11
สาวสวย นามเรยา เข้าประชิดติดเก้าอี้ที่ชายหนุ่มนั่งอยู่ หล่อนค่อย ๆ หย่อนสะโพกงามงอน ลงนั่งกับที่เท้าแขน สองมือโอบกอดรอบคอชายหนุ่ม ริมฝีปากสีแดงสด แย้มยิ้มเชิญชวนอย่างไม่ปิดบัง
“ราพณ์ ผิดนัดเรยานี่คะ แอบไปเที่ยวเกาหลีก็ไม่บอกกันด้วย”หญิงสาวทำแง่งอนราวกับสาวรุ่น
“ผมไปทำงาน”
“อย่างนี้ต้องลงโทษค่ะ” หญิงสาวก้มลงแตะริมฝีปากกับมุมปากชายหนุ่ม
“เรยา คุณอย่าทำแบบนี้ นี่มันห้องทำงาน” ราพณ์ เบี่ยงตัว แกะมือของหญิงสาวออก วันนี้หล่อน รุกจนน่าตกใจ เขาไม่คิดว่าหญิงสาวจะกล้าขนาดนี้ แรกทีเดียว คิดว่าน่าจะพอคบกันเป็นเพื่อนได้ แต่หลัง ๆ มานี้ หล่อนชักจะทำตัวเลยเถิด แสดงความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ จนออกนอกหน้า อาจจะเป็นเพราะเขาไม่เคยพูดกับหล่อนให้ชัดเจนก็ได้ ได้แต่อ้อม ๆ หวังว่าหล่อนจะเข้าใจได้เอง
“ทำไมเหรอคะ...กลัวแม่เลขาสาว หน้าห้องจะเข้ามาเห็นหรือไงคะ” เรยาขัดใจ นอกจากเขาไม่เคลิ้มแล้วยังทำท่ารังเกียจอีกด้วย หญิงสาวเริ่มขุ่นมัว อันที่จริงหล่อนรู้สึกใจคอไม่ค่อยดี ตั้งแต่วันแรก ที่เห็นหน้าใส ๆ ของเลขาคนใหม่แล้ว
“ถ้าผมบอกว่าใช่ล่ะ” ราพณ์ เห็นช่องทางในการจัดการปัญหาให้เด็ดขาด ตัดสินใจเอาหญิงสาวขึ้นมาอ้าง โดยพลการ
“ราพณ์ อย่าล้อเรยาเล่นหน่อยเลยค่ะ เด็กนั่นน่ะเหรอคะ ไม่ประสีประสาหรอก จืดชืด !” เรยาทำปากแข็ง ทั้งที่กลัวว่าสิ่งที่กังวลจะเป็นจริง
“ผู้ชายไม่ได้ชอบกินแกงเผ็ด เหมือนกันทุกคนหรอกนะ” ชายหนุ่มยอกย้อน
“แต่ถ้าจะให้ซดแกงจืดทั้งปีทั้งชาติก็คงไม่ไหวมั้งคะ” เรยาไม่ลดละ หล่อนมั่นใจในความแซ่บของตัวเอง และผู้ชายที่ผ่านมาของหล่อน ก็เป็นเครื่องตอกย้ำความมั่นใจนั้นเสียด้วยสิ
“บังเอิญผมค่อนข้างรักษาสุขภาพด้วยสิครับ รับของเผ็ดไม่ไหว” ราพณ์ตัดรอน ไม่จำเป็นต้องรักษาน้ำใจกันอีกต่อไป จะได้จบ ๆ กันเสียที
“นี่ตกลงคุณมีอะไรกับแม่เลขานั่นจริง ๆ ใช่ไหมคะ” เรยาเสียงขุ่นเขียว ถ้าไม่เกรงใจหล่อนอยากจะลุกขึ้นเต้นเร่า ๆ ให้หายอัดอั้น
“กรุณาให้เกียรติคนของผมด้วย..เรยา” ชายหนุ่มตอบ หน้าตึง
“ทำไมล่ะคะ ก็ในเมื่อมันง่ายขนาดนั้น มาไม่ทันไร ก็แอบกินเจ้านายแล้ว” หญิงสาวขึ้นเสียง ไม่ทันที่ชายหนุ่มได้ตอบอะไร หล่อนก็ปรี่ไปที่ประตู กำลังจะผลักออกไป พอดีพิชญาหอบแฟ้มเดินสวนเข้ามาเสียก่อน
“มาก็ดีแล้ว อยากรู้นักว่าหน้าใส ๆ แบบนี้จะทนทานขนาดไหน” เรยาเปิดฉากโจมตีทันที
“อะไรกันคะ...ดิฉันไม่เข้าใจ” พิชญางงงวย ที่อยู่ ๆ สาวสวยคนเมื่อครู่ กลายร่างเป็นนางยักษ์หน้าตาถมึงทึง
เรยากระชากแขนพิชญาอย่างแรง เงื้อมือจะฟาดฝ่ามือใส่ใบหน้าอ่อนใสที่ไม่ทันได้ระวังตัว
“หยุดเดี๋ยวนี้นะ!...” ราพณ์สั่งเสียงเข้ม เขาเข้ามาคว้ามือของเรยาไว้ได้ทัน ก่อนที่มันจะฝากร่องรอยไว้บนใบหน้าของสาวน้อย
“ทำไม คุณต้องปกป้องมันขนาดนี้คะ หรือว่าไปกันถึงไหนต่อไหนแล้วล่ะ” หญิงสาวเอ่ยออกมาได้ต่ำเตี้ย พอ ๆ กับระดับจิตใจของหล่อนเลยทีเดียว
“หยุดหยาบคายได้แล้ว เรยา คุณกลับไปซะ!” ชายหนุ่มตวาดเสียงดัง
“คุณกล้าไล่ เรยาหรือคะ ก็ได้ค่ะ เรื่องนี้ต้องไม่จบแค่นี้แน่ ๆ” หญิงสาวสะบัดหน้าพรืด... แต่ยังไม่วายหันมาจ้องหน้าพิชญาราวกับจะกินเลือดกินเนื้อก่อนจะกระแทกส้นเท้าเดินออกจากห้องไป ครั้งนี้พิชญาเกร็งตัวเตรียมพร้อมเต็มที่
ชายหนุ่มทิ้งตัวลงนั่งพิงพนักเก้าอี้ อย่างเบื่อหน่าย คนบางคนแม้แต่ความเป็นเพื่อนก็ให้ไม่ได้จริง ๆ
“เกิดอะไรขึ้นคะ ทำไมคุณเรยาเขาถึงกับจะกินเลือดกินเนื้อพิชแบบนั้น” หล่อนเดาว่าต้องเกิดศึกใหญ่ก่อนหน้าที่หล่อนจะเข้ามาในห้องนี้แน่ ๆ
“เขานึกว่าคุณมีอะไรกับผมน่ะสิ” ชายหนุ่มอธิบายง่าย ๆ
“อร้าย......คิดอย่างนั้นเข้าไปได้ยังไง” หญิงสาวร้องเสียงหลง
“เขาคิดไปแล้วล่ะ”
“แล้วทีนี้ จะทำยังไง ทำไมคุณไม่บอกความจริงไปล่ะคะ” พิชญาร้อนใจ
“ดีแล้ว เขาจะได้เลิกตอแยสักที” ชายหนุ่มไม่เห็นเป็นเรื่องสำคัญ
“ได้ยังไงล่ะคะ ความซวยจะมาลงที่พิชน่ะสิคะ ดูตอนเขาจ้องหน้าอาฆาตนะ...อึ๊ย...” พิชญาทำหน้าสยอง บ่นกระปอดกระแปด
“ถ้าอย่างนั้น ผมจ้างคุณ” ชายหนุ่มโพล่งออกมา
“อะ...อะไร..นะคะ” หญิงสาวติดอ่างกะทันหัน
“ผมจ้างคุณ ให้ช่วยเป็นแฟนผมหน่อย แค่นี้ไม่เห็นต้องตกใจขนาดนั้น” ราพณ์ เริ่มหงุดหงิด ไหน ๆ เรยาก็เข้าใจผิดแล้ว อีกไม่นานมารดาเขาต้องรู้เรื่องนี้แน่ แล้วก็สรรหาผู้หญิงส่งมาให้ใหม่อีกไม่จบไม่สิ้น สู้เอาพิชญาเป็นไม้กันหมาไว้ ก็ดีเหมือนกัน
“ไม่อ่ะค่ะ..ไม่เด็ดขาดเลย” หญิงสาวส่ายหน้า ปฏิเสธรัว ๆ
“ทำไมล่ะพิช..ไม่เห็นยากตรงไหนเลย”
“ถ้าคุณเรยา เขาไม่ยอมเลิก กลับมาดักสาดน้ำกรดเหมือนในละครล่ะคะ พิชไม่แย่เหรอ”
“......ฮ่า...ฮ่า........คุณนี่ดูละครมากไปหรือเปล่า งั้นเอาอย่างนี้ก็แล้วกัน” ชายหนุ่มยื่นกระดาษที่เขียนจำนวนเงินค่าจ้าง มาให้ดู
“ถ้าตกลง ก็กรอกเลขบัญชีมา จะโอนให้เดี๋ยวนี้แหละ”
“...................”
