนิ้วกลาง ทั้งสองข้าง วูบวาบเข้าตาเรยาเต็มที่

“จริงค่ะ วันนี้หนูเข้าไปหาคุณราพณ์ เด็กนั่นแสดงอาการหึงหวง ไม่พอใจใหญ่เลยค่ะ ถึงกับจะทำร้ายร่างกายหนูเลยนะคะ” เรยาบีบน้ำตา เล่าต่อ

“แล้วตาราพณ์ยอมได้ยังไง ยัยเด็กนั่นทำถึงขนาดนี้มันต้องไล่ออกสถานเดียว” คุณโฉมนภาเป็นเดือดเป็นแค้นแทน ว่าที่ลูกสะใภ้ ที่หล่อนคัดสรรมาเองกับมือ เพราะหล่อนเป็นลูกสาวของเพื่อนรัก คุณสมบัติครบถ้วน ทั้งรูปโฉม การศึกษา และชาติตระกูลที่ทัดเทียมกัน แค่คิดว่าลูกชายจะไปคว้าเด็กใจแตกมาอยู่ข้างกาย ใจของผู้เป็นแม่ก็ย่อมจะร้อนรุ่มเป็นธรรมดา

“คุณราพณ์น่ะหรือคะ นอกจากจะไม่ว่าอะไรแล้ว ยังไล่หนูออกมา ราวกับ...ฮือ..ฮือ.....หนูถึงต้องมาลาคุณป้านี่ไงคะ ต่อไปนี้คงไม่กล้ามาแล้วค่ะ” หญิงสาวพูดไปร้องไห้ไป ใบหน้าสลด หม่นหมอง เป็นที่น่าเวทนานัก

“ไม่ต้องลาไปไหนทั้งนั้น ป้าจะจัดการตาราพณ์ให้เองจ๊ะ โธ่ ! หนูเรยาของป้า...คงจะเสียใจน่าดู ป้าขอโทษแทนลูกชายป้าด้วยนะจ๊ะ” คุณโฉมนภา ลูบหลังลูบไหล่ กอดปลอบใจหญิงสาวผู้แสนจะอ่อนโยนและเรียบร้อยในสายตาของหล่อน

“สวัสดีครับ..คุณแม่” ราพณ์รับโทรศัพท์จากมารดาในช่วงบ่ายของวันเดียวกัน ไม่ได้รู้สึกแปลกใจเลย กำลังรออยู่ด้วยซ้ำ

“นี่ ตาราพณ์เราไปทำอะไรไว้กับหนูเรยา เขาเสียใจมากเลยนะลูก” คุณโฉมนภายิงคำถามเข้าประเด็น ไม่อ้อมค้อม

“คุณแม่น่าจะถามผมมากกว่านะครับ ว่าเรยาทำอะไรไว้บ้าง”

“หนูเรยา เขาเล่าให้แม่ฟังหมดแล้ว เหลือแต่เรานั่นแหละ มีอะไรปิดบังแม่หรือเปล่า” ผู้เป็นแม่รอคำสารภาพจากปากลูกชาย ส่วนที่เรยาเล่ามา นางเชื่อโดยสนิทใจ

“โธ่..คุณแม่ ทำอย่างกับว่า ผมไปฆ่าไปแกงใครอย่างนั้นแหละ” ชายหนุ่มโอดครวญ ทำใจไว้แล้วว่าสิ่งที่มารดารับรู้คงไม่ค่อยจะตรงกับความเป็นจริงนัก เขาไม่ทันคิดว่ามันอาจจะเป็นคนเรื่องกันเลยก็ได้

“ตกลง แกไม่ยอมบอกแม่ใช่มั้ย” คุณโฉมนภา คาดคั้น

“คุณแม่อยากรู้เรื่องอะไรล่ะครับ ผมมีตั้งหลายเรื่องที่คุณแม่ยังไม่รู้” ชายหนุ่มพลิ้วไปเรื่อย อันที่จริงเขาพอจะรู้ว่ามารดาอยากรู้เรื่องอะไร มีหรือ เรยาจะไม่ฟ้องเรื่องพิชญา แต่ก็ไม่อยากโกหกโดยไม่จำเป็น เลี่ยงได้ก็เลี่ยงไปก่อน

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel